งัดกลยุทธิ์สู้ศึก"พิซา"/ศธ..ขอตรวจการแปลข้อสอบก่อน


เพิ่มเพื่อน    


ที่ โรงแรมบางกอกพาเลซ -สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดการประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ หรือ พิซา ประจำปี 2561 โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานพร้อมทั้งกล่าวตอนหนึ่งว่า เนื่องจากในวันที่ 7 สิงหาคม 2561 นี้ จะมีการจัดการสอบพิซา ในกลุ่มนักเรียนอายุ 15 ปี  ซึ่ง ศธ.จะต้องมีการตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ เพราะการสอบพิซาเป็นประเด็นสำคัญทั่วโลกไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น และเราต้อวเห็นถึงความสำคัญ และการสอบพิซาก็เป็นเหมือนปรอทวัดอุณหภูมิด้านการศึกษา เพราะบางประเทศใช้ประเด็นเรื่องคะแนนพิซาในการโจมตีรัฐบาล อีกทั้งในด้านเศรษฐกิจการที่นักลงทุนจะมาลงทุนในประเทศต่างๆ ก็จะต้องดูเรื่องการศึกษาโดยใช้คะแนนการสอบพิซาเป็นพื้นฐาน ซึ่งการสอบพิซาไม่สามารถไปกวดวิชาได้ เพราะข้อสอบพิซาจะเป็นรูปแบบวัดความคิดวิเคราะห์และการอธิบายในสถานการณ์ต่างๆ ดังนั้นการสอบพิซาจะทำให้เด็กคุ้นเคยกับข้อสอบมากขึ้น ขณะเดียวกันการคะแนนการสอบพิซาของเด็กไทยก็ไม่ได้ต่ำสุด ซึ่งถือว่าเรายังไม่ได้แพ้ใครในโลก

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า  เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้หารือร่วมกับประธานองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อแก้ไขปัญหาการติดขัดการสอบพิซาของไทย คือ ในปีนี้ข้อสอบพิซาจะเน้นการอ่าน  ซึ่งจะมีปัญหาเรื่องการแปลข้อสอบจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทย  เพราะนักภาษาศาสตร์แสดงความคิดเห็นว่า ผู้แปลข้อสอบไม่มีความเชี่ยวชาญและแปลเป็นภาษาที่ผู้เข้าสอบเข้าใจได้ยาก ดังนั้นตนจึงเสนอขอตรวจสอบการแปลภาษาก่อนจะมีการสอบเกิดขึ้น ซึ่งตนเข้าใจดีว่าข้อสอบเป็นความลับแต่หากไม่ให้ตรวจแปลภาษาก็จะไม่ยุติธรรมกับเด็กไทย และตนยืนยันหากไม่ให้ตรวจสอบตนก็จะไม่ให้เด็กไทยเข้ารับการทดสอบเช่นกัน  ขณะเดียวกันยังหารือประเด็นเด็กในโรงเรียนขยายโอกาส และโรงเรียนขนาดเล็ก ของประเทศไทยส่วนใหญ่มีครูคนเดียวสอนหลายวิชาและหลายชั้นเรียน จึงทำให้ที่ผ่านคะแนนเฉลี่ยการสอบพิซาโดยรวมของประเทศต่ำลง ซึงในหลายประเทศก็ได้ยกเว้นโรงเรียนกลุ่มเหล่านี้ออกไปแล้ว เช่น ประเทศเวียดนาม ไม่ได้นำคะแนนจากโรงเรียนเหล่านี้มารวมในคะแนนเฉลี่ยของประเทศ เป็นต้น โดยในส่วนของประเทศไทยยังคงทดสอบพิซาโรงเรียนกลุ่มนี้ เพื่อทดสอบคุณภาพการจัดการศึกษาของไทยและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ แต่จะไม่ขอนำคะแนนพิซามารวมกับค่าฉลี่ยขงประเทศ ซึ่งโออีซีดีได้รับทราบในหลักการข้อเสนอดังกล่าวแล้ว

“ผมไม่อยากให้เหมือนที่ผ่านมาหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งรับผิดชอบการสอบพิซาเพียงหน่วยงานเดียว จึงตั้งศูนย์พิซาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขึ้น เพื่อทำงานยกระดับคะแนนสอบพิซาให้สูงขึ้น และที่สำคัญคือการมีศูนย์นี้ของสพฐ.จะช่วยทำความเข้าใจกับสถานศึกษาได้ง่ายขึ้นถึงกระบวนการสอบต่างๆ  เพราะที่ผ่านมามีเสียงสะท้อนจากสถานศึกษาว่า ต้องนำเด็กที่อายุ 15 ปีบริบูรณ์หรือชั้น ม.2 มาสอบ แต่ในต่างประเทศได้นำอายุ 15 ปีแต่ยังไม่ถึง 16ปี หรือเด็กที่กำลังศึกษาในชั้น ม.4 มาร่วมทดสอบ จึงทำให้คะแนนพิซาเหลื่อมล้ำ  ดังนั้นศูนย์นี้จะต้องไปดูและทำความเข้าใจใหม่ว่าการนำเด็กเข้าทดสอบจะต้องยึดช่วงอายุไม่ใช่ยึดชั้นเรียน ทั้งนี้ผมตั้งเป้าให้ศูนย์ดังกล่าวดูแลภาพรวมการสอบพิซาให้มีคะแนนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย” รมว.ศธ. กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"