7 ต.ค.64 - ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.แถลงผลการชุมนุมในวันนี้จำวน 3 จุด จุดแรกกลุ่มพลเมืองโต้กลับชุมนุมหน้าศาลฎีกาเริ่มเวลา 17.00 น.กลุ่มที่เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิของประชาชน รวมตัวกันที่หน้าประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มที่ 3 กลุ่มทะลุแก๊สใต้ด่วนดินแดง คาดว่าจะมีการก่อความไม่สงบก่อความวุ่นวายในสถานที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม บช.น.ได้เตรียมกำลังพร้อมยุทโธปกรณ์เพื่อดูแลความปลอดภัย โดยน้ำย้ำทำงานภายกอบของกฎฆมายเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

สำหรับการชุมนุมเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ของกลุ่มพลเมืองโต้กลับไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนการชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ มีทั้งภาคเช้าภาคบ่ายยุติการชุมนุมเวลา 19.35 น. การชุมนุมภาคบ่ายมีการเผาศพจำลองที่สนามฟุตบอล แต่ไม่ได้รับผลกระทบต่อทรัพย์สินของราชการ ส่วนกลุ่มทะลุแก๊ส เริ่มชุมนุมที่ถ.มิตรไมตรี 2 มีการเขวี้ยงประทัดยักย์ ระเบิดเพลิง กระทั่งเวลา 20.00 น. มีการเผายางรถใต้ด่วนดินแดง กระทั่งเวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมพื้นที่ปฏิบัติการสลายการชุมนุมของผู้ก่อความไม่สงบและได้หลบหนีเจ้าไปในแฟลตดินแดงและซอยต้นโพธิ์ ปรากฏว่า คฝ.ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับซ้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ ทำการผ่าตัดเอากระสุนออกมาอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

จากผลการปฏิบัติตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 28 คน การดำเนินการทางกฎหมาย บช.น.มีคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุมทั้งสิ้น 620 คดี พนักงานสอบสวนสั่งฟ้องแล้ว 278 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 342 คดี วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมามี 20 คดี ผู้ต้องหา 28 คน

จากการปฏิบัติการเมื่อคืน บช.น.ห่วงใยประชาชนผู้ที่พักอาศัยหรือผู้สัญจรผ่านไปมา จากเหตุการณ์เมื่อคืนตอกย้ำว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนจริงที่จะเกิดอันตรายแก่ตำรวจและประชาชน ขอย้ำเตือนประชาชนที่พักอาศัยอย่าออกจากเคหสถานขณะก่อความไม่สงบ ถ้าพบเบาะแสให้แจ้งมาที่หมายเลข 191

ส่วนอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ยิงมากี่นัดหรือชนิดใด ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แต่เบื้องต้นเป็นอาวุธชนิดรุนแรงกระสุนทะลุหมวกกันน๊อคเข้าไปฝังในศีรษะ การปฏิบัติการของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบผู้ชุมนุมมีหลายส่วนทั้งตัวผู้ปฏิบัติ ผู้สนับสนุน เราจะต้องสืบสวนการเชื่อมโยงการจัดหาอาวุธต่างๆ

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า กระสุนอาจมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ด้วยกัน เราต้องรวมรวมพยานหลักฐานให้สิ้นข้อสงสัย แต่เบื้องต้นมาจากตรงข้ามกำลังตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่จะยิงกันเองหรือไม่นั้น ปกติแล้ว คฝ.จะไม่พกอาวุธจริง แต่แน่นอนการชุมนุมกลุ่มผู้ก่อเหตุมีการพกอาวุธจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประชาชนได้รับบาดเจ็บอยู่เรื่อยๆ เราต้องปรับยุทธวิธีในการโคฟเวอร์กลุ่ม กลุ่มคฝ.ที่ไม่มีอาวุธและเจ้าหน้าที่ตรงนี้ความเชี่ยวชาญ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้แต่เรารับฟังทุกความคิดเห็น

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มีความห่วงใยในเรื่องก่อความไม่สงบ ถึงแม้ผู้เข้าร่วมเริ่มน้อยลงแต่เน้นเรื่องความรุนแรง ผบ.ตร.เน้นมาที่ บช.น. อย่างเมื่อคืน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ลงไปควบคุมการปฏิบัติเอง จับกุมผู้ต้องหาได้มี 2 เคส ผู้ชุมนุมใช้กระสุนจริง จากการสอบปากคำผู้ต้องหา 1 ในนั้นยอมรับกับ ผบช.น.มีคนใช้อาวุธจริงในกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ อีกเคสกลุ่มก่อความไม่สงบปรับยุทธวิธีทำหน้าที่คล้ายบุรุษพยาบาลถือกระเป๋าพยาบาล แต่ในนั้นมีวัตถุระเบิดถูกจับได้พร้อมระเบิดแสวงเครื่อง 3 ลูก โดยให้การรับสารภาพว่า ทำหน้าที่ถือระเบิดเพื่อแจกจ่ายให้กับเพื่อนนำไปก่อเหตุ ทั้ง 2 เคสย้ำเตือนว่าการปฏิบัติใต้ด่วนดินแดงไม่ใช่การชุมนุมที่ชอบธรรมตามสิทธิ แต่มีการใช้อาวุธอันตรายต่อเจ้าหน้าที่และประชาชนและผู้พักอาศัยในบริเวณดังกล่าว

เราจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด และยุทธวิธีของผู้ก่อความไม่สงบใช้อาวุธจริง ติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่แล้วไปดักทำร้ายในแต่ละจุด อีกประการเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามจับกุมผู้ชุมนุมจะหนีไปที่แฟลตดินแดงให้สังคมเห็นว่าชาวแฟลตดินแดงมีส่วนร่วมในการชุมนุม แต่ในความเป็นจริงชาวแฟลตอยากให้สงบสุข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้เข้าปิดล้อมพื้นที่แฟลตดินแดงและบริเวณใกล้อีกครั้งแต่ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจริงยิงใส่เจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บและติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ยังแอบแฝงอยู่กับชาวแฟลตดินแดงพร้อมตรวจยึดรถ จยย.หลายคันไปตรวจสอบ ซึ่งทาง พล.ต.ต.จิรสันต์ รอง ผบช.น.ยืนยันว่าจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆนี้