กระตุกหนวดมังกรอีกแล้ว เรือฟริเกต เอชเอ็มเอส ริชมอนด์ ของราชนาวีอังกฤษแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อวันจันทร์ระหว่างเดินทางไปยังเวียดนาม ขณะรัฐมนตรีกลาโหมไต้หวันแจ้งต่อสภาว่า ไต้หวันจำเป็นต้องมีอาวุธพิสัยไกลเพื่อยับยั้งการโจมตีของจีน

แฟ้มภาพ เรือฟริเกต เอชเอ็มเอส ริชมอนด์ ของราชนาวีอังกฤษ (Getty Images)

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ที่ 27 กันยายน อ้างทวิตเตอร์ทางการของเรือฟริเกตเอชเอ็มเอส ริชมอนด์ ซึ่งแจ้งข่าวว่าเรือรบลำนี้เสร็จสิ้นภารกิจพร้อมกับประเทศหุ้นส่วนและพันธมิตรในทะเลจีนตะวันออกแล้ว และกำลังเดินทางไปเยือนเวียดนามและกองทัพเรือของเวียดนาม โดยเลือกเส้นทางผ่านช่องแคบไต้หวัน

    เรือเอชเอ็มเอส ริชมอนด์ เป็นเรือฟริเกตที่ถูกส่งมาวางกำลังในกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของอังกฤษ และร่วมอยู่ในปฏิบัติการขององค์การสหประชาชาติที่ทะเลจีนตะวันออกในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ

    สื่อท้องถิ่นกล่าวว่า การเดินทางผ่านช่องแคบไต้หวันครั้งนี้ทำให้เรือริชมอนด์เป็นเรือรบของราชนาวีอังกฤษลำแรกที่แล่นผ่านเส้นทางน้ำที่กั้นแบ่งระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน แม้เมื่อปี 2562 กองทัพเรืออังกฤษจะเคยส่งเรือเอชเอ็มเอส เอนเตอร์ไพรส์ ที่เป็นเรือสำรวจ เดินทางผ่านช่องแคบนี้

    กองทัพเรือสหรัฐส่งเรือรบแสดง "เสรีภาพในการเดินเรือ" ผ่านช่องแคบไต้หวันเป็นประจำ และทำให้จีนตอบโต้อย่างโกรธเคือง จีนอ้างสิทธิเหนือไต้หวันและน่านน้ำโดยรอบ รวมถึงทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด แต่สหรัฐและประเทศส่วนใหญ่ถือว่าเป็นน่านน้ำสากลที่ควรเปิดกว้างสำหรับการเดินเรือ ช่วงหลายปีมานี้นอกจากสหรัฐ กองทัพเรือของแคนาดา, ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย ก็เคยส่งเรือรบแล่นผ่านช่องแคบนี้ ทำให้จีนประท้วง

    ฉิ่ว คั่วเฉิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า มีเรือของต่างชาติลำหนึ่งแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน แต่เขาไม่ได้กล่าวว่าเป็นเรือของประเทศใด

    วันเดียวกัน รอยเตอร์รายงานว่า ฉิ่วได้ชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรไต้หวันเกี่ยวกับแผนการใช้จ่ายด้านกลาโหม ที่รัฐบาลเสนองบพิเศษเกือบ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 ปีนับจากนี้ ซึ่งรวมถึงการจัดซื้อมิสไซล์ใหม่ๆ โดยรัฐมนตรีผู้นี้กล่าวว่า ไต้หวันจำเป็นต้องยกระดับอาวุธของตนในการเผชิญหน้ากับ "ภัยคุกคามรุนแรง" จากจีน เพื่อทำให้จีนรู้ว่าไต้หวันสามารถป้องกันตนเองได้

    "การพัฒนายุทโธปกรณ์ต้องเป็นแบบพิสัยไกล, แม่นยำ และเคลื่อนย้ายได้ เพื่อที่ข้าศึกจะได้รับรู้ว่าเราเตรียมพร้อมทันทีที่พวกเขาส่งกองทหารออกมา" ฉิ่วกล่าวถึงขีดความสามารถด้านมิสไซล์ของไต้หวัน

    ฉิ่วปฏิเสธจะเผยรายละเอียดกับนักข่าวว่า มิสไซล์ของไต้หวันสามารถโจมตีได้ไกลเท่าใด แต่เขากล่าวว่า สำคัญที่ชาวไต้หวันต้องตระหนักถึงอันตรายที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ และเมื่อถูกตั้งคำถามว่าจีนจะโจมตีเป้าหมายใดก่อนหากเกิดสงคราม เขาตอบว่าคงเป็นกองบัญชาการและขีดความสามารถด้านการสื่อสารเฉพาะที่ ดังนั้น ไต้หวันจึงต้องมีขีดความสามารถในการเคลื่อนย้าย, ล่องหน และเปลี่ยนตำแหน่งได้

    กองทัพจีนฝึกซ้อมรอบไต้หวันถี่ขึ้นและส่งเครื่องบินเข้ามาในเขตป้องกันภัยทางอากาศทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวันเกือบจะทุกวัน ปีที่แล้วเครื่องบินทางทหารของจีนรุกล้ำเขตป้องกันภัยของไต้หวัน 380 ครั้ง แต่ในปีนี้ เครื่องบินของจีนรุกล้ำเขตดังกล่าวเกิน 400 ครั้งแล้วในช่วงเวลา 8 เดือน.