"บิ๊กป้อม” ยันดูแลสถานการณ์ช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้เรียบร้อยได้ เผยการพูดคุยกับพรรคการเมืองเรื่องปลดล็อกไม่เกี่ยววันเลือกตั้งหลังพระราชพิธี "มาร์ค" เชื่อเลือกตั้งหลังพระราชพิธีไม่กระทบโรดแมป ก.พ.62 "เพื่อแม้ว" ย้อนนายกฯ ต้องการอะไรทำไมพูดให้เคลือบแคลง เลือดทะลักอีก 22 มิ.ย.ตระกูล 'ส.' เข้าโคราช จ้องดูดครอบครัว "รัตนเศรษฐ" คาด "วิรัช" ไปแน่ "ประยุทธ์" ถึงลอนดอน คนไทยแห่ต้อนรับให้กำลังใจสู้ๆ เป็นนายกฯ ต่อไป ขณะที่นายกฯ ขอคนไทยสำนึกแผ่นดินเกิด อย่าให้ใครทำร้ายประเทศ
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 20 มิถุนายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการดูแลรักษาความสงบภายในประเทศเพื่อรองรับพิธีสำคัญว่า ตอนนี้ไม่เรียบร้อยหรืออย่างไร ยืนยันว่าตนดูแลสถานการณ์ให้เรียบร้อยได้ ไม่ต้องบอกว่าเป็นอย่างไร แต่เป็นแบบที่ตนทำอยู่ และจากการประเมินสถานการณ์ช่วงใกล้พิธีสำคัญ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างจะเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับพรรคเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เกี่ยว การพูดคุยจะพูดถึงเรื่องการปลดล็อกว่าจะทำอะไรได้บ้าง
เมื่อถามว่า การพูดคุยกับพรรคการเมืองจะเกิดขึ้นวันใด เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ระบุจะเกิดขึ้นก่อนเดินทางกลับจากยุโรปในวันที่ 26 มิ.ย. พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า สื่อก็นับไปสิ ส่วนรูปแบบการพูดคุยนั้น จะมีตน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมพูดคุย ซึ่งอยากฟังว่านักการเมืองต้องการอะไร หากถามอะไรมา อะไรตอบได้ก็ตอบไป ตรงไหนที่ยังทำไม่ได้จะนำข้อมูลไปหารือแล้วให้นายกฯ ชี้แจงอีกครั้ง
"ขณะนี้เพิ่งเชิญกลุ่มการเมืองไป ซึ่งใครอยากมาก็มา ใครไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา ส่วนจะมีพรรคการเมืองเดินทางมาจำนวนเท่าไรนั้น ไม่ทราบ เพราะให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รายงานเข้ามา แต่เท่าที่ทราบ ส่วนใหญ่เขามากัน" พล.อ.ประวิตรกล่าว
พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม กล่าวถึงกำหนดการนัดหารือกับพรรคการเมือง เพื่อคุยเรื่องปลดล็อกกิจกรรมทางการเมืองในช่วงปลายเดือน มิ.ย.ว่า ขณะนี้ส่งหนังสือเชิญพรรคการเมืองไปหมดแล้ว แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีพรรคการเมืองตอบรับเข้าร่วมหารือกี่พรรค ส่วนวันหารือจะเป็นต้นสัปดาห์หน้า ไม่วันจันทร์ก็วันอังคารนี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ชัยชาญระบุจะมีการนัดหารือกับพรรคการเมืองในต้นสัปดาห์หน้าว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมในการหารือดังกล่าว โดยเหตุผลที่เคยบอกไว้ว่าเรื่องนี้รัฐบาลไม่มีอำนาจหน้าที่ ถ้า กกต.เชิญไปหารือเรื่องเลือกตั้ง ทางพรรคยินดีไปคุย นอกจากนี้รัฐบาลไม่มีความเป็นกลาง จึงไม่มีประโยชน์ที่จะไป
"เพราะทุกทีที่ไปหารือ ในที่สุดก็จบลงแบบที่รัฐบาลอยากได้ ดังนั้นถ้าคิดว่าจะเลือกตั้งเดือนไหน วันไหน ก็ว่ามาเลย กำหนดให้ชัดเจน ทางเราไม่ขัดข้อง แต่ปัญหาคือความไม่ชัดเจนมากกว่า เราไม่มีปัญหาหรือเรื่องมาก พร้อมเผชิญความยุ่งยากทั้งหมด ส่วนการที่จะหารือเรื่องปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมนั้น ก็ปลดได้เลยไม่มีปัญหาเช่นกัน" นายภูมิธรรมกล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า นายกฯ บอกว่าไม่มีอะไรขัดแย้งกับโรดแมป ซึ่งคนไทยก็อยากเห็นความสงบในช่วงพระราชพิธีสำคัญอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นสัญญาณว่าจะไม่มีการปลดล็อกทางการเมืองในช่วงเวลานี้หรือไม่ คงบอกไม่ได้ และ พล.อ.ประวิตรก็มีแนวโน้มที่จะเชิญพรรคการเมืองไปหารือเกี่ยวกับการทำกิจกรรมทางการเมืองภายในสองสัปดาห์นี้ จึงไม่ทราบว่า คสช.จะดำเนินการอย่างไร ต้องรอฟังก่อน
มาร์คเชื่อไม่กระทบโรดแมป
"แต่สิ่งแรกที่ คสช.ต้องสะสางคือเรื่องข้อกฎหมายที่ติดพันกันอยู่ เช่น ปัญหาของพรรคการเมืองที่จะประชุมใหญ่ได้หรือไม่ การให้พรรคการเมืองมีสมาชิกเพียงพอที่จะส่งผู้สมัคร ส.ส. และมีสมาชิกพอที่จะทำไพรมารีโหวตจะทำอย่างไร สิ่งเหล่านี้ไม่กระทบกับความสงบเรียบร้อย หากมีพรรคการเมืองใดไปทำกิจกรรมที่สร้างความวุ่นวาย ก็มีแต่จะทำให้สังคมไม่เอาด้วย เพราะสังคมต้องการเห็นความสงบ จึงเชื่อว่าทุกอย่างควรจะเป็นไปตามเดิม คือเดือน ก.พ.62 มีการเลือกตั้ง และนายกฯ ก็ยังยืนยันเรื่องนี้อยู่"
ส่วนที่ พล.อ.ประวิตรระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะใช้ ม.44 งดเว้นการทำไพรมารีโหวต นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการดำเนินการจริงหรือไม่ แต่ถ้าทำจริง ต้องอธิบายหรือมีมาตรการรองรับให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หากมีการปลดล็อกในช่วงเวลาที่เหมาะสมทุกอย่างก็เดินได้ หากได้รับเชิญไปให้ความเห็น ก็จะชี้แจงว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้างที่จะทำให้สำเร็จตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วม
หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม เดินสายพบนักการเมืองเพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ อีกว่า การจะตั้งพรรคใหม่หรือเชิญชวนให้ใครย้ายพรรคเป็นเรื่องที่ทำได้ นักการเมืองที่จะย้ายสังกัดต้องมีเหตุผลที่จะตอบกับสังคม แต่ขอให้เป็นเรื่องความคิดและจุดยืนทางการเมือง ไม่ใช่การเสนอผลประโยชน์ตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง ตำแหน่ง หรือการต่อรองเรื่องคดีความ เหมือนที่เคยเกิดในบางยุค นายกฯ ควรมีความชัดเจนไม่สนับสนุนพฤติกรรมเหล่านี้ ยิ่งถ้าคนทำเกี่ยวข้องกับนายกฯ ก็ต้องยิ่งมีความชัดเจนในเรื่องนี้ หากมีรายงานว่ามีพฤติกรรมดังกล่าว ก็ควรตรวจสอบและแสดงจุดยืนให้ชัดว่าไม่สนับสนุน ไม่เช่นนั้นก็ต้องเลิกพูดคำว่าธรรมาภิบาลและปฏิรูปประเทศได้แล้ว
ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีการทุ่มเงิน 30-50 ล้านซื้อตัว ส.ส.นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หากเป็นความจริงก็จะทำให้ไม่ได้รัฐบาลและสภาที่ดี โดยในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เองก็มีข่าวเกี่ยวกับการถูกดึงตัวด้วย แต่ไม่มีปัญหารุนแรงในเรื่องการเสนอเงิน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของตำแหน่ง
ด้าน พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนเตรียมทิ้งพรรค โดยให้เหตุผลว่าไม่มีการดูแลและให้ปัจจัยสนับสนุนรายเดือนมานานแล้ว รวมถึงความไม่ชัดเจนของคนนำพรรคว่า บางเรื่องก็เป็นเรื่องจริง เพราะพรรคไม่ได้จ่ายเงินเดือนอดีต ส.ส. เนื่องจากพรรคเป็นสถาบันการเมือง ไม่ได้มีเงินจำนวนมากที่จะจ่ายให้ใคร จะนำเงินจากที่ไหนมาให้ ทุกวันนี้พรรคอยู่ได้เพราะสมาชิกเสียสละและมีอุดมการณ์ร่วมกันที่จะทำงานทางการเมืองเพื่อช่วยเหลือบ้านเมือง ช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งขณะนี้ยังไม่สามารถประชุมพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคได้ ส่วนตนก็ต้องรักษาการอยู่ ซึ่งก็พยายามประคับประคองพรรคให้ไปสู่การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคภายหลัง คสช.ปลดล็อกให้ได้ ตนไม่อยากให้ใครไป อยากให้ทุกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกันอยู่ด้วยกัน แต่ใครที่ไปเขาคงรู้อยู่ในใจว่าเขามีความจำเป็นอะไรถึงต้องไป
เมื่อถามว่า อย่างกรณีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ทางพรรคได้ไปเจรจาด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวว่า ไม่มีการติดต่อ อีกทั้งนายปรีชาก็ยังไม่ได้มาลาออกจากพรรค เห็นแต่ข่าวตามสื่อ ทั้งนี้ สมาชิกพรรคสามารถลาออกได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ คสช.ปลดล็อก แต่หากจะมาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ยังทำไม่ได้ ยืนยันพรรคเสียดาย และไม่อยากให้ใครไป
ถามอีกว่า สมาชิกบางคนเตรียมทิ้งพรรคส่งผลเสียกับพรรคเพื่อไทยอย่างไร พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวว่า สมาชิกส่วนใหญ่ทราบดีว่าถ้าไปแล้วก็มีผลต่ออนาคตทางการเมือง แต่ละพื้นที่ประชาชนก็ยังนิยมชมชอบนโยบายพรรคเราอยู่ หากท่านไปก็คงคิดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในข้างหน้า ก็เคารพการตัดสินใจของกันและกัน ส่วนการเลือกตั้งจะยังมีในเดือน ก.พ.2562 หรือไม่นั้น อยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่าทำไมถึงไม่พูดอะไรให้ชัดเจน ทำไมถึงต้องพูดให้เกิดการตีความ เคลือบแคลงสงสัย นึกไม่ออกว่าเขาต้องการอะไร
ถึงคิวดูดตระกูลรัตนเศรษฐ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการดูดอดีต ส.ส.เพื่อไทยว่า นี่คือความพยายามทุกวิถีทางในการสืบทอดอำนาจหรือไม่ ปากบอกว่าจะปฏิรูป แต่สิ่งที่เห็นคือการทำการเมืองโบราณย้อนยุค ต่อรองซื้อขายตัวหรือไม่ อดีต ส.ส.ย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติของการเมืองไทยที่สามารถเกิดขึ้นได้ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าแม้จะมีความพยายามอย่างมากในการดูด แต่คนที่จะตัดสินใจย้ายออกไปจริงๆ มีไม่มาก ไม่ถึง 40% ตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน เพราะอดีต ส.ส.ส่วนใหญ่ยังมั่นใจและยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทย ส่วนคนที่ตัดสินใจย้ายออกไป ก็ขอให้โชคดี เมื่อการเลือกตั้งมาถึง พรรคเพื่อไทยมีบุคลากรทางการเมืองคุณภาพมากมายที่พร้อมเสนอตัวเองเป็นทางเลือกของประชาชน ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึง ประชาชนจะเป็นคนให้คำตอบเองว่าเขาจะสนับสนุนใคร หรือพรรคไหนเป็นผู้แทนของเขา
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เลขาธิการพรรคก็ได้ออกแถลงการณ์ไปแล้วด้วยว่าขอให้พวกเรามั่นคง อย่าหวั่นไหว ประชาชนจะพิพากษาเอง ส่วนที่ ส.ส.บางคนบอกว่าพรรคไม่ได้ดูแลจนมีความจำเป็นที่จะต้องไปนั้น ก็ไม่เห็นมีใครบ่นเรื่องนี้เท่าไหร่ เนื่องจากทุกคนก็รู้ว่าสถานการณ์ในวันนี้ยังไม่ปกติ ยังไม่เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง พรรคเองก็ยังดำเนินกิจกรรมอะไรไม่ได้ จะมีบ้างก็เพียงแต่งานศพ งานแต่ง แต่ละคนก็ต้องดูแลตัวเองกันไปก่อน
แหล่งข่าวจากอดีต ส.ส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 มิ.ย. กลุ่มสามมิตร ซึ่งประกอบด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะไปทาบทามนายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นางทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคมหาชน และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เพื่อให้ไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งสมัยหน้า และมีความเป็นไปได้สูง เพราะเป้าหมายของกลุ่มสามมิตรคือการดึงอดีต ส.ส.กลุ่มวังน้ำยมเดิมที่นายสมศักดิ์และนายสุริยะเคยดูแลให้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง อีกทั้งนายวิรัชเองก็มีความสนิทสนมกับนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ที่ย้ายไปร่วมงานกับกลุ่มสามมิตรด้วย ซึ่งหากตระกูลรัตนเศรษฐตัดสินใจย้ายไปร่วมงานกับกลุ่มสามมิตรจริง การเลือกตั้งสมัยหน้าใน จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยถือว่าเจองานหนักอย่างแน่นอน
นายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าจะไปทาบทามอดีต ส.ส.นครราชสีมาของพรรคเพื่อไทยว่า รอดูอีก 2 วัน เมื่อถามว่าจะไปทาบทามอดีต ส.ส.จังหวัดไหนเป็นรายต่อไป นายภิรมย์กล่าวว่า ยังไม่บอก
ส่วนนายวิรัชให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนเรื่องดังกล่าวว่า ยังไม่พร้อมที่จะตอบอะไรตอนนี้ แม้จะยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว แต่ก็สามารถเข้าออกได้ เพราะกฎหมายใหม่ไม่ได้ผูกมัดอะไร
วันเดียวกัน นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษานปช. กล่าวว่า การที่นายกฯ มีโปรแกรมไปต่างประเทศ ขณะที่ลูกสมุนก็ออกมาบอกว่านายกฯ ทำเพื่อชาติตั้ง 4 ปี จนกระทั่งต่างประเทศมองเห็นนั้น คำว่า เพื่อชาติ ควรจะลดๆ ลงซะบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเสียสัตย์เพื่อชาติหรือตระบัดสัตย์เพื่อชาติ การที่เขาเชิญไปนั้น เพื่อเป็นการปูทางในการทำธุรกิจ หลังจากมีการเลือกตั้งได้อย่างเต็มที่ คือไปซื้อดาวเทียม และไปร่วมมือระหว่างการบินไทยกับแอร์บัส แล้วเงินก้อนที่เกี่ยวข้องก็เป็นระดับหมื่นล้านบาท เป็นผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เอกชนคงผลักดันรัฐบาลฝรั่งเศสให้ช่วยเชิญนายกฯ ไป และเป็นหลักประกันในอนาคตว่าจะไม่มีการเบี้ยวกัน
"เขามีแต่จะทวงถามว่าเมื่อไหร่จะคืนอำนาจ เมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้ง ดังนั้นให้เตรียมให้ดีว่าในการออกคำแถลงระหว่างไทย-อังกฤษ หรือไทย-ฝรั่งเศสก็ตาม ให้รับผิดชอบด้วย เหมือนที่เคยไปพูดที่สหรัฐอเมริกากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าจะมีการเลือกตั้ง พ.ย. 61 ซึ่งมีผลทำให้หุ้นขึ้น เพราะปัญหาเศรษฐกิจนั้นเกี่ยวข้องกับปัญหาการเมืองระหว่างประเทศด้วย"
นางธิดากล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง อาจเลื่อนไปโดยไม่รู้กำหนด เพราะนายกฯ บอกว่าเลือกตั้งต้องหลังพระราชพิธี ยังมีการเลือกตั้งท้องถิ่นอีก ถามว่าทำไมนายกฯ ไม่พูดมาตั้งแต่ต้น พูดทีละขยักๆๆ ขยับมาเรื่อยๆ ประมาณลับลวงพรางหรือเปล่า
อย่าให้ใครทำร้าย ปท.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยซึ่งติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 19-26 มิ.ย. รายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์, นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรแล้ว และได้เดินทางเข้าที่พักที่โรงแรมรอยัลแลงคาสเตอร์
สำหรับการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ และภารกิจสำคัญคือการพบกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และนักธุรกิจชั้นนำของอังกฤษ เพื่อเรียกความเชื่อมั่น และเชิญชวนให้เข้าไปลงทุนในประเทศไทย
ที่โรงแรมที่พัก ได้มีกลุ่มคนไทยซึ่งอยู่ในกรุงลอนดอนมารอต้อนรับ เมื่อนายกฯ เดินทางถึงได้พบทักทายกับกลุ่มคนไทยที่มารอต้อนรับ พร้อมนำดอกไม้มามอบให้กำลังใจ และบอกกับนายกฯ ว่า ติดตามให้กำลังใจตลอด ขอให้สู้ๆ และเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณในมิตรไมตรี ขอให้คนไทยอย่าลืมบ้านเกิด และช่วยกันอย่าให้ใครมาทำลายประเทศ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้บรรยายสรุปการเดินทางเยือนและมอบนโยบายให้กับทีมประเทศไทย ณ กรุงลอนดอน และยังได้พบหารือกับนักธุรกิจซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนไทยรายใหญ่ในอังกฤษคือ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กลุ่มไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ และนายไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ จากกลุ่มเอ็มไพร์เอเชีย แอสเซท
และในเวลา 16.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกฯ จะออกเดินทางไปยังทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เพื่อเข้าพบกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และช่วงเย็น นายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน และภริยา จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติ
มีรายงานว่า หลังโซเชียลมีเดียปล่อยข่าวโจมตีวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศสของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยที่กำหนดเดิมมีชื่อนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ร่วมคณะเดินทางไปด้วย ว่าจะเป็นการถือโอกาสนี้ไปฉลองวันคล้ายวันเกิดอายุ 64 ปี ในวันที่ 20 มิ.ย.ของนางนราพร และฉลองครบรอบแต่งงาน 34 ปี ในวันที่ 22 มิ.ย.นั้น ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจเดินทางไปเพียงลำพัง โดยเมื่อเวลา 09.32 น. วันที่ 22 มิ.ย. นางนราพรได้ปรากฏตัวเดินทางมายังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ก่อนจะเดินทางกลับออกไป โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 20 นาทีเท่านั้น
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวคัดค้าน พล.อ.ประยุทธ์ในต่างประเทศ ระหว่างการเยือนประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส รู้สึกเป็นห่วงหรือไม่ว่า “โอ๊ย ม็อบ 3 คน ไม่มีปัญหาอะไร นายกฯไปดี และไม่ผิดอะไร เขาดีทุกอย่าง ทำให้ประเทศชาติ ไม่เช่นนั้นประเทศประชาธิปไตยและประเทศมหาอำนาจเขาไม่เชิญหรอก นี่เขาเชิญไป คนต้อนรับที่อยากให้นายกฯ มาเยอะแยะ”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |