เห็นและได้ยินผองเพื่อนมาพร่ำมาบ่นกันในห้องไลน์ ถึงพฤติกรรมและการแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพทั้งในรูปตัวหนังสือ และในลักษณะของคลิปวิดีโอบ้าง TikTok บ้าง ว่าทำไมจึงได้สรรหาภาษาเถื่อน ถ่อย มาใช้กันอย่างโจ๋งครึ่ม เห็นเป็นเรื่องปกติ ราวกับเป็นภาษาพูดระหว่างวัยที่มนุษย์ป้าเข้าไม่ถึง และไม่อยากจะเข้าถึงเป็นเด็ดขาด
บ่นไปถามไป ไม่มีใครให้คำตอบสุดท้ายได้ นอกจากบอกว่า โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว!!!
ก็คงจะเป็น อยู่ คือ ดังว่านั่นแหละ เพราะย้อนหลังไปตอนที่มนุษย์ป้าเป็นนักศึกษาในรั้วท่าพระจันทร์ จดจำได้อย่างดีว่า ทุกวันที่ 6 ตุลาคม จะมีการจัดงานรำลึกวีรชนที่สูญเสียชีวิตไปจากการต่อสู้เพื่อทวงถามหาประชาธิปไตย ที่บริเวณหอประชุมใหญ่
ภายในหอประชุมก็จะมีการเสวนา สลับไปกับการแสดงดนตรีเพื่อชีวิต นอกจากนั้นก็จะมีนิทรรศการภาพพาเราย้อนกลับไปในวันนั้นเมื่อปี 2519 ซึ่งถือเป็นการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์ของประชาชน นิสิต นักศึกษา และทุกชนชั้นอาชีพ
สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทุกตารางนิ้วจากวันนั้นจนถึงก่อนยุคโซเชียลมีเดียครองสังคมไทย ยืนยันได้ว่า ไม่จำเป็นต้องใช้คำหยาบโลน ถ่อย ต่ำตม มาอวดอ้างเพื่อการต่อสู้กับเผด็จการทางทหารเลยแม้แต่น้อย พลังการต่อสู้ของทุกคนที่อยากเห็นอนาคตของประเทศไทยก็เข้มแข็ง สะท้อนบอกถึงอุดมการณ์ในรูปแบบของคนที่มีเหตุและผล และมีสติพร้อมได้ ไม่เห็นจักต้องใช้วาจาจาบจ้วง ล่วงละเมิดไปใต้ร่มผ้าเหมือนคนต่อยมวยนอกกติกาชกต่ำกว่าระดับเข็มขัดเลยนะ
เห็นภาษาที่ใช้แล้ว ขอบอกว่าคนที่อยากจะร่วมแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพ เลือกหันหลังให้มากมายเลยนะจ๊ะ.
'ป้าเอง'
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |