วันเลือกตั้งยังไม่แน่ชัดว่าจะจัดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ในช่วงนี้ก็ได้เห็นพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้งพรรคที่อยู่ในสนามเลือกตั้งอยู่แล้ว และพรรคการเมืองน้องใหม่ต่างเร่งขยับออกตัว ยิ่งในสภาวะโควิดแพร่ระบาด น้ำท่วม ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน  
    ประกอบกับอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา เลยได้เห็นบรรดา ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลงพื้นที่ตุนแต้มเอาไว้แต่เนิ่นๆ รวมไปถึงการประชุมพรรคการเมือง ที่เดือนตุลาคมมีหลายพรรคเตรียมจัดประชุม ตามระเบียบของ กกต.ที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ  
    เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย ที่แว่วเสียงกันมาในช่วงของเดือนสิบ มีวาระน่าสนใจที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ  โดยในช่วงวันที่ 12 ตุลาคม จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ที่จะมีการรายงานผลการพิจารณากรณี ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรค ให้ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรครับทราบ และพิจารณา จากนั้นนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ ส.ส.เพื่อขอมติเสียง 3 ใน 4 ตามข้อบังคับพรรค ว่าควรจะลงมติขับ ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรคหรือไม่  
    ขณะที่ในวันที่ 28 ต.ค. หากไม่มีอะไรผิดพลาด ขุนพลเพื่อไทยจะยกคณะไปประชุมพรรคถึง จ.ขอนแก่น ที่อาจจะมีวาระสำคัญในการปรับโครงสร้างพรรค คณะทำงานต่างๆ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น  
     ในส่วนของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ที่หลายๆ พรรคประกาศชูบุคคลที่เหมาะจะนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกันไปบ้างแล้ว แต่เพื่อไทยยังคงอุบไต๋เงียบ อาจเพราะยังมีเวลาให้คิด เฟ้นหาบุคคล เลยยังไม่จำเป็นจะต้องรีบประกาศตัว ที่บิ๊กๆ เพื่อไทยบางคนมองว่า หากเปิดเร็วก็ ช้ำเร็ว เปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตี   
    ขุนพลพรรคเพื่อไทยมีเพียง สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านและ ส.ส.มหาสารคาม กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และรองหัวหน้าพรรค ที่แท็กทีมออกมาแย้มไต๋เพียงว่า  "หากเปิดออกมา เซอร์ไพรส์แน่"   
    แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทยจะเป็นคนในพรรค คนนอกพรรค เป็นทายาทคนใกล้ชิดเจ้าของพรรคตัวจริง เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นพวกรุ่นเก๋ามีประสบการณ์การเมือง หรือเป็นนักธุรกิจชื่อดังที่ขอโดดเข้าร่วมวงการเมือง หรือใครก็ตามที นาทีนี้ขุนพลเพื่อไทยอีกหลายคนพูดไปในทำนองเดียวกัน  
    เปิดออกมามีเซอร์ไพรส์แน่ๆ ว้าวชัวร์ จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ อีกไม่นานเกินรอคงได้รู้กัน.