5 ต.ค.64 - พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี ที่ทาง ศบค. ได้มีมติขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถึง 30 พ.ย. 64 และผ่อนคลายมาตรการและอนุญาตให้เปิดกิจการเพิ่ม ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 ที่ผ่านมานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีความห่วงใยประชาชน จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและ ศบค. ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย จึงได้มีมติขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถึง 30 พ.ย. 64 และผ่อนคลายมาตรการและอนุญาตให้เปิดกิจการเพิ่ม ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล โดยมอบหมาย พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปกำกับดูแล พร้อมกำชับการปฏิบัติของหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่ ให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานทหาร สาธารณสุขในพื้นที่ ฝ่ายปกครองและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบสถานประกอบการต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในพื้นที่ 29จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังคงมาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกจากเคหะสถาน ระหว่างเวลา 22.00 – 04.00 น. ต่อไปอย่างน้อย 15 วัน ในส่วนของร้านอาหารที่มีการผ่อนปรน ให้บริโภคอาหารภายในร้าน และให้เล่นดนตรีได้ ยังคงห้ามจำหน่ายหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน อีกทั้งมีการผ่อนปรนให้สามารถใช้บริการศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งกีฬา เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น.
ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. 64 ถึง 5 ต.ค 64 ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปม.ตร.) ได้มีการสรุปผลการปฏิบัติดังนี้ ตั้งจุดเคอร์ฟิว จำนวน 355 จุด มีการเรียกตรวจยานพาหนะ 819,388 คัน เรียกตรวจบุคคล 1,066,032 คน ตั้งจุดตรวจชะลอการเดินทางตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. – 5 ต.ค. 64 รอยต่อจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไปยังพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำนวน 115 จุด , จุดตรวจชะลอการเดินทาง รอยต่อจังหวัดควบคุมสูงสุดไปยังพื้นที่อื่น จำนวน 28 จุด , มีการเรียกตรวจยานพาหนะ 1,243,904 คัน , เรียกตรวจบุคคล 1,662,890 คน , แสดงเอกสารรับรอง 512,617 คน , ใช้ QR CODE หยุดเชื้อเพื่อชาติ 164,665 คน แนะนำตักเตือนลง App Covid Control 393,009 คน
ผลการดำเนินคดีภาพรวมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. 64 – 5 ต.ค. 64 ดำเนินคดีในด่าน มีเหตุจำเป็นและตักเตือน 538,989 ราย ออกนอกเคหสถาน 1,490 ราย ดื่มสุรา 101 ราย เสพยาเสพติด 253 รายและอื่นๆ 153 ราย ดำเนินคดีนอกด่าน ออกนอกเคหสถาน 2,298 ราย ดื่มสุรา 320 ราย มั่วสุม 438 ราย เสพยาเสพติด 738 ราย เล่นการพนัน 360ราย และอื่นๆ 327 ราย
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่ออีกว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกำชับให้ทุกหน่วยในสังกัด เคร่งครัดในการปฏิบัติสำหรับภารกิจตามนโยบายรัฐบาล และ ศบค. พร้อมออกตรวจพื้นที่ เพื่อให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการปฏิบัติตาม ประกาศ ข้อกำหนด มาตรการ ของ ศบค. และคำสั่งจังหวัดที่เกี่ยวข้อง อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังคงมาตรการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ออกตรวจสอบ สถานประกอบการ สถานบันเทิง ร้านอาหารที่ลักลอบจำหน่ายสุรา จุดที่สุมเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงให้ผู้บังคับบัญชาในแต่ละพื้นที่คอยควบคุมกำกับการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด หากมีการปล่อยปละละเลย ก็จะพิจารณาความบกพร่องทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำควาผิด สามารถแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง มายังหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |