เฮ! ประเดิมวันแรกไทยติดเชื้อต่ำกว่าหมื่นอยู่ที่ 9,489 ราย แต่เสียชีวิตยังหลักร้อยที่ 129 ราย  สธ.ชี้โควิดไทยอยู่ช่วงขาลง อ้างตัวเลขคณิตศาสตร์ก่อนสิ้น ต.ค.อาจมีแค่ 5 พัน แต่ยังผวาคลัสเตอร์ใหม่-กลายพันธุ์ทำตัวเลขเหวี่ยงกลับ “กรมอนามัย” เตือนน้ำท่วมอาจทำให้เกิดระบาดกลุ่มก้อน ครม.เคาะตาม ศบค.ขยาย  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน ร่นเวลาเคอร์ฟิว ตร.กำชับยังห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร
    เมื่อวันอังคารที่ 28 ก.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในไทยว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 9,489 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 9,210 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,823 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 387 ราย  มาจากเรือนจำ 269 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี  2563 จำนวน 1,581,415 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น  12,805 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี  2563 จำนวน 1,448,206 ราย อยู่ระหว่างรักษา  116,711 ราย อาการหนัก 3,283 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 738 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 129 ราย เป็นชาย  65 ราย หญิง 64 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 96 ราย มีโรคเรื้อรัง 19 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน กทม. 25 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี  2563 จำนวน 16,498 ราย 
    สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 28 ก.ย.  ได้แก่ กทม. 1,557 ราย, สมุทรปราการ 722 ราย,  ชลบุรี 712 ราย, ปัตตานี 413 ราย, นครศรีธรรมราช  389 ราย, นราธิวาส 346 ราย, ยะลา 291 ราย, สงขลา 281 ราย, นครราชสีมา 275 ราย และระยอง  259 ราย ทั้งนี้มี 2 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ คือ น่านและพะเยา โดยพะเยาไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 วันติดต่อกันแล้ว 
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า  สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูลวันที่ 28 ก.ย.พบผู้ติดเชื้อใหม่ 269  ราย และเสียชีวิต 3 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,552 ราย โดยวันนี้มีเรือนจำพบการระบาดใหม่ คือเรือนจำกลางระยอง ขณะที่มีเรือนจำพ้นจากการระบาดเพิ่ม คือเรือนจำจังหวัดชัยนาท ส่งผลให้สถานะเรือนจำแพร่ระบาดยังคงเดิม โดยมีเรือนจำสีแดง  24 แห่ง และเรือนจำสีขาว 118 แห่ง 
“สถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำค่อนข้างชะลอตัวและควบคุมสถานการณ์ได้แล้วเป็นส่วนใหญ่ โดยปัจจุบันมีเรือนจำที่ยังอยู่ระหว่างควบคุมการระบาดเพียง  4 แห่ง คือ เรือนจำกลางระยอง, เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี, เรือนจำตราด และเรือนจำนนทบุรี ที่เป็นเรือนจำระบาดซ้ำ” นายอายุตม์กล่าว
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังการปรับมาตรการของ  ศบค. ยอดผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในระดับคงที่และมีแนวโน้มลดลง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ขอบคุณความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องประชาชนที่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และ  Universal Prevention จนเห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม
“วันนี้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าหมื่นในช่วงหลายสัปดาห์ และมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง  จำนวนผู้รักษาหายป่วยกลับบ้านมากกว่ายอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวัน แสดงถึงศักยภาพของสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการปรับมาตรการควบคุมโรคที่ได้ผล และความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการ” นายธนกรกล่าว
ขณะที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 กำลังอยู่ในช่วงขาลง เป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้ สัดส่วนผู้ป่วยหนักและผู้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจลดลงตามลำดับ หลังตัวเลขก่อนหน้านี้อยู่ที่ 4-5  พันรายต่อวัน ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 3 พันรายต่อวัน และมีการประมาณการจะมีผู้ติดเชื้อราวๆ 5 พันรายต่อวันก่อนสิ้น ต.ค. ซึ่งเป็นการประเมินตามหลักคณิตศาสตร์ แต่ยังมีหลายปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) และเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ และมีการประเมินฉากทัศน์อาจกระดกขึ้นหลังเดือน ต.ค. เพราะหมดแรงเหวี่ยงของช่วยล็อกดาวน์ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยทำให้การพยากรณ์นี้ไม่เป็นจริง การติดเชื้อไม่เหวี่ยงขึ้น โดยต้องยกการ์ดป้องกันตัวเอง
    “ปัจจัยที่จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเหวี่ยงขึ้นไปอีก คือการเกิดคลัสเตอร์ใหญ่และเชื้อกลายพันธุ์ ซึ่งเรื่องกลายพันธุ์ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ไวรัสกลายพันธุ์ได้ระดับหนึ่งเท่านั้น น่าจะอยู่ร่วมกันได้ โดยโรคไม่รุนแรง คาดว่าเราสามารถทรงระบบอย่างนี้ไปได้ คาดว่าต้นปีหน้าราวๆ  มี.ค.65 โรคน่าจะสงบพอสมควร ใกล้ภาวะปกติ แต่ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยต่อไปอีกระยะ” นพ.เกียรติภูมิกล่าว
    ส่วน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ขณะนี้ไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วม แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงอยู่ สิ่งที่ต้องระวังคือ อาจเกิดคลัสเตอร์ใหม่จากการรวมตัวในชุมชนหรือศูนย์พักพิงได้ รวมทั้งบุคคลภายนอกที่เข้าไปช่วยเหลืออาจนำเชื้อไปแพร่ในชุมชนได้เช่นกัน ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19  DMHTT อย่างเคร่งครัด โดยปรับวิธีปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำท่วมในแต่ละพื้นที่
ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบมติที่ประชุม ศบค.เมื่อวันที่  27 ก.ย. โดยเห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร  ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ถึงวันที่ 30 พ.ย.64 รวมทั้งเห็นชอบลดระยะเวลาเคอร์ฟิว หรือห้ามออกนอกเคหสถาน เป็นเวลา 22.00-04.00 น. จากเดิม 21.00-04.00 น.ในพื้นที่สีแดงเข้ม โดยจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป
น.ส.ไตรศุลียังกล่าวว่า ครม.ยังเห็นชอบการขยายระยะเวลาการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) ต่อไปอีก 1  ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ไปสิ้นสุด 30  ก.ย.65 ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ  โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ รายงานว่า ผลการดำเนินงานในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา มีกลุ่มนักท่องเที่ยวมีศักยภาพและกลุ่มลองสเตย์เดินทางเข้ามาไทยผ่านแนวทาง STV  จำนวน 5,609 ราย สร้างรายได้ให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 1,243  ล้านบาท ซึ่งจังหวัดที่นักท่องเที่ยวเดินทางหลังกักตัวมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ, สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย), ภูเก็ต,  อุดรธานี, ชลบุรี (พัทยา), ปทุมธานี, นนทบุรี, เชียงใหม่  และระยอง โดยส่วนใหญ่พำนักเฉลี่ย 90 วัน
นายธนกรกล่าวถึงกรณีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ใช้งบประมาณ 16 ล้านบาทจัดกิจกรรมมินิคอนเสิร์ต "THAILAND SHA SHA SHA"  ในพื้นที่ภูเก็ต, พังงา และกระบี่ โดยอ้างเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว และทำให้เกิดกระแสคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ว่า เรื่องนี้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวฯ ได้ชี้แจงในที่ประชุม ครม.และได้สั่งยกเลิกกิจกรรมไปจนกว่าสถานการณ์จะเหมาะสมแล้ว
ส่วน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงมติ ศบค.ขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 2 เดือน และผ่อนคลายกิจกรรมกิจการเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เน้นย้ำให้ตำรวจทุกพื้นที่ยังคงร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และสาธารณสุขในพื้นที่ ตรวจสอบสถานประกอบการต่างๆ  ให้ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในพื้นที่ 29 จังหวัดซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะยังคงมาตรการเคอร์ฟิวห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 22.00- 04.00 น.ต่อไปอีกอย่างน้อย 15 วัน และร้านอาหารที่มีการผ่อนปรนให้เล่นดนตรีได้ จะยังคงห้ามจำหน่ายหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ภายในร้าน จึงไม่สามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปดื่มในร้านได้ 
    สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ต่างๆ นั้น  สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครได้เผยตัวเลขล่าสุดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่าลดลงอย่างมาก เหลือเพียง 137 ราย  และมีผู้เสียชีวิต 4 ราย ส่วนจังหวัดอำนาจเจริญมีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่ม 12 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ขณะที่ จ.กระบี่ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตรายวันต่อเนื่อง โดยล่าสุดศูนย์สื่อสารความเสี่ยง  สำนักงานสาธารณสุข จ.กระบี่ ได้รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 93 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กระบี่จึงได้ออกประกาศฉบับที่ 74/2564 มีคำสั่งปิดอีก 6 หมู่บ้าน ใน 3 อำเภอของ  จ.กระบี่ และให้เลื่อนการจัดคอนเสิร์ต Thailand  Sha Sha Sha @Andaman Memory  ที่อ่าวนาง แลนด์มาร์กออกไปด้วย.