โปรดเกล้าฯ องคมนตรีเชิญถุงพระราชทานบรรเทาความเดือดร้อนชาวป่าโมก


เพิ่มเพื่อน    

6 ต.ค.64 - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมวัดป่าโมกวรวิหาร อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ ได้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลบางปลากด อำเภอป่าโมก 

ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 5 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้

โอกาสนี้ นายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ไปประชุมและติดตามการแก้ไขสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง โดยมีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ณ ห้องประชุมวัดป่าโมกวรวิหาร อำเภอป่าโมก ทั้งนี้ องคมนตรี ได้ขอให้ผู้ว่าฯและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ และสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม เพราะถือเป็นปากท้องของประชาชน โดยในภาพรวมของจังหวัดมีอำเภอที่ถูกน้ำล้นตลิ่ง น้ำไหลหลากท่วมพื้นที่และบ้านเรือนประชาชนอยู่ขณะนี้ ได้แก่ อำเภอไชโย และอำเภอป่าโมก ต่อจากนั้น

จังหวัดอ่างทอง  แบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ 73 ตำบล 513 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน“เตี้ยนหมู่” ซึ่งอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแผ่ปกคลุมภาคกลาง ทำให้เกิดฝนตกหนักและตกติดต่อกันในพื้นที่อำเภอต่างๆ ของจังหวัด ประกอบกับมีแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลผ่านตัวจังหวัดอ่างทอง ตั้งแต่อำเภอไชโย อำเภอเมืองอ่างทอง และอำเภอป่าโมก รวมระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร และมีแม่น้ำน้อยไหลผ่านพื้นที่และคลองธรรมชาติ ประกอบกับเขื่อนเจ้าพระยา ที่จังหวัดชัยนาท ระบายน้ำออกท้ายเขื่อน ส่งผลกระทบกับจังหวัดท้ายน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำหลาก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำ ในพื้นที่ต่างๆ จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน วัด โรงเรียน  ได้รับความเสียหายและผลกระทบ ใน 5 อำเภอ 37 ตำบล 167 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือนร้อนและผลกระทบ 5,054  ครัวเรือน  ปัจจุบันสถานการณ์โดยรวมในบางพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว เหลือในบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่ที่ราษฎรตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำและริมแม่น้ำ ยังคงมีน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังอยู่


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"