29 ก.ย.64 - เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 กันยายน 2564 นายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.อ.อ.ทวี บุญช่วย นายอำเภอแวงน้อย ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในเขต ต.ท่านางแนว และต.ละหานนา อ.แวงน้อย ซึ่งได้ถูกน้ำจากแม่น้ำชีที่ไหลมาจากจ.ชัยภูมิ ล้นทะลัก เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งทางอำเภอได้มีการแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า 1 สัปดาห์ในการรับมือมวลน้ำหลาก ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างขนของขึ้นที่สูงและเตรียมการรับมือในด้านต่างๆไว้แล้วทั้งหมด

จากการตรวจสอบพบว่าน้ำส่วนใหญ่ท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ของทั้ง 2 ตำบล.ขณะที่บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายบางส่วน ขณะที่ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ซึ่งทางอำเภอมีการแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมมือรับน้ำจากแม่น้ำชีที่จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นมวลน้ำที่มาจาก จ.ชัยภูมิ ที่ไหลเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

พ.อ.อ.ทวี บุญช่วย นายอำเภอแวงน้อย กล่าวว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรที่อยู่ติดแม่น้ำชี  คือ ตำบลท่านางแมว กับตำบลละหานนามีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นประมาณ 5,000 กว่าไร่ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 ครอบครัว ซึ่งคาดว่าน้ำจากชัยภูมิจะเพิ่มปริมานขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"ขณะนี้ถนนที่เชื่อมไป จ.ชัยภูมิผ่าน ต.ท่านางแนว ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมามีน้ำไหลท่วมทุกช่องทางการจราจร ทำให้ทางอำเภอได้ปิดการจราจรทั้งหมดแล้ว โดยผู้ที่จะเดินทางไป จ.ชัยภูมิ ผ่าน อ.แวงน้อย ให้ใช้เส้นทางด้านข้างที่ว่าการ อ.แวงน้อย ออกไปทาง อบต. ท่าวัดและไป จ.ชัยภูมิอีกฟากหนึ่ง อย่างไรก็ตามขณะนี้แนวทางการช่วยเหลือเบื้องต้นได้มีการกำชับให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูงแล้วทั้งหมก ขณะที่เจ้าหน้าที่ ปภ. ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดเกาะ 3 หลังคาเรือน พร้อมกับฟาร์มหมูซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงหมูออกมาประมาณ 100 ตัว ออกมาโดยปลอดภัยแล้ว"

ขณะที่นายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดได้แจ้งเตือนประชาชนให้ตั้งรับมวลน้ำจาก จ.ชัยภูมิ ไหลเข้ามา จ.ขอนแก่น 2 เส้นทาง เส้นทางแรก คือ อ.ชุมแพ อ.หนองเรือ อ. ภูเวียง  ส่วนเส้นทางที่ 2 คือ อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่ อ.โคกโพธิไชย อ.มัญจาคีรี และ อ.ชนบท โดยให้ประชาชนเตรียมรับมือน้ำที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ  และในส่วนของประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ไม่มีที่อยู่อาศัยนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือขนย้ายมาอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ และให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและตลอดทั้ง 24 ชม.