21 มิ.ย.2561 -  คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งเป็นคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ซึ่งได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2561 ได้มีการออกประกาศ 6 ฉบับรวดลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

ทั้งนี้ประกาศทั้ง 6 ฉบับประกอบด้วย 1.ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดสัดส่วนต่าง ๆ เพื่อเป็นกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 2.ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง การดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการที่ก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณหรือภาระทางการคลังในอนาคต พ.ศ.2561 3.ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดอัตราชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐในการดำเนินกิจกรรมมาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 พ.ศ.2561  4.ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง นโยบายการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการคลัง พ.ศ.2561 5.ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดกรอบในการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2561 และ 6.ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง หลักเกณฑ์การรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง พ.ศ.2561  

สำหรับเนื้อหาที่น่าสนใจ อาทิ ประกาศเรื่องกำหนดสัดส่วนต่างๆ เพื่อเป็นกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งได้ระบุให้ 1. สัดส่วนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็นต้องตั้งไม่น้อยกว่า 2% แต่ไม่เกิน 3.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจําปี 2.สัดส่วนงบประมาณเพื่อการชําระคืนต้นเงินกู้ของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐซึ่งรัฐบาลรับภาระต้องตั้งไม่น้อยกว่า 2.5% แต่ไม่เกิน 3.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจําปี 3. สัดส่วนงบประมาณเพื่อการชําระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการกู้เงินของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐซึ่งรัฐบาลรับภาระ ต้องตั้งตามภาระที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีงบประมาณนั้น 4.สัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีงบประมาณ ต้องไม่เกิน 10% ของงบประมาณรายจ่ายประจําปี และ 5.สัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กําหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย ต้องไม่เกิน 5% ของงบประมาณรายจ่ายประจําปี

ส่วนประกาศเรื่องกำหนดกรอบในการบริหารหนี้สาธารณะนั้นระบุไว้ว่า 1. สัดส่วนหนี้สาธารณะ ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ต้องไม่เกิน 60% 2.สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาล ต่อประมาณการรายได้ประจําปีงบประมาณ ต้องไม่เกิน 35% 3.สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด ต้องไม่เกิน 10% และ 4.สัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ ต้องไม่เกิน 5% เป็นต้น