30 ก.ย.64 - จากนั้นเวลา 15.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์บนเรือ ก่อนขึ้นโป๊ะเทียบเรือบริเวณอาคารรัฐสภาว่า การแก้ไขปัญหาต่างๆบางอย่างถ้ายังทำไม่เสร็จก็ย่อมเกิดผลกระทบบ้าง การลงพื้นที่วันนี้ก็ได้นำรัฐมนตรีหลายคน ซึ่งทุกคนต่างก็มีหน้าที่เพื่อทำให้ประเทศไทยพลิกโฉมไปสู่การเป็นประเทศใหม่ให้ได้ นั่นคือการมีรายได้ให้เพียงพอ อย่างไรก็ตามรู้สึกเห็นใจประชาชนหลังจากได้ไปเยี่ยมเยียนแต่แววตาทุกคนยังสู้อีก ทำให้เรามีกำลังใจสู้มากขึ้นในส่วนของเรื่องน้ำรัฐบาลก็ต้องบริหารจัดการให้ดีที่สุด วันนี้เราห้ามธรรมชาติไม่ได้ แต่เราต้องทำให้มีผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด อย่าลืมว่าธรรมชาติก็คือธรรมชาติเราจะต้องอยู่ร่วมกันให้ได้

“ผมคิดว่าประเทศของเราต้องสร้างความรักความสามัคคีระหว่างกันให้ได้ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัด เทศบาลทั้งสองแห่ง รวมทั้งผู้บริหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน ซึ่งดูแลชาวบ้านได้ดี เรื่องนี้ดีใจกับประชาชนทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้นำระดับภูมิภาคถือเป็น 1 ใน 6 จังหวัดปริมณฑล ซึ่ง รมว.มหาดไทยก็ทราบดีเพราะลงพื้นที่บ่อยอยู่แล้ว ช่วงนี้ก็อยากให้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปช่วยกันดู เพราะเราต้องระวังปริมาณน้ำเหนืออยู่ ต้องดูการระบายน้ำออกทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา แม้จะมีการเตรียมทุ่งรับน้ำไว้แล้วก็ตาม แต่ก็ต้องดูปริมาณฝนที่จะตกลงมาด้วย ซึ่งวันนี้ได้มีการแจ้งเตือนไป 5 จังหวัดที่ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะบางพื้นที่เราต้องมีแผนที่น้ำเพื่อดูแลแต่ละพื้นที่ให้ดีที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายคนคุ้นเคยกับทิศทางน้ำอย่างดี ทุกครั้งที่ลงพื้นที่เห็นประชาชนลำบากแต่แววตายังสู้ ถ้าลำบากแล้วแววตาหมดพลัง ไม่ได้ ดังนั้นเราต้องช่วยกัน

“วันนี้ต้องขอโทษด้วยในจุดที่เราไม่ได้ไป ก็ไปดูแล้วกันว่ามีเหตุและเพราะอะไร ความจริงผมอยากไปเยี่ยมในทุกๆที่ แต่เราก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาเท่านั้นเอง ก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ฝากผู้ว่าราชการจังหวัดขอโทษประชาชนด้วย อย่างไรก็ตามผมจะพยายามทำอย่างเต็มที่ ขณะนี้ก็ได้เตรียมแผนและตารางที่จะลงไปเยี่ยมในพื้นที่หลายจังหวัด ก็คงต้องลงไปเยี่ยมเยี่ยมกันบ่อย เพราะตอนนี้การแพร่ระบาดของโควิดก็เบาลงไปบ้างแล้ว ก็ขอร้องว่าอย่าให้แพร่ขึ้นมาอีกก้อแล้วกัน ขอร้องให้ปฎิบัติตามมาตรการการผ่อนคลายก็ดูให้ดีแล้วกัน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการประชุม ศบค.เช้าวันเดียวกันนี้ ก็มีหลายมาตรการที่ได้อนุมัติเห็นชอบ เพื่อที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งมาตรการช่วยเหลือเยียวยา เอสเอ็มอี แรงงานและมาตรการใหม่ในการเพิ่มการจ้างงานในส่วนของแรงงานไทยเพิ่มมากขึ้น ในโรงงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่ยังขาดแรงงานจำนวนมาก เนื่องจากเรานำเข้ามาไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ยังมีคนไทยที่ตกงานอีกจำนวนมาก จึงขอเชิญชวนให้ติดตามในเรื่องดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลจะมีวีดีทัศน์ออกมาให้เห็นว่าโรงงานสมัยใหม่เป็นอย่างไร เพื่อที่ทุกคนจะได้เข้าไปทำงาน ซึ่งรายได้มากพอสมควรมากกว่าแรงงานขั้นต่ำ

จากนั้นเวลา 16.05 น. พล.อ. ประยุทธ์ พร้อมคณะขึ้นเรือที่โป๊ะเทียบเรือ ฝั่ง สว.บริเวณอาคารรัฐสภา ซึ่งปกติจะไม่มีการเปิดใช้ โดยเปิดให้เป็นกรณีพิเศษเท่านั้น โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา และ นายนัฑ ผาสุก เลขาธิการวุฒิสภา รอรับ โดยนายกรัฐมนตรีได้ถ่ายรูปกับนายพรเพชร นายนัฑ และข้าราชการ ก่อนโบกมือทักทายสื่อ พร้อมกลับออกไปทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัย นายกฯในการลงพื้นที่จ.นนทบุรี ครั้งนี้เป็นไปด้วยความเข้มงวด เนื่องจากก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จะมาถึงจุดแรกที่เทศบาลปากเกร็ด ได้มีประชาชนบางส่วนมารอเพื่อตะโกนขับไล่ และยังด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน(คฝ.) ที่มาดูแลรักษาความปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้นำรถน้ำและรถดับเพลิงมาเตรียมพร้อม หลังนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท แกนนำราษฎรนนทบุรี และแกนนำ 3 นิ้วอีกหลายคน เช่น รุ้ง ปนัสยา โพสต์ปลุกระดมไปต้อนรับนายกฯ จึงมีมวลชนบางส่วนสวมเสื้อแดงและแมสสีแดงมารอ ทั้งนี้ ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัดสินใจควบคุมตัว ไบร์ท และแกนนำออกจากพื้นที่ไปยัง สภ.ท่าน้ำนนท์แล้ว

ขณะที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี ซึ่งเป็นจุดที่พล.อ.ประยุทธ์จะต้องมาขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ ได้มีมวลชนมาปักหลักเพื่อขับไล่ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ซึ่งมีบางคนเตรียมน้ำปลาร้ามาด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝงชนมาตั้งแถวห้ามไม่ให้มวลชนเข้าใกล้ท่าน้ำนนท์ จนเกิดการผลักดันกันเป็นระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามนำรถขยายเสียงและรถคุมขังเข้ามายังพื้นที่ แต่ถูกมวลชนขวางไว้ จนต้องยอมถอยออกไป

อย่างไรก็ตาม นายกฯและคณะ ได้เปลี่ยนจุดขึ้นจากที่ท่าน้ำนนทบุรี มาเป็นโป๊ะเรือตรงตึกส.ว.อาคารรัฐสภา เกียกกาย แทน โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและส่วนล่วงหน้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ร่วมกันประเมิน และแจ้งไปทางเรือของนายกฯ เพื่อประสานกับทีมรักษาความปลอดภัยให้เปลี่ยนจุดขึ้นเรือ เพื่อหลีกเลี่ยงแรงปะทะ