ภูเก็ตดุ!สั่งปิด’สถานบันเทิง-สนามชนไก่-สนามมวย’ไร้กำหนด


เพิ่มเพื่อน    

29 ก.ย.2564 -  นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแถลงว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26  มีนาคม 2563 ซึ่งต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ออกไป จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 และจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่งที่ 5409/2564 ลงวันที่ 11 กันยายน 2564  เรื่อง กำหนดมาตรการปิดสถานที่หรือห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ตั้งแต่วันที่ 15 - 28 กันยายน 2564 ให้คำสั่งนี้ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564  เนื่องจากห้วงที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาแล้วระยะหนึ่ง ทั้งการตรวจคัดกรองแบบเชิงรุก การประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้ประชาชน ผู้ประกอบการ รวมถึงการเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชน และ ศบค.ได้กำหนดพื้นที่สถานการณ์ให้จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว การกำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมโรคสามารถปรับมาตรการให้เป็นไปตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรตามพื้นที่เฝ้าระวังได้ ดังนั้น เพื่อให้มาตรการทางด้านสาธารณสุขควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตของประชาชนและการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 57/2564  จึงลงนามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ณ วันที่ 28 กันยายน 2564 คำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 5896/2564 จึงกำหนดมาตรการปิดสถานที่หรือห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค 

สาระสำคัญ ดังนี้ ข้อ 1 มาตรการปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค 1. สถานบริการ สถานบันเทิง และสถานบริการอื่นในลักษณะคล้ายกัน และ 2. สนามชนไก่ สนามกัดปลา สนามมวย หรือสถานที่จัดให้มีการเล่นการพนัน 

ข้อ 2 ให้กิจกรรมดังต่อไปนี้ ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค ตามที่ทางราชการกำหนดป้องกันการแพร่ะบาดของโรคโควิด-19 และปฏิบัติตามคู่มือและหลักเกณฑ์การปฏิบัติ Covid ตามผนวก แนบท้ายคำสั่งนี้
1.การซ้อมชนไก่ โดยไม่มีผู้เข้าชมในสนามและงดการจัดให้มีการเล่นการพนัน โดยให้ถือปฏิบัติตามคู่มือและเกณฑ์การปฏิบัติของสถานที่และกิจกรรม 2.การจัดแข่งขันชกมวยในสนามมวยชั่วคราว เพื่อผลิตรายการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แบบไม่มีผู้ชมและงดจัดให้มีการเล่นการพนัน โดยให้ถือปฏิบัติตามคู่มือและหลักเกณฑ์การปฏิบัติ 3.สถานที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์บิลเลียด หรือโต๊ะพูล และ 4.ร้านเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์

ข้อ 3 ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลซึ่งมีจำนวนรวมกันมากกว่า 200 คนและปฏิบัติตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด

ข้อ 4 มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค 1.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ 2. ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคในร้านได้ตามปกติ โดยจำหน่ายและดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ไม่เกิน 22.00 น. และสามารถเล่นดนตรีได้โดยจำกัดจำนวนนักดนตรีไม่เกิน 5 คน โดยนักดนตรีต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา นักร้องถอดหน้ากากอนามัยได้เฉพาะขณะร้องเพลงหรือแสดง ห้ามสัมผัสคลุกคลีกันระหว่างนักร้องนักดนตรีและลูกค้า และปฏิบัติตามคู่มือและหลักเกณฑ์การปฏิบัติCovid Free Setting ตามผนวกแนบท้ายคำสั่งนี้ 3. ตลาดสด ตลาดนัด ถนนคนเดิน ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามที่ทางราชการกำหนด และจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการตามขนาดของพื้นที่ 1 คน ต่อ 4 ตารางเมตร 4.ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ 5.สถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬา หรือสถานที่ออกกำลังกายให้เปิดบริการ และจัดการแข่งขันได้ทุกประเภท 6. สถาบันการศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด กรณี การจัดการศึกษาแบบนำร่องในการเปิดสถานศึกษารูปแบบใหม่ของการศึกษาเอกชนตามโครงการเปิดโรงเรียนอย่างปลอดภัย (Phuket Safety Schools Sandbox) ให้สามารถจัดการเรียนการสอนได้โดยมติเห็นชอบของที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาจังหวัดภูเก็ต และปฏิบัติตามมาตรการ แนวทางปฏิบัติที่กำหนด

ข้อ 5 มาตรการตรวจสอบเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายหรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เข้มงวดในการตรวจสอบสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น โรงงาน สถานที่พักของแรงงานต่างด้าว หรือสถานที่อื่น ๆให้เป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบ รวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"