16 ม.ค.61- เวลา 16.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าศาลได้อนุมัติหมายจับ จำนวน 8 หมาย หลังพนักงานสอบสวนได้นำหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาประกอบไปด้วย 1. นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่234แขวง ประเวศ เขต ประเวศ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ตามหมายจับเลขที่ 71/61 ลงวันที่16 ม.ค.61 , 2. นายชัยณรงค์ อันสุข อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1333/147แขวง สวนหลวง เขตสวนหลวง จังหวัด กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับเลขที่ 72/61 ลงวันที่16 ม.ค.61 ,3. นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่210/7 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัด กรุเทพมหานคร ตามหมายจับเลขที่ 73/61 ลงวันที่ 16 ม.ค.61

          4. นายสมชาย แสงอุดม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/896 ตeบล บ้านสร้าง อาเภอ บางประอิน จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับเลขที่74/61 ลงวันที่ 16 ม.ค.61 ,5. นายมนัส อ่วมทับ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/356 ตำบล วังตะเคียน อำเภอ เมืองฉะเชิงเทรา จังหวัด ฉะเชิงเทรา ตามหมายจับเลขที่ 75/61 ลงวันที่ 16ม.ค.61, 6. นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล อายุ 29ปี อยู่บ้านเลขที่ 475/2/3 ตำบล หน้าเมือง อำเภอ เมืองฉะเชิงเทรา จังหวัด ฉะเชิงเทรา ตามหมายจับเลขที่76/61 ลงวันที่ 16 ม.ค.61

          7. ห้างหุ้นส่วนจากัด อมรินทร์ออนเซน โดย นางสาว ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ อยู่บ้านเลขที่ 555 ถนนพระราม 9ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวง บางกะปิ เขต ห้วยขวาง จังหวัด กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับเลขที่ 77/61 ลงวันที่ 16 ม.ค.61 และ8. นางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะส่วนตัว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/4 ตำบลหลักหก อำเภอ เมืองจังหวัดปทุมธานี ตามหมายจับเลขที่ 78/61 ลงวันที่ 16 ม.ค.61

ฐานความผิด 1.กระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นผู้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคล และเด็ก(บุคคลผู้มีอายุต่ากล่าวสิบแปดปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น การบังคับใช้แรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ด้วยวิธีการฉ้อฉล หลอกหลวง หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ (พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551)

          2. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทeความผิดฐานค้ามนุษย์โดยได้ลงมือกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามที่ได้สมคบกัน และร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ (พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551)

          3. ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม (พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539)

          4. ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม (พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539)

          5. ร่วมเป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี อันเป็นสถานการค้าประเวณีที่มีบุคคลและเด็กซึ่งมีอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี ทำการค้าประเวณีอยู่ด้วย (พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539)

          6. ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม (ประมวลกฎหมายอาญา)

          7. ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง และได้กระทาแก่บุคคลอายุเกิด 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม (ประมวลกฎหมายอาญา)

          8.ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม (ประมวลกฎหมายอาญา)

          9. เป็นผู้รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2542)

          10. ร่วมเป็นนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ากว่า 18 ปี ทำงานในสถานบริการ (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2542)

          11.ร่วมเป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด และกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์มิชอบจากเด็ก (พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546)

          12. ร่วมกันดารงชีพอยู่แม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของผู้ซึ่งค้าประเวณี อยู่ร่วมกับผู้ซึ่งค้าประเวณีหรือสมาคมกับผู้ซึ่งค้าประเวณี รับเงินหรือประโยชน์อย่างอื่น โดยผู้ซึ่งค้าประเวณีเป็นผู้จัดให้ (ประมวลกฎหมายอาญา)

          13.ไม่จัดทำประวัติของพนักงานก่อนเริ่มเข้าทางานในสถานบริการ (พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509)

          โดยผู้ต้องหาที่ 1-3 ถูกดำเนินคดีตามฐานความผิด ข้อ 1 – 12 ผู้ต้องหำที่ 4-6 ถูกดำเนินคดีตามฐานความผิด ข้อ 1 – 11 ผู้ต้องหาที่ 7-8 ถูกดำเนินคดีตามฐานความผิด ข้อ 1 – 13

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 17.00 น.หลังจากศาลออกหมายจับ น.ส.ศศิธร พร้อมทนายได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร. เจ้าหน้าที่จึงแจ้งหมายให้ทราบ โดย น.ส.ศศิธร ยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมาย เจ้าหน้าที่จึงสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นรับเป็นผู้ต้องหาตามหมายและรับเป็นเจ้าของวิคตอเรียตามใบอนุญาตจริง แต่ปฏิเสธข้อหาค้ามนุษย์ ส่วนจะมีความจะความโยงใยกับขบวนการค้ามนุษย์ที่ประเทศเพื่อนบ้านส่งหญิงมาค้าปะเวณีหรือไม่อยู่ระหว่างขยายผลเพราะหลักฐานดีเอสไอยังส่งมาไม่ครบถ้วน มีข้อมูลเพียงว่า น.ส.ศศิธร มีความเกี่ยวพันกับธุรกิจดังกล่าวอีกกว่า 10 แห่ง ที่จะต้องตรวจสอบต่อ นอกเหนือจาก น.ส.ศศิธร ถ้าสืบสวนพบว่ามีใครเกี่ยวข้องก็ดำเนินการต่อ หรือ น.ส.ศศิธร จะเป็นเจ้าของตัวจริงหรือไม่ต้องรอผลการสอบสวนเสียก่อน ได้กำชับไปแล้วถ้าพบว่ามีก็ให้ออกหมายจับเพิ่ม จะนอมินีหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พร้อมกันนี้ได้ทำหนังสือสรรพากร ปปง.ให้ดำเนินการรับคดีเรื่องการฟอกเงิน

          ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ศศิธร จะเอาเด็กที่วิคตอเรียไปวนค้าประเวณีสถานบริการในเครือข่ายอื่นด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ตอบว่า ก็นั้นเป็นไปได้ แต่ต้องรอผลการตรวจค้นให้ครบทั้ง 10 จุดเสียก่อน กระบวนการหลังจากนี้จะนำตัวไปชี้จุด ส่งศาลฝากขังโดยคัดค้านการประกันตัว.