7 ต.ค.64- ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงข่าว"สถานการณ์โควิด 19 และมาตรการควบคุมป้องกันการระบาด Covid Free Setting / Universal Prevention" นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. กล่าวว่า สถานการณ์การฉีดวัคซีนในประเทศไทยยอดรวมกว่า 57 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 33.7 ล้านคน เฉลี่ย 46.9% เข็มที่ 2 จำนวน 22 ล้านคน เฉลี่ย 30.5% และเข็มที่ 3 เฉลี่ย 1.6 ล้านคน หรือ 2.2% แยกเป็นกลุ่มเป้าหมายในการได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เฉลี่ย 59.3% กลุ่มผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เฉลี่ย 62% และในกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาที่ตั้งเป้าฉีดไว้จำนวน 4 ล้านโดส ขณะนี้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 74,501 คน เฉลี่ย 1.7% จากข้อมูลการฉีดวัคซีนในภูมิภาคอาเซียนไทยอยู่ในอันดับที่ 2 ที่มีประชากรได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส 50% และประเทศอินโดนีเซียที่ฉีดมากที่สุดถึง 150 ล้านโดสแต่เนื่องจากประชากรมาก จึงครอบคลุมประชากรเพียง 34.7%
“ส่วนเป้าหมายในเดือนพ.ย.64 ประชาชนต้องรับวัคซีนจำนวนเข็มที่ 1 ให้ได้ 53 ล้านคน 75% เข็มที่ 2 ได้ 39 ล้านคน คิดเป็น 55% นั่นหมายความว่า เราสามารถทำได้ตามแผน มีวัคซีนอย่างเพียงพอ และได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการฉีดวัคซีน เราก็จะทำได้ตามมาตรฐานโลกในการฉีดวัคซีนของประเทศที่พัฒนาแล้ว และในเดือนธ.ค.64 วัคซีนจะครอบคลุมในเข็มที่ 1 ถึง 60 ล้านคน เฉลี่ย 85% เข็มที่ 2 จำนวน 49 ล้านคน เฉลี่ย 70% หมายความว่าเมื่อถึงสิ้น ธ.ค. เกือบทุกคนในประเทศไทยจะได้รับวัคซีนเรียบร้อยอย่างน้อย 2 เข็ม และเข็ม 3 ก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นต่อไป หากการดำเนินงานเป็นไปตามแผน คาดว่าในวันที่ 1 ม.ค.65 สถานการณ์จะคลี่คลายได้มาก การดำเนินชีวิตต่างๆ ก็คงกลับมาอยู่ในรูปแบบปกติ แบบวิถีใหม่(New normal)” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า การผ่อนคลายมาตรการต่างๆไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวในร้านอาหาร หรือโรงหนัง หรือกิจกรรมต่างๆ ดังนั้นสถานที่หรือสถานประกอบต้องมีความปลอดภัย มีอากาศถ่ายเท พนักงานและลูกค้าจะต้องมีภูมิจากการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและประเทศได้หน้าต่อไป
เมื่อถามถึงสถานการณ์การระบาดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ไม่นานนี้ในจังหวัดยะลา สงขลา ปัตตานี พบว่ามีการระบาดทั้ง 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เบตา แอลฟ่า เดลต้า ซึ่งสายพันธุ์เดลต้ามีการแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์แอลฟ่า จึงได้มีการดำเนินการมาตรการ universal prevention การกระจายวัคซีนเข้าในพื้นที่ รวมไปถึงการตรวจ ATK เชิงรุก และการรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึง มีจำนวนเตียงที่เพียงพอในการรองรับ คาดว่าในอีก 1 เดือนสถานการณ์ในภาคใต้ก็จะดีขึ้น
ด้านนพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงผลสำรวจพฤติกรรมการปฏิบัติตามมาตรการ universal prevention ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค -17 ก.ย.64 ในภาพรวมประชาชนทำได้ตามมาตรการ 44% แต่ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน คือ เรื่องการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่กับคนในบ้านอยู่ที่ 65% เมื่อเทียบการตรวจ ATK หากสงสัยว่ามีความเสี่ยงอยู่ที่ 73.6% ส่วนมาตรการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวดและพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ซึ่งได้มีการนำมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร(Covid Free Setting) เพื่อแบ่งกิจการและกิจกรรมตามระดับความเสี่ยงรวม 19 กิจกรรม/กิจการ โดยกลุ่มความเสี่ยงสูง เช่น ร้านสัก ร้านทำเล็บ โรงยิม/ฟิตเนส ที่มีเครื่องปรับอากาศ โรงงเรียน ตลาด ที่จะต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยง อาทิ สุขลักษณะ ความสะอาด การระบายอากาศ รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆที่มีการสัมผัสอย่างใกล้ชิด ลดการแพร่ระบาดในวงกว้าง
นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า โดยในวันนี้การตรวจเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK จำนวน 96,535 คน พบผลบวก 4,783 คน แต่ในส่วนของ ATK ที่แจกให้กับประชาชนได้ตรวจเองยังมีการรายงานผลเข้ามาน้อยไม่ถึง 10% อยากจะย่ำว่าชุดตรวจ ATK จึงนับว่าเป็นอีกเครื่องมือสำคัญในการตรวจเชิงรุก และหากมีอาการสงสัยว่าสัมผัสเสี่ยงหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงควรรีบตรวจด้วย ATK เนื่องจากมีการพบคลัสเตอร์ในกลุ่มย่อยๆอยู่หลายจุด เช่น กลุ่มคนที่ไปร่วมงานศพ กลุ่มคนทำล้งผลไม้ กลุ่มคนไปตลาด ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนประเมินความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ ดังนั้นเมื่อสงสัยควรตรวจทันที
“ขณะนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้บอกว่ามีการแจ้งชื่อแสดงความจำนงค์ของเข้ารับวัคซีนจำนวน 3.6 ล้านคน และมีแจ้งเพิ่มเติมอีกกว่า 1 แสนคน ซึ่งหลายคนมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งกล้ามเนื้อและเยื้อหุ้มหัวใจอักเสบ ซึ่งพบในอัตราที่ต่ำมากตั้งแต่เริ่มฉีดในเด็กกลุ่มที่มีโรคประจำตัวกว่า 1 แสนคน พบเพียง 6 คน ที่มีอาหารแน่นอก ใจสั่น หายใจเหนื่อย หรือหน้ามืดเป็นลมหมดสติ แต่สามารถรักษาหายได้ ดังนั้นหากเด็กได้รับวัคซีนหลัง 1-5 วัน พบอาการเหล่านี้ควรรีบแจ้งผู้ปกครองเพื่อเข้าพบแพทย์” นพ.เฉวตสรร ระบุ
...
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |