"บิ๊กตู่" ชักเข้าชักออก ยอมหงอ สงบศึกพรรคร่วมรัฐบาล เซ็นยกเลิกคำสั่งคลาย 4 กรม ก.เกษตรฯ จากบิ๊กป้อม คืนจุรินทร์-ปชป. ยังไม่วางมือการเมือง! โฆษก รบ.ประกาศโพล่ง "ประยุทธ์" ยินดี พปชร.จะเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ สยบลือยุบสภา ย้ำกลาง ครม.อยู่ครบ 4 ปี
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม มีความคืบหน้าจากกรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายและมอบอำนาจให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 4 กรม คือ กรมพัฒนาที่ดิน, กรมฝนหลวงและการบินเกษตร, สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ที่เคยอยู่ในความรับผิดชอบของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรฯ ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ในการกำกับดูแลของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งต่อมาแกนนำและ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์หลายคนได้ออกมาเรียกร้องให้ทบทวนคำสั่งดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตรและ ส.ส.พลังประชารัฐบางส่วน ออกมายืนยันว่าคำสั่งดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีดำเนินการถูกต้องแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 267/2564 เรื่อง ยกเลิกคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
โดยระบุว่า ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 254/2564 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 28 กันยายน 2564 นั้น เพื่อให้การกำกับการบริหารราชการแผ่นดินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นไปอย่างบูรณาการ สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 มาตรา 11 (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2550 ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการมอบอำนาจ พ.ศ.2550
"จึงให้ยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 254/2564 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 28 กันยายน 2564 และให้นำความในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 238/2563 เรื่องมอบหมาย และมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2563 มาใช้ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2564" คำสั่งดังกล่าวระบุ
'3 ป.'เคลียร์จุรินทร์
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ในการประชุม ครม. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุม ได้เริ่มขึ้นจริงในเวลาประมาณ 10.00 น. ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดเวลาปกติคือ 09.00 น. เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดคุยนอกรอบกับ พล.อ.ประวิตร, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ห้องรับรองสีเหลือง ภายในตึกสันติไมตรี โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที คาดว่าเป็นการทำความเข้าใจกัน หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับใหม่ ที่ยกเลิกการมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตรกำกับดูแล 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยตัดสินใจให้ทั้ง 4 กรมนี้กลับไปอยู่ในการกำกับดูแลของนายจุรินทร์ตามเดิม
จากนั้นในที่ประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ลงนามในคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 267/2564 เพื่อยกเลิกคำสั่งมอบหมาย และมอบอำนาจให้รองนายกฯ และ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ปฏิบัติราชการแทนนายกฯ ซึ่งเป็นการยกเลิกคำสั่งที่ให้ พล.อ.ประวิตร กำกับดูแลงาน 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แทนนายจุรินทร์ โดยให้ใช้คำสั่งเดิมที่ให้นายจุรินทร์เป็นรองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ เช่นเดิม โดยนายวิษณุย้ำว่ารองนายกฯ กับ รมว.เกษตรฯ ได้มีการหารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีการใช้กลไกเดิมในการประสานงานได้ จึงให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
นอกจากนี้ ในที่ประชุม ครม. ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดถึงการทำงานของรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว ทำให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พูดเสริมว่า เราทำงานร่วมกันมา 2 ปี 3 เดือนแล้ว ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์แซวนายอนุทินว่า "จำแม่นจังนะ" ขณะเดียวกัน มีรัฐมนตรีบางคนส่งเสียงแทรกขึ้นมาว่า "ขอให้อยู่ครบ 4 ปีนะครับ" พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวขึ้นว่า "ผมยืนยันไปแล้วว่าจะแก้ปัญหาประชาชน ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตอนนี้เราต้องแก้ปัญหาประชาชนให้ได้ก่อน ยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไร"
โดยหลังการประชุม ครม.เสร็จสิ้นลง พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เพียงแต่โบกมือให้กับผู้สื่อข่าวและทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูอย่างอารมณ์ดี ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ให้สัมภาษณ์เช่นเดียวกัน ขณะที่นายจุรินทร์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า “เป็นไปตามคำสั่งนายกฯ”
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย กรณีปัญหา 4 กรมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ไม่ได้มีปัญหาอย่างใด นายกฯได้พิจารณาดำเนินการแล้ว
โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย กรณีจะให้ฝ่ายกฎหมายยื่นตีความวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี จะสิ้นสุดลงเมื่อใดหรือไม่ เพราะฝ่ายค้านออกมาแถลงยืนยันความเป็นนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จะสิ้นสุดลงเฉพาะตัวในเดือน ส.ค.65 ว่า นายกฯ ชี้แจงว่าได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พิจารณาว่าควรดำเนินการหรือไม่อย่างไร
เมื่อถามว่า นายกฯ เต็มใจให้พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงว่าก็ยินดี ขอบคุณที่พรรคพลังประชารัฐให้ความไว้วางใจ ซึ่งขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งครั้งหน้า
ทั้งนี้ ก่อนหน้าจะมีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับใหม่ดังกล่าว นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนการประชุม ครม. หลังถูกถามถึงเรื่องนี้ว่า ไม่ขอพูดอะไรถึงเรื่องนี้เพิ่มเติม เพราะทุกอย่างเหมือนกับที่เคยพูดไปในเรื่องความเห็น นายกฯ ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว ทุกอย่างจะออกมาด้วยดี พรรคประชาธิปัตย์ให้เกียรตินายกรัฐมนตรีในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และให้เกียรติทุกพรรคที่ร่วมรัฐบาล เพราะเราเข้าใจดีถึงวัฒนธรรมของพรรคการเมืองในการทำงานร่วมกัน ในรูปแบบรัฐสภาและรัฐบาลผสม ดังนั้นให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้คลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า ก่อนที่จะมีมติดังกล่าวออกมานายกฯ ได้พูดคุยกับนายจุรินทร์ก่อนหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่ขอย้อนไปพูดถึงตรงนั้นแล้ว เพราะได้พูดกับนายกฯ แล้ว
ปรับ ครม.ยังนิ่ง
ขณะที่ความเคลื่อนไหวเรื่องการปรับครม. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวถึงเรื่องนี้หลังมีชื่ออาจถูกปรับออกว่า เป็นข่าวที่ออกมาจากสื่อมวลชน แต่ความแน่นอนจากแหล่งข่าวที่ถูกต้องก็เป็นเรื่องที่สื่อจะมีวิจารณญาณกันเอง ยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องนี้โดยตรงแต่อย่างใด และไม่มีสัญญาณอะไร ยังทำงานทุกวัน นายกฯมอบหมายอะไรก็ทำเต็มที่
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวเช่นกันว่า ในส่วนของกรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้มีการคุยกันเรื่องนี้ และยังไม่มีการเสนอชื่อใครเข้ามาเป็นรัฐมนตรีใหม่เลยสักคนเดียว อย่างไรก็ตาม การปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ และพวกเราก็ถือว่าทำงานกันได้ดีอยู่แล้ว และคำว่าไม่ปรับ ครม. คนที่เป็นรัฐมนตรีอยู่ในปัจจุบันน่าจะชอบ เพราะจะได้ไม่ถูกปรับออกหรือเปลี่ยนตำแหน่ง การทำงานก็จะทำได้ต่อเนื่องต่อไป ดังนั้นเมื่อวันนี้ไม่มีการปรับ ครม. การทำงานคงต่อเนื่อง ส่วนตัวยังคิดว่าทุกคนยังทำงานได้ดีอยู่ ไม่ได้มีปัญหาอะไร สิ่งสำคัญจะทำให้เกิดความมั่นคงด้วย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคประชาธิปัตย์ สืบเนื่องจากการที่เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งส่งเอกสารแจ้งถึงพรรคการเมืองต่างๆ ให้เตรียมความพร้อมการเลือกตั้งว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมพร้อมในส่วนของผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้ทุกภาคแล้ว มีความคืบหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ใช่มาเตรียมการในช่วงที่ กกต.ส่งหนังสือแจ้งถึงพรรคการเมือง เพราะกรุงเทพฯ เดิมมีเขตเลือกตั้งจำนวน 30 เขต ตอนนี้เราได้เตรียมผู้สมัครไว้แล้ว 26 เขต ส่วนที่ยังไม่ได้อนุมัติตัวผู้สมัครอีกประมาณ 3-4 เขตนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจ เพราะมีผู้ให้ความสนใจจะลงสมัครมากกว่า 1 คน ขณะที่พื้นที่ภาคใต้ได้มีผู้สมัครเกือบครบแล้วก็เช่นกัน
เมื่อถามว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนสนับสนุนให้นายจุรินทร์เป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนเกิดดรามาว่าจะเป็นการมาแข่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ไม่ขอพูดเกินตรงนี้ ทั้งนี้ การเสนอตัวบุคคลชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมืองที่จะพิจารณา จะเสนอตัวใครไปเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าเป็นเรื่องปกติใช่หรือไม่ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้หัวหน้าพรรคการเมืองลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์กล่าวว่า อยู่ที่พรรคการเมืองนั้นๆ จะพิจารณาว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ
ส่วนกรณีฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตทางการเมืองเรื่องการอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จะครบ 8 ปีเมื่อใดนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอไม่ตอบ และไม่เคยพูดกับใครที่ไหนมาก่อน และที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาระบุอ้างว่าตนพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่เคยพูดกับใครที่ไหน ไม่เคยพูดเรื่องนี้ และไม่รู้ว่าจะพูดทำไมเวลานี้ ใครมาถามก็ไม่เคยตอบ และที่บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้ชี้แจง ก็ยังไม่ได้มอบหมาย แต่คงเตรียมจะมอบหมาย
ไม่ถึงเวลาตีความ 8 ปี
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะนับเวลาดำรงตำแหน่งครบคน 8 ปีเมื่อใด นายวิษณุ กล่าวว่า ขอตอบแบบนี้ว่าไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงมาสงสัยกันในช่วงนี้ ซึ่งสูตรวิธีคิดมีด้วยกัน 3 ทาง คือนับจากปี 2557 นับจากปี 2560 และนับจากปี 2562 ไม่ว่าสูตรใด หากนับจากปี 2557 เร็วที่สุดจะไปครบในเดือน ส.ค.2565 ซึ่งนับจากวันนี้ยังมีเวลาอีก 11 เดือน เหตุใดมาพูดตอนนี้ พูดให้ยุ่งทำไม แค่คิดจะส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความก็ส่งไม่ได้ ใครก็ส่งไม่ได้ เพราะศาลจะถามกลับทันที และก่อนหน้านี้ศาลเคยตัดสินมาหลายเรื่องว่าศาลไม่ใช่กฤษฎีกา ไม่ใช่ที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล และเวลานี้เรื่องยังไม่มี มาสมมติทำไมว่าจะอยู่ไปได้ถึงเมื่อไหร่ เมื่อไปถึงจังหวะเวลาหนึ่งก็สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่เวลานี้ สมมุติว่ามีการยุบสภา จะต้องหานายกฯ เราไม่ต้องรอจนได้นายกฯ เวลานั้นให้สงสัยได้ให้รอเวลาใกล้กว่านี้ แต่นี่ยังเหลืออีก 11 เดือน ทั้งนี้เรื่องนี้ไม่ได้วิตก ไม่ได้กังวล ไม่ได้มีอะไรเลย
เมื่อถามกรณีที่นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสนอใช้ช่องทางรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถาม กกต.ที่นายจรัญเป็นห่วงเพราะศาลอาจใช้เวลาพิจารณาหลายเดือน ถ้าเวลานั้นครบเวลา 8 ปีแล้วไปยื่นจะทำกันอย่างไร เพราะปัญหาจะเกิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ที่ให้อำนาจ กกต. รวมทั้ง ส.ส.หรือ ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีของแต่ละสภา ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ แต่หากศาลตัดสินว่าดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีไปแล้ว และย้อนไปมีผลนับตั้งแต่ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ครม.ที่ปฏิบัติหน้าที่จะทำอย่างไร เพราะเมื่อนายกฯ พ้น ครม.ก็ต้องพ้นไปด้วย
ซึ่งมาตรานี้เป็นมาตราเดียวที่ให้อำนาจนายกฯ กับ ครม.แยกกัน เพราะปกติไม่ว่าอะไรจะเกิดกับนายกฯ ครม.ก็ต้องไปทั้งหมด แต่กรณีนี้ถ้าเข้าชื่อยื่นตีความได้ หากยื่นไปแล้วศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ นายกฯ ก็ต้องหยุด แต่ ครม. อย่างศาลสั่งให้นายกฯ หยุด ครม.ไม่ต้องหยุด หากศาลสั่งให้นายกฯ พ้นจากตำแหน่งในวันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที สิ่งที่ ครม.ปฏิบัติมาทั้งหมดก็ใช้ไม่ได้
ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีการเรียกร้องให้ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากปูดข่าว 13 ส.ส.พลังประชารัฐภาคใต้ จะย้ายไปอยู่พรรคของนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่าไม่มีเวลาไปพบ พ.อ.สุชาติตามที่พูดไว้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ต.ค. เสร็จงาน 17.00 น. และได้จองตั๋วเครื่องบินขากลับไว้เวลา 18.00 น. ฉะนั้นจึงไม่ได้ไปพบ พ.อ.สุชาติ แต่ได้ส่งหนังสือให้พ.อ.สุชาติเซ็นลาออกจากพรรคไปแล้ว เพื่อให้ส่งไปที่ กกต.สงขลา หรือส่งมาให้พรรคพลังประชารัฐก็ได้ หากไม่เซ็น จะทำหนังสือถึงกรรมการบริหารพรรคให้ประชุมเพื่อมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาว่า การกระทำของ พ.อ.สุชาติมีความผิดถึงขั้นให้ออกหรือไล่ออกหรือไม่ ขอเตือนพรรคใหม่ที่ พ.อ.สุชาติจะไปอยู่ด้วย ให้เตรียมถังดับเพลิงหรือสายยางไว้ดับไฟด้วย เพราะ พ.อ.สุชาติออกจากพรรคพลังประชารัฐยังเผาพรรค
เมื่อถามว่า ขณะนี้หลายพรรคเริ่มเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้ว พลังประชารัฐยืนยันจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เหมือนเดิมหรือไม่ นายสิระตอบว่า ยืนยันเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เหมือนเดิม เพราะพลังประชารัฐยังอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |