"บิ๊กตู่" จูบปาก "เทเรซา เมย์" ชื่นมื่น! รับปากเลือกตั้งแน่ต้นปีหน้า เพราะกฎหมายทยอยประกาศใช้แล้ว เดินหน้าสู่ประชาธิปไตยที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และเหมาะกับบริบทของความเป็นไทย รวมทั้งการปฏิรูปที่มีระเบียบแบบแผน และเตรียมตัวจัดงานเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 จะทำไปพร้อมๆ กัน ส่วนกลุ่มต้าน-สนับสนุน โผล่หน้าบ้านเลขที่ 10 พอเป็นพิธี
ภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ในการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 19-26 มิ.ย.นั้น เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. เวลา 16.33 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะได้เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 10 Downing Street หรือทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ทันทีที่เดินทางถึง นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เดินออกจากบ้านเลขที่ 10 เพื่อมาจับมือให้การต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จากนั้นถ่ายภาพร่วมกัน ก่อนที่จะพบปะหารือกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
โดยนายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำระดับสูงสองประเทศมีโอกาสมาพบกัน ทั้งสองประเทศถือว่ามีความสัมพันธ์มากกว่า 400 ปี ต้องขอบคุณนางเทเรซา เมย์ ที่ให้เข้าพบ และหวังว่าการพบกันครั้งนี้จะทำให้การค้าการลงทุนในไทยและภูมิภาคอาเซียนดีขึ้น เพราะไทยมีศักยภาพ เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดีอันดับ 2 ในอาเซียน จึงอยากให้สหราชอาณาจักรเห็นความสำคัญของประเทศไทย เข้ามาเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกัน เป็นประตูเดินหน้าสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจในอาเซียน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเดินหน้าทางการเมืองไปสู่ประชาธิปไตยนั้น ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน เพราะกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งต่างๆ หลายฉบับทยอยประกาศมีผลบังคับใช้แล้ว และการเดินหน้าเข้าสู่ประชาธิปไตยของไทยจะต้องมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และเหมาะกับบริบทของความเป็นไทยด้วย
"สิ่งที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการในขณะนี้คือเดินหน้าการปฏิรูป โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประเทศไทยมีการพัฒนา ที่มีระเบียบแบบแผน ประเด็นสำคัญอีกเรื่องประเทศไทยจะต้องเตรียมตัวจัดงานเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 จะทำไปพร้อมๆ กัน " นายกฯ กล่าว
จากนั้นเป็นการหารือโดยมีรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศเข้าร่วม นางเทเรซา เมย์ กล่าวว่า ขอต้อนรับรัฐมนตรีทุกคนในการเดินทางเยือนครั้งนี้ สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับประเทศไทย เพราะเป็นประเทศที่มีศักยภาพในทุกด้าน และมีนักลงทุนของสหราชอาณาจักร เข้าไปลงทุนในประเทศไทย ที่ผ่านมาสหราชอาณาจักรได้ติดตามพัฒนาการของไทยทางการเมือง เศรษฐกิจ และการปฏิรูป ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกตั้งในอนาคต จึงอยากให้กำลังใจประเทศไทยในการพัฒนาประเทศไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นด้วย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ชื่นชมบทบาทความเป็นผู้นำของนางเทเรซา และติดตามกระบวนการทำงานในการออกจากสหภาพยุโรป (อียู) และขอให้ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะหารือต่อจากนี้ เป็นเรื่องที่จะทำงานกันให้สอดคล้องกับนโยบายของไทยกับสหราชอาณาจักร ซึ่งไทยพร้อมจะสนับสนุนนโยบาย Global Britain ที่เน้นให้เปิดการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ
นายกฯ ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีโครงการต่างๆ ทั้งระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นโยบายไทยแลนด์ 4.0 และนโยบายไทยแลนด์ +1 ที่จะไปเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเหมาะกับนักลงทุนชาวต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับโรงแรมที่พัก พล.อ.ประยุทธ์ได้จอดรถทักทายกับกลุ่มคนไทยในลอนดอนที่มาให้กำลังใจและต้อนรับบริเวณด้านหน้าทำเนียบนายกฯ สหราชอาณาจักรด้วย
สำหรับบรรยากาศด้านหน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. มีทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรของพล.อ.ประยุทธ์ครั้งนี้มารวมตัวกัน แต่อยู่กันคนละฝั่งถนนดาวนิง ซึ่งภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และอยู่ในระเบียบ โดยฝ่ายสนับสนุนได้ตะโกนขอให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ พร้อมเป็นกำลังใจในการทำงานอย่าหวั่นไหวต่ออุปสรรค
ขณะที่ฝ่ายต่อต้านนำโดยนายใจ อึ๊งภากรณ์ แกนนำกลุ่มคนไทยยูเค ได้อ่านแถลงการณ์ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทย และแสดงความเสียใจที่นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรให้การต้อนรับและเชิญพล.อ.ประยุทธ์มาเยือน
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรได้กล่าวในที่หารือว่า ได้ติดตามพัฒนาการทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทยอย่างใกล้ชิด และมั่นใจว่าไทยกำลังเดินทางสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคง ยั่งยืน รวมทั้งเล็งเห็นถึงความสำคัญความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร เนื่องด้วยประเทศไทยมีศักยภาพ และมีขนาดทางเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียน พร้อมที่จะเป็นประตูการค้าสู่ภูมิภาค และดำเนินความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน โดยจะดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับการเปิดการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหราชอาณาจักร ตลอดจนความเชื่อมั่นที่มีต่อนโยบาย Thailand 4.0 และยินดีสนับสนุนให้ภาคเอกชนอังกฤษร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
พล.ท.วีรชนกล่าวอีกว่า ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ได้หยิบยกประเด็นการพัฒนาด้านการศึกษา ซึ่งประเทศไทยประสงค์ที่จะร่วมมือกับสหราชอาณาจักร เพื่อให้การศึกษาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะพัฒนาคน เพื่อรองรับทิศทางการพัฒนาประเทศ และเป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจต่อไป
เมื่อเวลา 10.35 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่โรงแรมแลนมาร์ค กรุงลอนดอน พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนา Thailand Business Forum ในหัวข้อ ”Transforming Thailand” โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับมิตรภาพระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร ซึ่งมีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และใกล้ชิดทุกระดับ ตั้งแต่ 400 กว่าปีก่อน ปัจจุบันมิติของความสำคัญด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวก็เป็นไปอย่างใกล้ชิด
นายกฯ กล่าวว่า ด้านการค้าระหว่างประเทศ สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับที่ 18 ของไทย และเป็นคู่ค้าหลักอันดับที่ 2 จากยุโรป สหราชอาณาจักรเป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 18 ของไทย และไทยนำเข้าสินค้าจากสหราชอาณาเป็นลำดับที่ 21 ของการนำเข้าทั้งหมด ส่วนด้านการลงทุน หลายบริษัทที่เป็นแบรนด์ดังของสหราชอาณาจักรไปลงทุนตั้งฐานการผลิตสำคัญในประเทศไทย ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก ล่าสุดในปี 2017 สหราชอาณาจักรลงทุนในไทยเป็นอันดับ 3 ของการลงทุนจากยุโรป ขณะที่ด้านการท่องเที่ยว ปีที่ผ่านมา มีคนไทยเดินทางมาเที่ยวสหราชอาณาจักรจำนวน 171,000 คน ขณะที่มีนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรเดินทางไปยังประเทศไทยจำนวนถึง 1,003,000 คน คาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
“จึงขอชักชวนให้มีการลงทุนในประเทศไทย โดยอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปรับตัวดีขึ้นมาโดยตลอด ในไตรมาสแรกของปี 2018 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 4.8 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี”
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ควบคู่ไปกับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งสำคัญที่สุดปรับปรุงเส้นทางคมนาคม และการขนส่ง รถไฟความเร็วสูง ทางด่วน และระบบขนส่งสาธารณะแบบราง รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานอื่นที่มีความจำเป็นต่อการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจน รัฐบาลได้ดำเนินโครงการ EEC
"รัฐบาลไทยดำเนินนโยบายบนพื้นฐานของนโยบายเศรษฐกิจเสรี เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ และการมีส่วนร่วมของนานาชาติ จึงขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้นักธุรกิจเชื่อมั่น และพิจารณาประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อประโยชน์ในธุรกิจการค้า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรให้มากยิ่งขึ้น" นายกฯ กล่าว
ก่อนเป็นประธานงานสัมมนาดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้ร่วมงานเลี้ยงรับรอง เพื่อเป็นโอกาสในการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้นำการเมืองและนักธุรกิจชั้นนำสหราชอาณาจักรด้วย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคนไทยในลอนดอนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ว่า ก็เห็นมี 3 คนมั้ง
ถามว่า เห็นมีหลายคนเหมือนกัน สัก 10 คนได้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “หูยยย 10 คนเยอะเหรอ แหม ไม่มีหรอก ไม่กระทบภาพลักษณ์ คนไม่พอใจก็มี จะให้พอใจทุกคนใช่ไหม”
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศต้องมีการประสานเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า ไม่ต้อง แล้วคนที่เขาไปรับนายกฯ กันเยอะแยะทำไมไม่พูด เอาแต่ที่มันซวย คนมารับตั้งกี่คนไม่เห็นเหรอ ออกทีวีเต็มเลย เอ็งตาบอดหรือเปล่าถึงไม่เห็น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |