ตลกชื่อดัง กระรอก เชิญยิ้ม ที่วันนี้ควงลูกสาวคนสวยพร้อมศรีภรรยา พีช พิชญ์กัญญา และลูกสาวทั้งสองคน น้องฌานอล และน้องอเล็กซ์ซานเดรีย เป็นครั้งแรก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ที่มีหนิง ปณิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ พร้อมเคลียร์กันชัดๆ ไปเลยว่าสรุปแล้วน้องๆ ทั้งสองคนเป็นลูกใคร?
ทำไมอยู่ดีๆ ลูกสาวเป็นกระแสในช่วงนี้?
กระรอก : จริงๆ บางคนก็รู้อยู่แล้ว แต่ช่วงที่เป็นกระแสหนักคือช่วงที่วันเกิดน้องนอล แล้วพี่บอล เชิญยิ้ม สนิทกับลูกๆ อยู่แล้ว เขาก็เอาไปลงเฟซบุ๊ก อวยพรวันเกิดลูกสาว พอบอลโพสต์อะไรไปมันก็จะเป็นข่าวเลย
พี่บอลเขาประกาศตัวชัดเจนว่าจะเป็นป๊าดัน ดันหลานๆ ให้เข้าวงการ?
กระรอก : ใช่ๆ เรียบร้อยแล้ว
เห็นว่าตั้งแต่พี่บอลเอารูปเราไปลงเห็นว่าชีวิตเปลี่ยนเลย คนติดตามอินสตาแกรมเยอะขึ้นด้วย?
อเล็กซ์ซานเดรีย : ใช่ค่ะ ก็มีฟอลโลว์เวอร์ขึ้นทั้งติ๊กต่อกและอินสตาแกรม ก็รู้สึกดี เพราะมันเป็นงานที่หนูชอบตั้งแต่เด็ก ก็ดีใจที่มีคนติดตามเพิ่มขึ้น
เพื่อนๆ บางคนไม่รู้ว่าเราเป็นทายาทคนบันเทิง?
ฌานอล : ไม่ได้บอกเพื่อน พอเป็นข่าวเพื่อนก็ส่งมาถาม แบบรู้จักปะป๊าอะไรอย่างนี้เหรอ
อเล็กซ์ซานเดรีย : หนูก็บอกใช่ แต่ก็ไม่ได้ปิด เขาก็มาถาม
ชื่นชอบวงการบันเทิงทั้งคู่เลย?
อเล็กซ์ซานเดรีย : หนูชอบเดินแบบ
ฌานอล : หนูชอบแสดงมากกว่า เพราะหนูตัวเล็ก
กระรอก : ตอนเล็กๆ ก็ยังไม่ชี้ชัด แต่เราอยากให้เข้าวงการตอนเล็ก แต่พอโตขึ้นน้องนอลมีความรู้สึกเปลี่ยนไปอยากทำงานเป็นส่วนตัวของเขา แต่อย่างน้องเดรียเขายังชอบอยู่ ยังชอบการเดินแบบ ชอบการเต้น เรียนเต้นมาหลายที่ คือเขาเต้นเก่งมาก
ทำไมพี่ถึงอยากให้ลูกเข้าวงการตั้งแต่เด็ก?
กระรอก : ตอนเด็กเขาน่ารัก เราเลยอยากให้เขาเข้าวงการ แต่ทีนี้อยู่ที่ตัวเด็กด้วยเราไปบังคับไม่ได้ ชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แต่เข้ามาส่วนนึงแล้ว บางคนก็มีผลงานแล้ว?
ฌานอล : หนูมีถ่ายมิวสิควีดิโอบ้าง ชื่อเพลง แฟนไม่ดี จะมีทำไม
อเล็กซ์ซานเดรีย : หนูมีเดินแบบ
กระรอก : มีเดินแบบแล้วก็เต้นโชว์
พอเริ่มเป็นที่รู้จักก็จะมีคอมเมนต์เข้ามาเยอะมาก ก็เริ่มเกิดกระแสมีดราม่า ดราม่าแรกที่เกิดขึ้นก็คือหมดยุคฝรั่งแล้ว ยุคนี้เป็นยุคของสาวหมวย?
ฌานอล : เราก็สวยในแบบของเรา ก็เข้าไปอ่านนะคะ แล้วก็ขำกับพ่อ
กระรอก : คือบางทีคอมเมนต์เนี่ยคนที่ทำงานเป็นนักแสดงอย่างพวกเรามันต้องเจอ มันมีคนรัก คนชอบ คนไม่รัก คนไม่ชอบ แล้วก็มีคนที่เป็นหน้าที่ของเขา ที่เขาจะคอยคอมเมนต์ ชอบไม่ชอบไม่รู้เช้ามาก็จะดูข่าวละ ถึงตาเราต้องคอมเมนต์ละ อันนี้เป็นหน้าที่เขา เราต้องปล่อยวาง บางทีมันมีคอมเมนต์ มันก็ทำให้เรามีความสุขเหมือนกันนะ บางทีเราไปดูพี่กระรอกสู้ๆ นะ เป็นแฟนคลับพี่กระรอก พอมาเจอคอมเมนต์นี้ใครวะไม่รู้จัก มันทำให้เราสะดุดอยากเข้าไปตอบเขา บางทีเขาถามว่าใครวะ กระรอก เชิญยิ้ม พี่ก็เข้าไปตอบว่า นั่นดิ เขาก็ส่ง 5555 มา เราก็มองเป็นเรื่องสนุกไป
พร้อมรับงานหรือยัง?
อเล็กซ์ซานเดรีย : พร้อมค่ะ ก็รับงานไปบ้างแล้ว แต่ก็อยากเพิ่มขึ้น
ฌานอล : ฝากครอบครัวเราด้วยนะคะ งานอะไรก็ได้ ทำได้หมด ก็ฝากด้วยนะคะ
มันก็มีชาวเน็ตสงสัยว่าน้องๆ ทั้ง 2 คนใช่ลูกพี่กระรอกจริงๆ ไหม?
กระรอก : ทำไมอ่ะ ดูหน้าตา ดูผิวก็น่าจะรู้อยู่แล้ว
พีช : จริงๆ แล้วพี่มีครอบครัวมาก่อน มีลูก 3 คน แล้วช่วงที่เจอพี่รอกเป็นซิงเกิ้ลมัม เราเลิกกับคุณพ่อน้องตั้งแต่น้องเดรียอายุ 18 วัน
แล้วทำไมพี่ถึงเลือกพี่กระรอก?
พีช : จริงๆ ก่อนเจอพี่รอกเราก็ไปนู้น ไปนี่ กับกลุ่มที่เป็นดารานะคะ แล้วก็จะได้เจอพี่ที่เป็นตลกบ้าง ซึ่งพี่ไม่เคยรู้จักตลกเลยนะ แต่พอไปเจอพี่เขาเราแค่แกล้งพูดไปว่า พี่อยากมีแฟนเป็นตลก เรารู้สึกว่าอยู่กับตลกแล้วมันมีความสุข ช่วงเวลาที่ผ่านมา ตอนเป็นซิงเกิ้ลมัมเราจะระวังช่วงที่คบคนมาก เพราะว่าลูกเราเป็นเด็กน้อย แล้วทุกคนกำลังโต เราจะกลัว และมีความระวังที่จะเปิดตัวคบกับใคร
แล้วทำไมถึงเปิดใจให้พี่กระรอก?
พีช : มันเกิดจากการที่เราคุยกันเยอะ พี่รอกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งมาก แต่ว่าหลักๆ จะอิงเรื่องพระ ไสยศาสตร์ เขาชอบเล่าให้ฟัง
ทำของใส่เขาอะสิ?
พีช : อันนี้เรื่องจริงนะคะ ตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆ ที่รักๆ หนูถามที่รักจริงๆ นะ ทำของใส่หนูหรือเปล่าเนี่ย เพราะว่าตอนย้ายมาอยู่ด้วยกัน คือเรารู้สึกว่าของเขาเยอะมาก ตลับที่เป็นน้ำมัน กุมาร
กระรอก : พี่ไม่ต้องทำหรอก แค่ขยิบตาก็หลงแล้ว
แล้วพี่กระรอกไปถูกใจพี่พีชได้ยังไง?
กระรอก : เพราะพี่ก็เป็นซิงเกิ้ลแด๊ดอยู่นะ คือบางทีเราไม่ได้บอกใคร แต่พักพวกในวงการก็จะรู้ว่าพี่เลี้ยงลูกอยู่กับแม่พี่ อยู่กับน้องสาว แล้วก็เลี้ยงลูกสาวคนโต พี่ก็มีครอบครัวมาแล้วไง มีลูกสาวคนนึง น้องพลอย ตอนนี้ก็ 25 ปีแล้ว ที่มาเจอพี่พีชก็เพราะว่ามีอยู่ครั้งนึง ทางเอ๋ อัจฉรา จัดงานกฐินที่นครศรีธรรมราช ก็อยากได้ตลกไป ทีนี้พี่แตน พี่นก วนิดา เขารู้จักพี่พีชอยู่แล้ว แล้วมีอยู่วันนึงเขามานั่งร้านอาหารที่คาเฟ่ วันนั้นพี่เล่นอยู่กับพี่โหน่ง ชะชะช่า แล้วก็พี่โรเบิร์ต เขาก็อยากมาดูตลก และอยากจะมาติดต่อตลกด้วย ก็เจอกันวันนั้น ทีนี้มันก็ต้องประสานงาน คอยคุยกัน
ใครเริ่มจีบใครก่อน?
กระรอก : ตอนแรกก็ยังไม่รู้สึกอะไรนะ คือพอเจอวันนั้นเสร็จ พอออกมาข้างนอกพี่จะยืนอยู่ตรงลานจอดรถหน้าคาเฟ่คนเดียว พีชเขาชอบไง แล้วเดินมาขอกอดพี่
พีช : จริงๆ วันนั้นเป็นครั้งแรกที่พีชไปคาเฟ่ แล้ววันนั้นออกมาทุกคนจะคุยกันเป็นกลุ่มๆ กระจายๆ แล้วพอมองไปก็มีคนนี้ยืนหัวโด่อยู่คนเดียว เรามองไปแล้วรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แต่ก่อนหน้านั้นได้มีการแนะนำแล้ว เราจะกลับแล้ว เราก็เดินไปหาเขา กลับแล้วนะ กอดหน่อยเท่านั้นเอง แล้วเขาก็ทึกทักเอาเองว่าพี่พีชชอบเขา
กระรอก : ผู้หญิงมากอด ถ้าไม่ชอบจะมากอดเราทำไม
แล้วพี่รู้สึกยังไง?
กระรอก : ก็โอนะ
แล้วจีบเลยไหม?
กระรอก : ยังไม่จีบ พอกอดเสร็จพี่ก็เดินไปร้านกาแฟข้างหน้า แล้วเขาก็เปิดกระจกรถมาอีกที บ๊าย บาย ไปก่อนนะกระรอก แล้วตอนนั้นเราจะเรียกเขาพี่พีช เราก็พี่พีชสวัสดีครับ เห้ย...ชอบเราหรือเปล่า
พีช : โน...เอ๋ อัจฉรา เขานั่งอยู่ข้างๆ เขาก็บอกว่าพี่รอกอย่าลืมนะวันที่เท่าไหร่ๆ ไปช่วยงาน
สุดท้ายใครตัดสินใจขอใครเป็นแฟนก่อน?
กระรอก : คือมันเริ่มเมื่อไหร่ไม่รู้ ที่สนิทกันมากที่สุดก็คือวันที่กลับจากกฐิน ตอนแรกเขาต้องบินกลับกับพี่เอ๋ แต่วันนั้นเขานั่งรถทัวร์กลับ แล้วนั่งข้างๆ เราก็ซื้อมาม่าให้เขากิน
แล้วคบกัน เป็นแฟนกันเมื่อไหร่?
กระรอก : เราไม่ได้พูดแบบนี้ คือมันซึมซับไปเรื่อยๆ
แล้วรู้ตัวว่ารักกันถึงปีไหม?
กระรอก : ไม่ถึง เป็นเดือนอะ มันค่อยๆ ซึมซับกันไปนู่น ไปนี่
พีช : ประมาณ 3 เดือนแรกก็เริ่มรู้สึกว่าผูกพัน แล้วเวลาเขามีปัญหาอะไรเขาก็จะโทรมา แล้วมีการไปออกเดทด้วยนะ ครั้งแรกที่เขาชวนไปออกเดทนี่โรแมนติกมากเลย คงไม่มีใครทำ เขาถามว่าเคยไปดูยักษ์ไหม พี่ก็บอกว่าเคยไป ยักษ์วัดแจ้ง ยักษ์วัดโพธิ์ใช่ไหม เขาบอกไม่ใช่ๆ อันนี้ยักษ์จริงๆ เลย ที่วัดห้วยตะโก นครปฐม
ฌานอล : หนูพยายามถามตลอดแด๊ดกับมามี๊เจอกันยังไง รักกันยังไง ไม่เคยได้คำตอบเลย พ่อก็บอกไม่ได้ชอบ มามี๊มาชอบก่อน มามี๊ก็บอกว่าพ่อมาจีบ หนูก็ไม่ได้คำตอบ แต่เขารักกันก็พอแล้ว
ตอนรักกันใหม่ๆ เห็นว่าต้แงหลบๆ ซ่อนๆ พี่พีชก็อยู่ในสังคมไฮโซ พี่กระรอกก็เป็นตลก แล้วพี่พีชก็ไม่มั่นใจในตัวพี่กระรอก ?
พีช : ใช่ค่ะ คือพี่พีชเป็นซิงเกิ้ลมัมใช่ไหม แล้วเรารู้สึกว่าลูกเรายังเล็ก แล้วเป็นลูกสาวด้วย เพราะฉะนั้นในเวลาที่เราจะคบใครเป็นจริง เป็นจัง ไม่อยากคบใครเล่นๆ เรารู้สึกว่าเราอายุมากแล้ว แล้วลูกเรากำลังโต มันเสียเวลา แล้วมันบั่นทอน ไม่อยากให้ลูกรู้สึกอะไร แต่ทีนี้พอมาคบพี่รอกเราก็ค่อยๆ พาเขาเข้าบ้าน ให้เขามาซึมซับในความเป็นเรา ทีนี้การที่เราไม่ได้เปิดตัว เราไม่ได้ปิดนะ แต่ว่าสังคมพี่รอกเนี่ยเขาเป็นสังคมกลางคืน ส่วนใหญ่เขาต้องทำงานกลางคืน แล้วสังคมของพวกเราที่เป็นเพื่อน ส่วนใหญ่เราเจอกันกลางวัน มันก็มีที่รู้จักบ้าง แต่จะน้อย เรารู้สึกว่าเอาไว้ให้มั่นใจก่อนแล้วค่อยเปิด มั่นใจของพี่คือเรารู้สึกว่าเราต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้แล้ว แล้วเราค่อยเปิด อะไรแบบนั้น
แต่พอเปิดปุ๊บ คนรอบข้างไม่มีใครเห็นด้วย?
พีช : ส่วนใหญ่ อย่างกลุ่มเพื่อนเขารู้สึกว่าเราต่างกัน มันแล้วแต่คนมอง พี่ก็ไม่รู้หรอกที่คนข้างนอกมอง แต่เรารู้สึกว่าเราคุยกับเขา เขาเป็นคนจิตใจดี แล้วเขาค่อยๆ มาเติมเต็มในส่วนที่เราขาดหายไป ตอนนั้นก็ยากลำบากมาก เลี้ยงลูก ตอนนั้นก็ทำงานด้วย เปิดร้านอาหารกับคุณแม่น้องมาร์กี้ เราก็จะมีสังคมกลางคืน แล้วแบ่งเวลากลางวันมาดูแลลูก มันยากลำบากไปหมด แล้วเวลาลูกไม่สบาย เข้าโรงพยาบาล มันสลับกัน คนนี้เข้า คนนี้ออก คนนี้ไป ICU คนนี้อยู่ห้องธรรมดา แล้วพอเขาเข้ามา เขาก็มาช่วย
เห็นว่าเหตุการณ์ที่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ตายแทนเราได้ คือตอนที่ลูกป่วย?
พีช : ใช่ค่ะ ตอนนั้นลูกอาหารเป็นพิษ เขาอาเจียนแล้วถ่ายเยอะมาก ตอนนั้นประมาณ 8 ขวบ ก็ส่งโรงพยาบาล แล้วโทรไปบอกคุณพ่อน้อง แต่เขาติดธุระมาไม่ได้ แต่พี่รอกอยู่ด้วยตลอด ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาล น้องนอลเขาก็อ้อนพี่รอก บอกว่าอยากให้ลุงรอกอยู่ด้วย อยากให้ลุงรอกนอนเฝ้า คือพี่พีชรู้อยู่แล้วว่าตอนกลางคืนพี่รอกต้องไปทำงาน แต่พี่รอกก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ สักพักเขาเดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วเขาคุยโทรศัพท์กับโรเบิร์ต สายควัน ว่าไปงานไม่ได้ พอดีลูกไม่สบาย ต้องเฝ้าลูกที่โรงพยาบาล เราได้ยินอย่างนี้มันก็จุกอกเหมือนกันนะ สักพักเราเดินกลับมาบอกว่าเดี๋ยววันนี้ลุงรอกจะนอนเฝ้าหนูนะ มันก็ได้ใจกัน
กระรอก : ตอนนั้นเราไม่ได้มองว่าจะเอาชนะใจเด็กๆ หรอก เราก็มองว่าก็เหมือนลูกเราแหละ เราก็ต้องให้ความสำคัญด้วย ระหว่างงานกับครอบครัวเราจะเลือกอะไร เราก็ต้องดูแลครอบครัว เพราะงานวันนี้เราหยุด พรุ่งนี้ก็ไปทำได้ แต่โอกาสที่ลูกป่วยแล้วเราได้ดูแลเขามันไม่ได้มีบ่อยๆ
แล้วอะไรที่ทำให้เราเรียกลุงรอกว่าพ่อ?
ฌานอล : จริงๆ หนูจำไม่ได้แล้ว ครั้งสุดท้ายที่เรียกลุงคือเมื่อไหร่ หนูเรียกพ่อมาตลอด เพราะมันคือความรู้สึก คือเขาพิสูจน์ว่ารักเราจริงๆ
อเล็กซ์ซานเดรีย : หนูจำเหตุการณ์ไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายเรียกลุงรอกตอนไหน แต่หนูจำได้ว่ามันนานมาก เราเรียกแด๊ดมาหลายปีมากแล้ว แล้วหนูคิดว่าพ่อเป็นพ่อหนูจริงๆ เขาห่วงใยเราจริงๆ การกระทำมันเห็น
แล้ววันที่เด็กๆ เรียกเราว่าพ่อ เรารู้สึกยังไง?
กระรอก : วันนั้นพีชบอกว่าลูกๆเขาจะไม่เรียกลุงละนะ เขาอยากจะเรียกพ่อ เขามาขอพีชว่าจะขอเรียกลุงรอกว่าพ่อ
พีช : พี่ก็อยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไง
กระรอก : มันก็เป็นความทรงจำที่ดี คือการที่เราจะทำให้เด็ก 2 คนยอมรับเราเป็นพ่อ คือเขาต้องรู้ว่าเราทำอะไรให้เขาด้วยความจริง ออกมาจากใจ แล้วที่เขาเรียกเราว่าพ่อ แสดงว่าเขาต้องประทับใจในตัวเรา และเราวางตัวเหมาสมที่จะเป็นพ่อเขาได้
แต่เหตุการณ์ที่ทำให้พี่พีชตัดสินใจแต่งงาน และเปิดตัวกับคนนี้เป็นเพราะเรื่องราวในอดีตชาติ?
พีช : ค่ะ พี่พีชเชื่ออย่างนั้น คือพี่เป็นคนสวดมนต์เป็นคนไหว้พระ บางทีเราก็จะเห็นอะไรหลายๆ อย่าง แต่ในเคสของพี่รอกเนี่ย มันเกิดจากการที่วันนั้นพี่รอกเขานั่งดูบอลอยู่ พี่เผลอหลับ
กระรอก : คือคนเราถ้านับถือศาสนาพุทธ เราจะมีความเชื่อ ไปดูนู่น ดูนี่ทุกคนก็จะทัก อย่างพี่พีชก็แบบว่าเกิดในสมัย รัชกาลที่5 นะ เป็นนู่น เป็นนี่ เป็นนั้นนะ เป็นผู้สูงศักดิ์ แต่ว่าพี่อะ ไปดูมากี่ครั้ง อันนี้เป็นความเชื่อนะ คนก็จะทักว่าผมเป็นทหารอยู่ในสมัยรัชการที่5 เป็นทหารนอกวัง ทุกคนก็จะพูดแบบนี้เหมือนกันหมด แล้วบางทีพี่พีชพูดอะไรมา เราก็จะบอกว่าที่รักมันเรื่องในอดีต แต่พี่พีชเขาจะฝัน เขาจะเห็นภาพอยู่เรื่อย เขาก็พยายามเล่าให้ฟัง เราก็บอกว่ามันเป็นเรื่องในอดีต บางทีมันไม่ใช่ก็ได้ เราอาจจะคิดไปเอง
พีช : จริงๆ ก่อนหน้าที่จะเจอพี่รอก พี่พีชก็เห็นอะไรอย่างนี้อยู่แล้ว เห็นอะไรที่อยู่ในนิมิตอยู่แล้ว เกี่ยวกับเสด็จพ่ออยู่แล้ว
กระรอก : คือวันนั้นพี่พีชเขานอนอยู่แล้วก็เปิดไฟ พี่ก็จะนั่งเอาหนังสือพระมาวางบนหมอน แล้วนั่งดูหนังสือ จนพี่พีชสะดุ้งตื่นขึ้นมา บอกว่าเขาฝัน
พีช : พี่ฝันเหมือนอยู่ในอุทยาน เพราะว่าเราใส่สไบ แล้วมีคนเดินอยู่ด้วยประมาณ 2-3 คน แต่เรารู้สึกว่ามีใครแอบมองเราแถวบันได แล้วเราก็หันไป เขาตกใจแล้วหน้าแข้งไปกระแทกกับขอบบันไดแล้วก็เลือดไหล แล้วเราก็ตกใจตื่น แล้วบอกว่าเมื่อกี้เราฝันว่าที่รักมาแอบดูหนู แล้วที่รักตกบันไดเลือดไหล
กระรอก : ผมก็เลยบอกว่าที่รักอย่าไปคิดมาก มันแค่ความฝัน นอนๆ แล้วพี่ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ กลับมาเจอเลือด ติดที่หมอนด้วย พอดูเอ้า หน้าแข้งพี่เลือดออก
เลือดมันมาจากไหน?
กระรอก : มันมาจากหน้าแข้งครับ พี่ก็ไม่รู้ไปโดนอะไร ตอนขึ้นมาก็ปกติ ไม่เจ็บด้วยนะตอนเลือดไหล พี่พีชก็มีความเชื่อว่าตอนที่เขาฝันว่าเราตกบันได มันก็เลยเป็นแบบนี้ พี่ยังพูดเล่นกับเขาเลยดีนะที่รักฝันว่าพี่ตกบันได ไม่ฝันว่าพี่โดนแทง ไม่งั้นป่านนี้ตายไปแล้วมั้ง
แล้วไม่มีแผลด้วย?
พีช : ไม่มีค่ะ หนูบอกที่รักแล้วว่าหนูฝันจริงๆ แล้วไปเอากระดาษทิชชู่มาเช็ดเลือด แล้วมันไม่มีอะไรตรงนั้น
มันเลยทำให้พี่พีชเชื่อว่าผู้ชายคนนี้แหละเบื้องบนกำหนดว่าคือคู่ของเรา?
พีช : ค่ะ คือเรารู้สึกว่าฉันไม่แต่งงานกับคนนี้ไม่ได้แล้ว แต่ก่อนมีแต่คนบอกว่ากระรอกเป็นตลกที่หล่อที่สุดในยุคนั้น เสร็จแล้วเขาเอาเทปมาให้ดู คือเรารู้สึกว่าผอม ตัวเล็ก เหมือนจิ้งเหลนอะ
กระรอก : คือตาเขาไม่ถึงของพรีเมี่ยม เขาอาจจะดูคนไม่เป็นก็ได้
บ้านนี้เจอพิษโควิดประกาศขายบ้าน 17 ล้าน?
กระรอก : คือจริงๆ พิษโควิดมันมีส่วนไหม มันก็มีส่วนกระทบเหมือนกัน ทุกคนนะ แต่ว่าที่พี่ขายบ้านเพราะตอนนั้นที่มาปลูกที่นี่คือ 1.ใกล้โรงเรียนลูก ที่ขายบ้านคือพอลูกชายคนโตเรียนจบ เข้ามหาวิทยาลัย น้องนอล เข้ามหาวิทยาลัย ก็เหลือน้องเดรียคนเดียวที่ออกมาเพื่อเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย ทีนี้เราอยากหาสถานที่ที่มันไม่เปลี่ยว เพราะบ้านเราเข้าไปลึก อยากหาที่ใกล้รถไฟฟ้า หรือว่าเดินทางสะดวก เพื่อความสะดวกของลูก อันนี้เป็นประเด็นนึง ส่วนโควิดก็เป็นประเด็นนึงเหมือนกัน มันมีส่วนกระทบเหมือนกัน แล้วอีกอย่างเราอยากจะซื้อให้เล็กลงมาหน่อย
พีช : จริงๆ บ้านหลังนี้มันก็สะดวกนะคะ เพราะมันอยู่ถนนรามคำแหง มันอยู่ใกล้มอเตอร์เวย์ จริงๆ เดินไปปากซอย ตอนนี้กำลังสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มอยู่