ขนส่งเล็งปรับค่ารถเมล์เป็นขั้นบันได -รับค่าโดยสารปัจจุบันต่ำเกินจริง เตรียมชงคมนาคมก.ค.นี้ปรับค่าโดยสารรถเมล์เพิ่ม 10%-15% ยกคุณภาพบริการ เผยค่าโดยสารต่ำกว่าจริง 33% ฉุดรายได้ลดลง 25%
นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่าความคืบหน้าการปรับโครงสร้างค่าโดยสารรถประจำทางและรถเมล์นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดรับฟังข้อคิดเห็นและสรุปรายละเอียด คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการขบ.ภายในเดือนก.ค.นี้ ก่อนส่งต่อเข้าสู่กระทรวงคมนาคมในเดือนเดียวกัน ทั้งนี้เบื้องต้นยอมรับว่าค่าโดยสารในปัจจุบันไม่สะท้อนและต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริงเพราะต้นทุนหลายด้านสูงตามราคาตลาด
อย่างไรก็ตามจึงต้องพิจารณาอัตราค่าโดยสารใหม่อย่างรอบคอบ หากต้องปรับขึ้นค่าโดยสารคงจะใช้อัตราแบบขั้นบันได กล่าวคือ การทยอยขึ้นค่าโดยสารไม่ให้กระทบกับประชาชน เช่นเดียวกันกับต่างประเทศซึ่งมีการปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ทุกปีตามกรอบราคาที่กำหนดร่วมกัน ส่วนที่ขาดให้ไปปรับในปีถัดไป นอกจากนี้ยังคงต้องหาแนวทางอุดหนุนผู้ประกอบการด้านอื่นด้วย เช่นช่วยเหลือต้นทุนค่าเชื้อเพลิงเป็นต้น
ด้านนายเอกชัย สุมาลี คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการปรับโครงสร้างค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเปิดเผยว่าจากการศึกษาโครงสร้างต้นทุนพบว่าค่าโดยสารในปัจจุบันไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่าจ้างและค่าซ่อมเป็นต้นส่งผลให้ต้องพากันลดต้นทุนดำเนินธุรกิจเดินรถจนคุณภาพตกต่ำจนประชาชนไม่ใช้บริการไปกระทบรายได้ต่อเนื่องสุดท้ายต้องทยอยเลิกกิจการ จากการศึกษาต้นทุนรถเมล์ปรับอากาศขนาด 12 เมตร ซึ่งในอนาคตส่วนใหญ่จะใช้รถประเภทนี้พบว่าค่าโดยสารในปัจจุบัน ต่างจาก ค่าโดยสารมาตรฐานที่ควรจะเป็น ถึง 32.75% แบ่งเป็นประเภท CNG ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคนปัจจุบันที่ 15.80บาท/กม. ค่าโดยสารที่ควรจะเป็นที่ 23.49 บาท
อย่างไรก็ตามขณะที่ประเภทเชื้อเพลิงดีเซลค่าโดยสารเฉลี่ยต่อคนปัจจุบันที่ 21.88 บาท ค่าโดยสารที่ควรจะเป็น 29.58 บาทต่อคนแตกต่างกัน 26% ส่งผลให้รายได้ต่อคันต่อวันต่ำกว่าค่ามาตรฐานถึง 33% จากที่ควรจะเป็น 7,500 บาทต่อวันกลับมีรายได้ราว 5,000 บาทต่อวัน
อย่างไรก็ตามการปรับราคาให้ใกล้เคียง Standard Costต้องมาพร้อมกับการยกระดับรถเมล์ใหม่ การติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยและคุณภาพบริการภาพรวมที่ดีขึ้น ดังนั้นตนจึงมองว่าค่าโดยสารในอนาคตที่ควรจะเป็นปรับเพิ่มขึ้นราว 10%-15% จากปัจจุบันเพื่อสนับสนุนการพัฒนาวงการรถเมล์ตลอดจนเอื้อให้ผู้ประกอบการอยู่ได้โดยมีกำไร
ทั้งนี้จะเสนอให้รัฐบาลออกนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เส้นทางปฏิรูป 269 คัน เช่น เงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษจากแบงก์รัฐเพื่อลงทุนเพิ่ม ส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ให้รับรองการผลิตคัทซีและตัวถังในประเทศซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการซื้อรถเมล์ใหม่ได้ทันที 40%-50% จากปัจจุบันราคาคันละ 3.5-4 ล้านบาท นอกจากนี้ยังควรส่งเสริมสิทธิพิเศษทางการเงินเพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการรวมกลุ่มเป็นนิติบุคคลหรือสหกรณ์เพื่อง่ายต่อการกู้เงินลงทุนเพิ่มจากสถาบันการเงิน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |