27 ก.ย.2564-นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่าได้ขานรับข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชน จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่  พร้อมดำเนินการตามแผนป้องกันสาธารณภัยอย่างเคร่งครัด และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง โดยเตรียมความพร้อมในการป้องกัน การฟื้นฟู และการเยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลายในทุกมิติ เพื่อช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที

สำหรับสถานการณ์ประจำวันที่ 27 กันยายน 2564  เวลา 16.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 19 จังหวัด  ( 63 สายทาง 120 แห่ง) โดยการจราจรผ่านไม่ได้ทั้งสิ้น 45 แห่ง  ดังนี้

จังหวัดชัยภูมิ (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)  ได้แก่ทล. 201 หนองบัวโคก-บ้านลี ช่วง กม.ที่ 84+300 ระดับน้ำสูง 60-80 ซม. ทล. 2170 วัดปทุมชาติ – หนองจาน ช่วง กม.ที่ 0+000 – 4+100 ระดับน้ำสูง 120 ซม. ทล. 2170 วัดปทุมชาติ – หนองจาน ช่วง กม.ที่ 15+000 – 18+000 ระดับน้ำสูง 120 ซม.

จังหวัดนครราชสีมา (การจราจรผ่านไม่ได้ 8 แห่ง) ได้แก่ทล. 201 ด่านขุนทด – หนองบัวโคก ช่วง กม.ที่ 44+000 – 48+300 ระดับน้ำสูง 30 ซม.ทล. 2217 ด่านขุนทด – หนองกราด  ช่วงกม.ที่ 0+700 – 2+500  ระดับน้ำสูง 50 ซม. เดินทางไปชัยภูมิ ใช้ทล.2 แทน  ทล. 2217 ด่านขุนทด – หนองกราด  ช่วงกม.ที่ 5+970 – 6+200  ระดับน้ำสูง 50 ซม.  ทล. 2217 ด่านขุนทด – หนองกราด  ช่วงกม.ที่ 10+000 – 12+150 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทล. 2217 ด่านขุนทด – หนองกราด  ช่วงกม.ที่ 15+200 – 16+000 ระดับน้ำสูง 50 ซม.

ทล. 2217 ด่านขุนทด – หนองกราด  ช่วงกม.ที่ 17+050 – 17+200 ระดับน้ำสูง 50 ซม.ทล. 2217 ด่านขุนทด – หนองกราด  ช่วงกม.ที่ 19+960 – 20+460 ระดับน้ำสูง 50 ซม.ทล. 2246 โคกสี – ตะโก ช่วง กม.ที่ 49+945 น้ำกัดเซาะบริเวณคอสะพาน ให้ใช้ ทล.202 หรือ ทล.2160 แทน

จังหวัดสุโขทัย  (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) ได้แก่ทล. 12  ตอน เมืองเก่า – สุโขทัย ช่วงกม.ที่ 168+178 – 171+270 ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 40 ซม.  เดินทางจากตากไปพิษณุโลกให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.12 แทน ทล. 101 คลองโพธิ์ – ท่าช้าง ช่วง กม.ที่ 79+969 – 82+000 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ทล. 125 แจกัน – บ้านสวน ช่วง กม.ที่ 14+450 – 19+400 ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 75 ซม. เดินทางจากตากไปพิษณุโลกให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.12 แทน ทล. 1347 วัดโคก – สระบัว ช่วง กม.ที่ 0+000 – 5+284 ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 45 ซม. เดินทางจากตากไปพิษณุโลกให้ใช้ทางเลี่ยง ทล. 12 แทน ทล. 1195 สุโขทัย – เตว็ดใน ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+900 ระดับน้ำสูง 55 ซม.

จังหวัดลพบุรี  (การจราจรผ่านไม่ได้ 9 แห่ง) ได้แก่ ทล. 2243 บัวชุม – สี่แยกบัวชุม ช่วง กม.ที่ 0+340 สะพานทรุดตัว ทล. 2243 บัวชุม – สี่แยกบัวชุม ช่วง กม.ที่ 1+400 เส้นทางขาด ระดับน้ำสูง 40 ซม. ทล. 2260 ลำสนธิ – ซับลังกา ช่วง กม.ที่ 1+800 – 2+500 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ทล. 205 ดงพลับ – ม่วงค่อม ช่วง กม.ที่ 22+200 – 24+600 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ทล. 205 ดงพลับ – ม่วงค่อม ช่วง กม.ที่ 27+300 – 27+500 ระดับน้ำสูง 45 ซม.

ทล. 205 ดงพลับ – ม่วงค่อม ช่วง กม.ที่ 32+000 – 32+600 ระดับน้ำสูง 45 ซม. ทล. 205 ม่วงค่อม - คลองห้วยไผ่ ช่วง กม.ที่ 53+300 – 53+500 ระดับน้ำสูง 60 ซม. ทล. 205 เทศบาลลำนารายณ์ – ช่องสำราญ ช่วง กม.ที่ 82+900 (ทางลอดใต้สะพานแม่น้ำป่าสัก) ระดับน้ำสูง 120 ซม. ทล. 205 เทศบาลลำนารายณ์ – ช่องสำราญ ช่วง กม.ที่ 100+400 – 104+800 ด้านซ้ายและขวาทาง ระดับน้ำสูง 20–70 ซม.

จังหวัดกำแพงเพชร  (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ได้แก่ทล. 1 ตอน โนนปอแดง – ปากดง ช่วง กม.ที่ 419+036 (จุดกลับรถคลองพะยอม) ระดับน้ำสูง 100 ซม. ทล. 1 ตอน โนนปอแดง – ปากดง ช่วง กม.ที่ 431+701 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 120 ซม.

จังหวัดเพชรบูรณ์  (การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง) ได้แก่ทล. 21 คลองกระจัง – ศรีเทพ ช่วง กม.ที่ 99+000 – 102+500 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทล. 21 ศรีเทพ – ซับสมอทอด ช่วง กม.ที่ 112+700 – 116+000 ระดับน้ำสูง 80 ซม. ทล. 2275 แยกศรีเทพ – ซับบอน ช่วง กม.ที่ 33+000 – 34+000 ระดับน้ำสูง 50 ซม.ทล. 2275 แยกศรีเทพ – ซับบอน ช่วง กม.ที่ 44+000 – 48+500 ถนนขาด ระดับน้ำสูง 15-20 ซม.

จังหวัดนครสวรรค์  (การจราจรผ่านไม่ได้ 8 แห่ง) ได้แก่ทล. 11 ตากฟ้า-ไตตาล ช่วง กม.ที่ 68+725 น้ำกัดเซาะคอสะพาน ระดับน้ำสูง 15-25 ซม. ทล. 11 ไตตาล – น้ำสาดเหนือ ช่วง กม.ที่ 71+600 – 72+000 ด้านซ้ายและขวาทาง ระดับน้ำสูง 40 - 50 ซม. ทล. 225 เกยชัย – ศรีมงคล ช่วง กม.ที่ 82+000 – 84+500 ระดับน้ำสูง 30 - 40 ซม. ทล. 1072 ลาดยาว-เขาชนกัน ช่วง กม.ที่ 62+000 – 63+000 ระดับน้ำสูง 140 ซม. ทล. 1072 ลาดยาว-เขาชนกัน ช่วง กม.ที่ 44+665 ด้านซ้ายและขวาทาง เกิดคอสะพานทรุดตัว

ทล. 1119 หนองผักหวาน-ท่าตะโก ช่วง กม.ที่ 31+800 – 34+000 ระดับน้ำสูง 50 ซม.ทล. 3004 ท่าตะโก-ไตตาล ช่วง กม.ที่ 49+000 – 54+000 ระดับน้ำสูง 50-60 ซม.ทล. 3330 เกษตรชัย-สำโรงชัย ช่วง กม.ที่ 20+000 – 29+000 ระดับน้ำสูง 40-60 ซม.

จังหวัดอุทัยธานี  (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ได้แก่ ทล. 3456 หนองกระดี่ – คลองข่อย ช่วง กม.ที่ 3+604 สะพานโคกหม้อ ระดับน้ำสูง 20 - 30 ซม.

จังหวัดตาก  (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ได้แก่ ทล. 1090 ห้วยน้ำริน – อุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 148+750 – 148+900 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ทล. 1175 ห้วยส้มป่อย – เจดีย์ยุทธหัตถี ช่วง กม.ที่ 23+606 – 83+606 ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 12 ตอนแม่ละเมา – ตาก ในการเดินทาง

จังหวัดสุพรรณบุรี  (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ได้แก่ ทล. 33 สุพรรณบุรี - นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 สะพานคลองทับน้ำ ระดับน้ำสูง 55 ซม. ทล. 340 สาลี - สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม  ระดับน้ำสูง 85 - 90 ซม.

จังหวัดอ่างทอง  (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ได้แก่ทล. 32 นครหลวง - อ่างทอง จุดกลับรถใต้สะพานหลวงปู่ทวด ระดับน้ำสูง 40 - 50 ซม.

  ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586  (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1