สลายพรรคเพื่อไทย


เพิ่มเพื่อน    

      วันก่อน ไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว  Paisal Puechmongkol เอาไว้น่าขบคิด

      ...คุณสุริยะหายไปนานตั้งแต่ยุค รสช. มาเปิดตัวครั้งแรก พร้อมกับการพาดหัวข่าวว่า เพื่อไทยแตก! ประหนึ่งว่าไม่รู้จักพรรคเพื่อไทย

      จำได้ว่าปี ๒๕๔๔ ทักษิณทำจดหมาย ถึงเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้ผมถือไป นำโกส่วน-ภูมิธรรม-ชานนท์ ฯลฯ และพวกรวม ๘ คนรวมทั้งสุริยะไปเจรจาความร่วมมือพรรคต่อพรรค

      ที่สำคัญคือการขอศึกษาระบบงานจัดตั้งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งถือเอาสมาชิกพรรคและประชาชนเป็นพื้นฐานของพรรค เป็นกำลังหลักของพรรค

      จึงทำให้งานจัดตั้งเป็นจุดเด่นของพรรค ทรท.-เพื่อไทย คือประชาชนเป็นพื้นฐาน พรรคเป็นตัวแทนๆ บงการ ส.ส. และ ส.ส.รับใช้ประชาชน!

      พรรคเพื่อไทยจึงไม่อาจถูกทำลายด้วยการเปลี่ยนพรรคของอดีต ส.ส. แต่จะถูกทำลายได้ ถ้าหากประชาชน เปลี่ยนมานิยมชมชอบลุงตู่!...

      เป็นการบอกกล่าวว่า การดูด ส.ส.โดยกลุ่ม 3P ไม่อาจล้มระบอบทักษิณได้!

      เป้าหมายของ คสช.คือการทำลายพรรคเพื่อไทยจริงหรือ?

      และพรรคเพื่อไทยสามารถทำลายได้หรือไม่?

      โครงสร้างพรรคเพื่อไทยเป็นแบบไหนอย่างไร

      ต้องย้อนกลับไปปี ๒๕๔๔ ที่คุณไพศาล ถือจดหมายของทักษิณ เดินทางไปจีน

      ได้อะไรกลับมาจากจีน?

      ก็เป็นไปตามคุณไพศาลเขียนไว้

      แต่การก่อร่างสร้างตัวของพรรคไทยรักไทยขณะนั้น สร้างความฮือฮาด้วยการดูดนักการเมือง ควบรวมพรรคการเมือง ทุ่มเงินจนไทยรักไทยเป็นพรรคขนาดใหญ่

      ระหว่างทางก็ดูดทั้งพรรคอย่างกรณีพรรคความหวังใหม่ของพ่อใหญ่จิ๋ว

      ฉะนั้นโครสร้างของพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ไม่ใช่พรรคที่มีพื้นฐานจากประชาชน แต่มีกลุ่มการเมืองเป็นฐาน

      จัดตั้งรัฐบาลระบอบทักษิณทุกครั้งเราจึงได้เห็นแต่ละกลุ่มไล่ฟัดกัน

      กลุ่มวังน้ำเย็น วังบัวบาน กลุ่มเจ๊แดง กลุ่มเจ๊หน่อย กลุ่มนายหญิง กลุ่มนายใหญ่ ฯลฯ สุมหัวกันขอแบ่งเค้ก

      และวันนี้ดูเหมือนว่า กลุ่มที่ถูกดูดไปเมื่อนานมาแล้ว เริ่มจะคลายตัวออก

      การที่กลุ่ม 3P กลุ่มวาดะห์ และกลุ่มอื่นๆ ถอยออกมา พรรคเพื่อไทยจะอ่อนยวบลงหรือไม่

      เมื่อย้อนกลับไปดูผลการเลือกตั้งนับแต่ปี ๒๕๔๔ จะพบความจริงบางประการ

      การเลือกตั้งวันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๔ พรรคไทยรักไทยได้ ๒๒๔ ที่นั่ง

      การเลือกตั้งวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๘ พรรคไทยรักไทยได้ ๓๗๕ ที่นั่ง

      การเลือกตั้งวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ พรรคพลังประชาชนได้ ๒๕๖ ที่นั่ง

      การเลือกตั้งวันที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔ พรรคเพื่อไทยได้ ๒๖๕ ที่นั่ง

      จะเห็นได้ว่า เมื่อทุกกลุ่มอยู่กันพร้อมหน้า ที่นั่งในสภาของระบอบทักษิณ อยู่ที่เกณฑ์เฉลี่ยประมาณ ๒๕๐-๒๖๐ ที่นั่ง

      หากหลายกลุ่มที่ซ้อนอยู่ในพรรคเพื่อไทยถอนตัวจะเกิดอะไรขึ้น

      นี่อาจเป็นหนทางหนึ่งในการสลายระบอบทักษิณ

      แต่จะยั่งยืนหรือไม่ อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"