29 ก.ย. 2564 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายเร่งรัดการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อขยายการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดโลก โดยล่าสุดได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ดำเนินโครงการ “โคนมไทยก้าวไกล ขยายตลาดส่งออกได้ด้วย FTA” เพื่อเพิ่มศักยภาพสหกรณ์โคนม ผู้ประกอบการนมโคแปรรูป ส่งออกไปตลาดจีน โดยใช้ประโยชน์จาก FTA อาเซียน-จีน ที่ปัจจุบันจีนได้ยกเว้นภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้านมให้ไทยแล้ว ซึ่งถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของโครงการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 โดยการดำเนินโครงการในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 4 จะเน้นสินค้านมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากจีน และนม Future Food ผลิตภัณฑ์นมเพื่อสุขภาพ สินค้าที่ใช้นวัตกรรมในการเพิ่มมูลค่า ซึ่งเป็นสินค้าที่เป็นต้องการของผู้บริโภคจีนรุ่นใหม่
โดยความคืบหน้าการดำเนินโครงการ กรมเจรจาฯ ได้คัดเลือกสหกรณ์โคนมและผู้ประกอบการนมโคแปรรูป 20 ราย เข้าร่วมกิจกรรมอบรม Boot Camp และจัดประกวดการนำเสนอแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อคัดเลือกผู้เข้ารอบ 5 ราย เข้าร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์และเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้านมแบรนด์ไทย โดยจะนำสินค้าวางบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในตลาดจีน และจัดทำ Live sale ขายบนแพลตฟอร์มเถาเป่าของจีน ควบคู่การจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าจีนทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกสหกรณ์โคนมและผู้ประกอบการนมโคแปรรูปเข้าร่วมโครงการปีนี้ กรมฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องวัตถุดิบเป็นน้ำนมโคจากเกษตรกรภายในประเทศ หรือนำเข้านมผงจากประเทศคู่ค้า FTA กระบวนการผลิตที่มีประกาศในสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) และได้รับมาตรฐานส่งออก EST มาตรฐาน อย. และมาตรฐานอื่น ๆ เช่น ฮาลาล และ CODEX ผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้นวัตกรรม ออกแบบบรรจุภัณฑ์สวยงาม และเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และผู้ประกอบการเคยส่งออกและมีแผนการส่งออก
ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือก ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชน ได้สรุปผลการคัดเลือกแล้ว สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 20 ราย ได้แก่ 1.บริษัท คชเชอร์ โกลบอล ฟู้ด จำกัด 2.บริษัท เชียงใหม่เฟรชมิลค์ จำกัด 3.บริษัท ซันฟู้ดส์ คอร์ป จำกัด 4.บริษัท เดสทินี เอเชีย จำกัด 5.บริษัท แดรี่โฮม วิสาหกิจ เพื่อสังคม จำกัด 6.บริษัท ไทยซองฟู้ด จำกัด 7.บริษัท บุณยเกียรติ ไอศกรีม จำกัด 8.บริษัท เบญทอยส์ กรุ๊ป จำกัด 9.บริษัท แมรี่ แอน แดรี่ โปรดักส์ จำกัด 10.บริษัท ราซี่อินโนเวชั่น โปรดักส์ จำกัด 11.บริษัท เวจจี้ส์แดรี่ จำกัด 12.บริษัท อีสานใต้แดรี่ จำกัด 13.สหกรณ์การเกษตรสีคิ้ว จำกัด 14.สหกรณ์โคนมกำแพงแสน จำกัด 15.สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค ห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด 16.สหกรณ์โคนมไทยมิลค์ จำกัด 17.สหกรณ์โคนมพัทลุง จำกัด 18.สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด 19.สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด 20.องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย และสำรอง 5 ราย ได้แก่ 1.หจก.กลุ่มผู้เลี้ยงโคนมเขื่อนป่าสัก 2.หจก.ชาริสสยาม 3.หจก.แสงไทยวัฒนา 4.บริษัท วันเดอร์มิลค์แอนด์แดรี่ จำกัด 5.บริษัท พีเอสเค ผลิตภัณฑ์นม จำกัด
ปัจจุบันไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับที่ 7 ของโลก ในช่วง 7 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ค.) ไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมสู่ตลาดโลก มูลค่า 343.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.3% ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 290.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 1.6% จีน มูลค่า 14.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 8.9% ฮ่องกง มูลค่า 14.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 18.2% และกานา มูลค่า 6.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 15.4% สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต นม UHT นมถั่วเหลืองที่มีนมผสม และนม ครีมที่ไม่เติมน้ำตาล เป็นต้น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |