28 ก.ย.64 - นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงาน พรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์  ล้มเหลวในการจัดการทุจริตของรัฐ มีการปล่อยปละละเลยจนก่อให้เกิดความเสียหายกับงบประมาณของรัฐบาล พบว่าการดำเนินโครงการของรัฐบาล มีรายงานว่า พบการทุจริตในทุกโครงการของรัฐ แต่ที่รัฐบาลไม่เคยยอมรับอ้างว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ไม่เคยมีการติดตามการทุจริตแต่อย่างใด ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศว่า รัฐบาลนี้ไม่เคยทุจริต ถือเป็นการโกหกกลางสภา การทุจริตเกี่ยวกับการจัดการแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 พบว่ามีการทุจริตหนักมาก ตั้งแต่คดีทุจริตทำสัญญาลวงซื้อขายถุงมือยาง ขององค์การคลังสินค้า มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท การจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค แต่มีราคาแพง เอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน พบมีส่วนต่างของราคาในการจัดซื้อทั้งสิ้น 2,098 ล้านบาท ล่าสุดการทุจริตในการลงทะเบียนจองคิวรับวัคซีนโควิด-19 โดยมูลค่าความเสียหายจากสำนวนตำรวจมีมูลค่า 7 ล้านบาท ทั้งหมดนี้ล้วนชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลไม่จริงใจในการจัดการจัดการทุจริตและหาประโยชน์จากความเดือดร้อนของประชาชน

นายสมคิดกล่าวว่า การแก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำล้นของรัฐบาล ล้มเหลวซ้ำซาก พบว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบบริหารจัดการน้ำปีละประมาณ 6 หมื่นล้านบาท รวมแล้วมากกว่า 4 แสนล้านบาท แต่ประชาชนต้องประสบปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมทุกปี งบประมาณตรงนี้ รัฐต้องชี้แจงนำไปทำอะไร ที่สำคัญหลังการรัฐประหารปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศแก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำล้นอย่างบูรณาการ เป็นเพียงคำพูดให้ดูดีของพล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้นใช่หรือไม่ แต่ไม่เคยทำได้จริง ถึงเวลานี้ประชาชนทั้งประเทศ หมดศรัทธาและไม่เหลือความเชื่อมั่นในตัวพล.อ.ประยุทธ์ อีกแล้ว ยิ่งอยู่นานปัญหายิ่งเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนปฎิเสธพล.อ.ประยุทธ์ มานานแล้ว การบริหารราชการที่ปล่อยปละละเลยจนสร้างปัญหาให้ประชาชนในทุกมิติ ทางที่ดี ควรที่จะหาทางลงจากอำนาจได้แล้ว หากยั้งยื้อและยึดติดอำนาจต่อไป เกรงว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะหาทางลงไม่ได้