“บิ๊กตู่” ลงใต้ ปลุกคนไทยต้องมีความสามัคคี ใครก็มาแบ่งแยกไม่ได้ อ้อนชาวบ้านขอเสียงหนุน เชื่ออีก 5 ปีข้างหน้าจะดีขึ้นจากโครงการที่ได้ทำไว้ 13 ส.ส.พปชร.รอรับพรึ่บ ขณะที่ “บิ๊กป้อม” แยกลงพื้นที่ จ.สระแก้ววันนี้ ยัน 2 ป.บอกกล่าวกัน ด้าน "เพื่อไทย" ลุยพื้นที่ลพบุรี จี้รัฐบาลเร่งระบายน้ำช่วยชาวบ้านให้กลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. เวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน,  นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม, นายสุรสีห์ กิตติมณฑลเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ มี ส.ส.ภาคใต้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาต้อนรับและลงพื้นที่ด้วยเกือบทั้งหมด ประกอบด้วย ส.ส.นครศรีธรรมราชทั้ง 4 คนคือ นายรงค์ บุญสวยขวัญ, นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง, นายสายัณห์ ยุติธรรม และนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส่วน ส.ส.ตรัง มีนายนิพันธ์ ศิริธร ขณะที่ ส.ส.ภูเก็ต นายนัทธี ถิ่นสาคู, นายสุทา ประทีป ณ ถลาง และ ส.ส.สงขลาทั้ง 4 คนคือ นายวันชัย ปริญญาศิริ, นายศาสตรา ศรีปาน, นายพยม พรหมเพชร, ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ขณะส.ส.ยะลา นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ และนายวัชระ ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส ขาดเพียงนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เนื่องจากป่วย
จากนั้นคณะได้เดินทางมายังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อสักการะองค์พระบรมธาตุเจดีย์ และได้พบปะกับพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับบริเวณหาดทรายแก้ว เพื่อให้กำลังใจการทำหน้าที่นายกฯ ต่อไป ซึ่งบรรยากาศบางช่วงบางตอนนายกฯ หยอดคำหวานกับประชาชนว่า "คิดถึงจังฮู้" พร้อมกับพูดคุยและถ่ายภาพร่วมกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง  ก่อนจะเดินทางขึ้นรถไปยังคลองหน้าเมือง เพื่อตรวจสถานที่รองรับการระบายน้ำ ต่อด้วยถนนพุทธภูมิ และชุมชนมะม่วงสองต้น
ระหว่างการตรวจราชการครั้งนี้ มีกลุ่มชาวบ้านและเด็กๆ ในเขตเทศบาลถือป้ายซึ่งเขียนบนลังกระดาษเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์หลายข้อความ เช่น ลุงตู่สู้ๆ, ลุงตู่อย่ายอมแพ้, ลุงตู่สู้ตาย เป็นต้น โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินเข้าไปทักทายขอบคุณพี่น้องประชาชนอย่างเป็นกันเอง และขอบคุณชาวนครศรีธรรมราชที่มารอต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งในวันนี้ โดยนายกฯบอกว่าตนพร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศต่อไปโดยไม่ท้อถอยแน่นอน และรักทุกคน ก่อนทำสัญลักษณ์มือไอเลิฟยูส่งให้ประชาชนได้ส่งเสียงเฮลั่น และขอถ่ายกับนายกฯ ตู่จนแน่น พร้อมตะโกนเสียงลุงตู่สู้ๆ ตลอดเวลา ทำเอา พล.อ.ประยุทธ์ เดินยิ้มแก้วปริโดยไร้เงากลุ่มต่อต้านเข้ามาป่วนบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีสมาคมประมงพื้นบ้านเดินทางมารอเพื่อยื่นหนังสือต่อนายกฯ โดยนายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมฯ แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่สกัดเพื่อไม่ให้เข้ายื่น โดยขอให้ยื่นผ่านตัวแทน
เวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาบริเวณถนนพุทธภูมิ (ด้านถนนเลียบทางรถไฟ จุดยูเทิร์นที่ 1) ต.โพธิ์เสด็จ เพื่อตรวจแผนการป้องกันอุทกภัยและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้นายกฯ รัฐบาลและ ส.ส.ผู้แทนของท่านได้ส่งข้อมูลขึ้นมาว่า ประชาชนเดือดร้อนอะไรเราจะดูแลให้ ขณะเดียวกันวันนี้ต้องเตรียมการเรื่องโควิด ย้ำว่ายังต้องสวมหน้ากากล้างมือ ตนก็ห่วงตัวเองว่าเป็นแล้วจะไปติดคนอื่น เพราะอยากอยู่ใกล้ชิดกับทุกคนให้มากขึ้น
ขอเวลาอีก 5 ปีดีขึ้น
“แต่ใจถึงใจอยู่แล้ว คนเมืองคอนรู้ว่าเรารักกันอยู่แล้ว คนใต้รักใครรักจริง อยากจะบอกว่าท้ายที่สุดนี้ไม่มีอะไร เพียงเราต้องอยู่ด้วยความรักความสามัคคี อย่าให้ใครมาบ่อนทำลายได้สังคมต้องอยู่ด้วยกัน พ่อแม่พี่น้องพี่ป้าน้าอา ใครจะมาทำลายไม่ได้ นี่คือสันหลังของประเทศไทย สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งสำคัญยิ่งของประเทศเรา เราต้องมีความรักความสามัคคี ไม่เกลียดชัง ให้ร้ายกัน และฟังในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อยากบอกว่ารักจังฮู้ เพราะคิดถึงจึงมาหา และมาดูแลเตรียมความพร้อมเครื่องป้องกันน้ำท่วม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ในช่วงท้าย นายกฯ แนะนำตัวรัฐมนตรีที่เดินทางมาด้วย และเรียก ส.ส.นักการเมืองที่มาต้อนรับทีละคนให้ออกมาแนะนำตัวกับชาวบ้าน พร้อมกล่าวว่าวันนี้มี ส.ส.มาจากหลายพื้นที่ ไม่ใช่แค่ ส.ส.นครศรีธรรมราช แต่มีทั้ง ส.ส.สงขลา นราธิวาส ภูเก็ตอีกด้วย โดยยืนยันตนเองดูทุกพื้นที่อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมี ส.ส. ระบุว่านอกจาก ส.ส.ภาคใต้ ยังมี ส.ส.นครสวรรค์ พิจิตร และพิษณุโลก มาด้วย โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "เราต้องไปด้วยกัน วันนี้เราต้องเข้มแข็งด้วยตัวเราเอง"
เวลา 15.00 น. ที่ ต.มะม่วงสองต้น อ.เมืองนครศรีธรรมราช นายกรัฐมนตรีไปตรวจเยี่ยมศูนย์ดิจิทัลชุมชน โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำว่า วันนี้เราทำงานร่วมกัน ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้งบรรดา ส.ส.ต่างๆ ก็ดูแลความต้องการของประชาชนในพื้นที่ 
"ผมเชื่อมั่นกับท่าน รู้จักท่านมาหลายปีแล้ว มาที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 4 ครั้ง ก่อนหน้านั้นเป็น ผบ.ทบ. ผมเห็นหลายอย่างต้องเห็นกับตา ว่าหลายอย่างดีขึ้น หลายอย่างยังคงไม่ดีนัก หลายอย่างต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไข เราจะช่วยกันกับบรรดา ส.ส.ของท่าน ส.ส.ของรัฐบาลหรือ ส.ส. อะไรก็แล้วแต่ ที่รับฟังความเห็นจากประชาชนมา ก็นำมาสู่กลไกการบริหารให้ถูกต้อง เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องไม่ให้ใครมาแบ่งแยกพวกเราเป็นกลุ่มเป็นฝ่าย ให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี เพื่อจะพาคนในชาติเจริญก้าวหน้าไปพร้อมกัน ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ด้วยการเรียนรู้เข้าใจซึ่งกันและกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันนี้นำหัวใจ นำความห่วงใย นำความคิดถึงของคนกรุงเทพฯ ของรัฐบาลมาด้วย รัฐบาลรักทุกคน ทุกคนช่วยกันทำให้ชาติบ้านเมืองปลอดภัย ช่วยกันรักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง นึกอะไรไม่ออกตอนเช้า ขอให้ลองฟังเพลงชาติให้ชัดอีกที ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ความหมายของเพลงชาติคืออะไร เริ่มตั้งแต่วันแรกจนประโยคสุดท้ายของเพลงชาติ พร้อมขอให้ฟังเพลงสามัคคีชุมนุม ตนขอ 2 เพลงเท่านั้น จะทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นคนไทย เรารวมกันมาจากไหนเราเป็นชาติได้อย่างไร 
"ถ้าเราไม่รู้จักประวัติศาสตร์ว่ามาจากไหน ก็จะไม่รู้ว่าจะรักประเทศชาติได้อย่างไร รักจังหวัด รักเพื่อนพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงได้อย่างไร เพราะเราเป็นคนชาติเดียวกัน ใครก็มาแบ่งแยกไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ตนคาดหวังจากทุกคน ขอแค่นั้นเอง ให้สัญญากับผมได้หรือไม่ หากได้ขอให้ปรบมือ ซึ่งจะเป็นกำลังใจให้กับผมและคณะทั้งหมดเพื่อทำงานให้ประชาชนให้ดีที่สุด ทั้งนี้ทุกอย่างต้องใช้เวลาและต้องแก้ไขทั้งหมด ผมคิดว่าใน 5 ปีข้างหน้าหลายอย่างต้องดีขึ้นจากโครงสร้างที่ทำใหม่ทั้งหมด เหลือเพียงว่าคนจะเข้าถึงได้อย่างไร" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
จากนั้นนายกฯ เดินทักทายประชาชนพร้อมร่วมถ่ายรูปด้วย จังหวะหนึ่งนายกฯได้ร่วมยืนร้องเพลงชาติพร้อมระบุด้วยว่า “ประเทศไทยของเราจงเจริญ"
ฝ่ายค้านจี้รัฐช่วยชาวบ้าน
ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. ให้สัมภาษณ์กรณี ส.ส.ต่างลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนว่า ได้กำชับให้ช่วยประชาชนให้ประชาชนให้อยู่ดีกินดีโดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วม ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้ช่วยเหลือถุงยังชีพไปจำนวนมาก 
เมื่อถามว่าการลงพื้นที่สระแก้วในวันที่ 8 ต.ค. เพื่อดูสถานการณ์น้ำท่วม ได้แจ้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมหรือไม่ ว่าการลงพื้นที่ของตัวได้บอกกล่าวนายกฯ และนายกฯ ก็ได้บอกตนว่าวันนี้ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่างคนต่างบอกกันเพื่อช่วยกันไปทำงานช่วยประชาชน และรองนายกฯคนอื่นก็ลงพื้นที่ ทำไมไม่พูดกันบ้าง และ ตอนนี้ทุกพรรคการเมืองเขาก็ลงกันหมดเพื่ออยากช่วยประชาชนให้ดีขึ้น
 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชของนายกฯ ว่าได้มอบหมายให้ ส.ส.นครศรีธรรมราชของพรรคต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ในการลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เพราะต้องให้เกียรตินายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และให้ส.ส.รายงานภาพรวมปัญหาในพื้นที่ด้วย โดยต้องดูหน้างานว่านายกฯ มีเวลาและต้องการรับทราบปัญหาใดบ้าง แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนในพื้นที่ก็ทำงานหนักอยู่แล้ว จึงทราบปัญหาดี ที่จริงคงอยากรายงานนายกฯ ด้วยว่ามีปัญหาอะไรที่ยังติดขัด ที่ต้องแก้ปัญหาในระดับรัฐบาลต่อไป
ทางด้านพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค, น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค, นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พร้อมด้วยอดีต ส.ส.ลพบุรี นำโดยนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ลงพื้นที่ บ้านเนินยาวและวัดบ้านคลอง ต.หนองทรายขาว และวัดหนองเมือง ต.หนองเมือง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งต้องจมอยู่ในน้ำมานานมากกว่า 10 วัน
    นายประเสริฐกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ต้องอยู่อย่างยากลำบากเป็นเวลานาน เนื่องจากน้ำท่วมขังมานานนับสิบวัน แต่ระดับน้ำกลับไม่ลดลง ซึ่งตลอดการลงพื้นที่ได้เห็นอย่างชัดเจนว่านาข้าวของชาวบ้านจมน้ำจำนวนมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงควรเร่งหาทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพื่อช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว รวมทั้งบรรเทาความเสียหายอันเกิดจากน้ำท่วมนาข้าวและผลผลิตอื่นๆ ของพี่น้องประชาชนด้วย
     “พื้นที่อำเภอบ้านหมี่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมด้วยตัวเอง พร้อมกับมีมาตรการเยียวยาให้เกษตรกรอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลเร่งพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน”.