"บิ๊กตู่" ไม่หวั่นฝ่ายค้านจ้องยื่นตีความวาระเป็นนายกฯ ไม่เกิน 8 ปี ย้ำหากใครข้องใจให้ไปดูนั่งเป็นนายกฯ มา 2 รอบด้วย รธน.ฉบับไหน ร่างแก้ไข รธน.ถึงมือนายกฯ แล้ว เก็บไว้ 5 วันก่อนทูลเกล้าฯ ถวาย รัฐบาลมีมติ ครม.แจ้ง กกต.เดินหน้ายกร่างแก้ พรบ.เลือกตั้ง ครม.เห็นชอบโอนอำนาจ 4 กรม งานเดิม “ธรรมนัส” ให้ "ป้อม" ดูแลแทน "จุรินทร์"
หลังมีการชี้ปมประเด็นข้อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน มาตรา 158 วรรคสี่ ที่บัญญัติว่า “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง” จนทำให้เกิดการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองกันว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่เคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรียุค คสช.มาด้วย 5 ปี รวมกับปัจจุบันที่เป็นนายกฯ หลังเลือกตั้งอีก 2 ปี จะเหลือเวลาการเป็นนายกฯ อีกนานแค่ไหน
โดยเมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีตามที่ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมาย ถึงกรณีฝ่ายค้านยกมาตรา 158 วรรคสี่ดังกล่าว ขึ้นมา นายกรัฐมนตรีวิตกกังวลหรือไม่ โดยนายธนกรกล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงว่าต้องไปศึกษาดูว่านายกฯ ดำรงตำแหน่งมา 2 ครั้งด้วยรัฐธรรมนูญฉบับใด ซึ่งมีฝ่ายกฎหมายพิจารณาเรื่องนี้อยู่แล้ว นายกฯ จะต้องวิตกทำไมเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมาย กรณี พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ย้ำชัดว่าไม่มีปัญหาความสัมพันธ์ แต่เหมือนว่ากลุ่มการเมืองเองหรือไม่ที่พยายามทำให้เกิดภาพการวัดกำลังว่า นายกฯ ชี้แจงว่าสื่อโซเชียลพยายามจะสร้างข่าวสร้างดรามาไปเรื่อยๆ อย่าไปสนใจนัก ไม่ได้มีการแสดงพลังกันแต่อย่างใด เป็นหน้าที่ของนายกฯ ในฐานะผู้บริหารสูงสุดต้องไปตรวจเยี่ยมรับฟังความคิดเห็น กำชับส่วนราชการให้ประชาชนอย่างทั่วถึง
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าการลงพื้นที่ของ 2 ป.จะมีการเหลื่อมกัน จะถูกกลุ่มการเมืองทั้งในพรรคและนอกพรรคนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง นายธนกรกล่าวว่า เรื่องนี้นายกฯ ได้ชี้แจงว่าจะไปวันเดียวกันหรือคนละวันก็เป็นเรื่องของเวลาที่แต่ละท่าน ทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีแต่ละคนก็ต้องลงไปเยี่ยมประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาว่างเว้นเนื่องจากสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะช่วงน้ำท่วมการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม เกษตรกร และย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนราชการทุกกระทรวง ระดับพื้นที่ดูแลด้วย
เมื่อถามว่า มีการออกมาเปิดเผยว่าการเดินสายของ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นการเช็กฐานเสียงเพื่อเตรียมไปเล่นการเมืองกับพรรคของนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย แทนพรรคพลังประชารัฐ นายธนกรกล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงว่าเป็นเรื่องที่สื่อโซเชียลเขียนขึ้นมาเอง การไปเยี่ยมประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็น ความต้องการที่เป็นไปได้ในการพัฒนาจังหวัดและการพัฒนาท้องถิ่น
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุม ครม.เต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 28 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด บางช่วงได้มีการแซวบรรดารัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงยังคงเดินทักทายรัฐมนตรีในช่วงพักการประชุมเหมือนเช่นเคย
โดยก่อนจะเริ่มวาระการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ คือนายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพราะถือเป็นการประชุม ครม.นัดสุดท้ายของหัวหน้าส่วนราชการเหล่านี้ โดยระบุว่า “ขอให้มีความสุขหลังเกษียณอายุราชการ แต่ถึงอย่างไรก็อาจจะต้องมาช่วยงานผมบ้าง เราเป็นครอบครอบครัวเดียวกัน มีโอกาสก็ต้องมาช่วยกันทำงาน รวมถึง ครม.ทุกคนที่นั่งในที่นี้ เราเป็นรัฐบาล เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ต้องช่วยกันทำงาน”
แจ้ง กกต.รับลูกแก้ กม.เลือกตั้ง
นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า ในที่ประชุม ครม.นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า รัฐสภาได้ส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบในวาระ 3 มาให้ ครม.แล้วเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ตามขั้นตอนนายกฯ ต้องรอ 5 วันก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า ขอให้มีมติ ครม.ร่วมกันเพื่อแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เตรียมยกร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ไว้ด้วย เพื่อให้ทำควบคู่กันไปในระหว่างนี้จะได้ไม่เสียเวลา เพราะมีกระบวนการจัดทำการรับฟังความเห็นของประชาชนด้วย จากนั้นที่ประชุม ครม.ได้ให้ความเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวด้วยว่า “กฎหมายทุกฉบับต้องช่วยกันโหวต ฝากทุกพรรคให้ช่วยกันโหวตด้วย”
ทั้งนี้ หลังการประชุม ครม.เสร็จสิ้นลง โดยในช่วงเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย หรือ "3 ป." ได้มีการพูดคุยนอกรอบกันที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ก่อนที่ พล.อ.อนุพงษ์จะได้แยกออกอีกประตูหนึ่ง ขณะที่นายกฯ และ พล.อ.ประวิตรเดินออกมาด้วยกัน
โดยมีนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม รออยู่บริเวณทางออก อีกทั้งระหว่างที่นายกฯ จะเดินไปส่ง พล.อ.ประวิตรขึ้นรถนั้น นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มายืนรอส่ง พล.อ.ประวิตรอยู่ที่บริเวณทางเชื่อมระหว่างตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี เช่นเดียวกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่รอส่งอยู่บริเวณด้านข้างของรถ
โดยนายกฯ ได้พูดคุยหยอกล้อและโอบไหล่นายชัยวุฒิอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่นายกฯ จะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับนายสุชาติ, นายชัยวุฒิ และนายอธิรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีมติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) โดยให้ พล.อ.ประวิตรกำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี แทนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฉพาะกรมพัฒนาที่ดิน, กรมฝนหลวงและการบินเกษตร, สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่เดิมทั้ง 4 กรมนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ โดยกระทรวงเกษตรฯ อยู่ในอำนาจกำกับดูแลของนายจุรินทร์ และเมื่อมีมติ ครม.ดังกล่าวส่งผลให้งานของ 4 กรมนี้ เมื่อ รมว.เกษตรฯ พิจารณากลั่นกรองแล้วจะเสนอเรื่องเข้า ครม. จะต้องเสนอผ่าน พล.อ.ประวิตรแทน
วันเดียวกันนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้พิจารณาและส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีรัฐสภาแก้ไขร่าง รธน.เรื่องบัตรเลือกตั้งสองใบ โดยย้ำว่าเหตุที่ต้องมายื่นเพราะร่างรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขนั้นขัดหลักการ เพราะตอนเสนอขอแก้ไขขอแค่ 2 มาตรา แต่มาลักไก่แก้ 3 มาตราด้วยการเพิ่มการแก้ไขมาตรา 86 จึงเป็นกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกินกว่าหลักการ
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า แม้ร่างรัฐธรรมนูญถึงมือนายกฯ แล้ว แต่นายกฯ มีเวลาพิจารณาช่วงหนึ่งในการพิจารณาตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้รัฐธรรมนูญของรัฐสภา เรื่องระบบเลือกตั้งชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะกระทบขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายหรือไม่นั้น นายชวนเห็นว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของ นพ.วรงค์ ซึ่งก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายก็ยังพอมีอีกช่วงระยะเวลาหนึ่งที่จะเป็นการพิจารณาตัดสินใจของฝ่ายบริหาร แต่มั่นใจว่าการยื่นตีความดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อกระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
พท.อ้างมีขบวนการทุจริต ทอ.
ขณะที่ความเคลื่อนไหวในพรรคประชาธิปัตย์ หลังมีกระแสข่าวว่าพรรค ปชป.จะไม่ส่งนายนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า หลังจากยกมือไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ รมต.ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งที่ผ่านมา นายอันวาร์กล่าวว่า มีกระแสข่าวนี้มานานแล้ว แต่ส่วนตัวไม่เคยได้รับแจ้งจากพรรคเลย แต่เรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อปี 2550 เมื่อตนจะลงสมัคร ส.ส.เป็นสมัยที่สอง ก็มีการทำโพลแจ้งพรรคว่าส่งตนไปก็แพ้ แต่สุดท้ายพรรคหาคนลงแทนไม่ได้ก็ส่งตน จนชนะได้เป็น ส.ส.มาถึงปัจจุบันรวม 4 สมัยแล้ว ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรผิดต่อพรรคต้นสังกัด
เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งลง ส.ส.จริงจะทำอย่างไร นายอันวาร์ตอบว่า หากพรรคไม่คิดถึงประชาชนก็มีสองทางเลือกคือ หยุดงานการเมืองแล้วไปทำอย่างอื่น แต่หากประชาชนยังต้องการก็ต้องบอกว่าจะให้ไปอยู่พรรคใด โดยที่ผ่านมาก็มีพรรคการเมืองอื่นมาทาบทามหลายพรรคทั้งพรรคใหญ่และเล็ก แต่ไม่ได้ไป ซึ่งการจะไปอยู่กับพรรคการเมืองใดอยู่ที่ประชาชนในเขตเลือกตั้งจะชี้นำ และย้ายแล้วสามารถสานงานที่ค้างไว้ได้มากน้อยแค่ไหน
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ.ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า กองทัพอากาศมีความจำเป็นต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงทีโออาร์การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ 3 โครงการ มูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาท เนื่องจากทีโออาร์เดิมทำให้กองทัพอากาศเสียเปรียบ โดยกล่าวว่า รู้สึกแปลกใจและผิดหวังกับคำชี้แจงของ ผบ.ทอ. เพราะข้อมูลที่ ผบ.ทอ.ชี้แจงนั้นขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ กมธ.ป.ป.ช.ตรวจสอบ ขณะเดียวกันเรื่องโครงการพัฒนาการป้องกันฐานที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ (GBAD) มูลค่าโครงการ 940 ล้านบาทนั้น โครงการนี้ส่งกลิ่นเหม็นเน่ามาก เพราะ ทอ.ดำเนินการจัดหาโครงการนี้ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง คือการเลือกบริษัทเพียงรายเดียวให้มาเสนอราคา ทั้งๆ ที่มีบริษัทหลายรายต้องการเข้าแข่งขัน ซึ่งไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 อาจเป็นกระบวนการหากินงบประมาณแผ่นดินที่คนใน ทอ.รู้ดี เรียกขบวนการนี้ว่า อบจ. ส่วนใครเป็นใครถามญาติพี่น้องใน ทอ.คงตอบคำถามนี้ได้ไม่ยาก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |