ปธ.สภาทนายความศาล จ.พล เดินหน้าเอาผิดตร.ทางหลวงให้ถึงที่สุด หลังบุกจับผิดหมาย


เพิ่มเพื่อน    

25 ก.ย.64 - จากกรณีที่นายปกาญจน์  นพศรี อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.7 บ้านหัวหนองแวง ต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ประธานสภาทนายความศาลจังหวัดพล เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองสองห้อง หลัง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 2 นาย ขับรถตรวจการณ์ตำรวจทางหลวงหมายเลขทะเบียน 1กญ- 9004 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดตรงข้ามที่ทำการ อบต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่นพร้อมแสดงหมายจับ และจะจับกุม ทั้งที่ชื่อ นามสกุลในหมายจับไม่ใช่ตนเอง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ ที่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 7 บ้านหัวหนองแวง ต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นายปกาญจน์  นพศรี อายุ 57 ปี  กล่าวว่า การกระทำของตำรวจทางหลวงทั้ง 2นายนั้น โดยส่วนตัวมองว่ามีลับลมคมใน เพราะตอนที่จะพบได้บอกกับชาวบ้านว่าต้องการพบทนายความ เพื่อปรึกษาคดีมรดก เมื่อชาวบ้านมาเรียกให้ไปพบกลับถูกกระทำในเรื่องของการมีหมายจับ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งผู้ต้องหารายดังกล่าวตามหมายจับที่ตนเองตรวจดูชื่อนายวรชัย เสือแก้ว ซึ่งเมื่อตำรวจถามว่า รู้จักกันหรือไม่ ตนยอมรับว่ารู้จักกัน เพราะนายวรชัยมาจากภาคใต้มาเป็นนายประกันที่ศาลต่อมานายวรชัย มีอาการป่วย จึงย้ายนายวรชัยมาเข้าในทะเบียนบ้าน เพื่อใช้สิทธิ์ 30 บาททำการรักษาอาการป่วย ต่อมา มีหนังสือแจ้งจากหน่วยงานราชการแจ้งว่า นายวรชัยมีความประพฤติไม่ชอบ  จึงย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง ซึ่งเวลาล่วงเลยมากว่า 2 ปีแล้ว และปัจจุบันก็ไม่มาที่บ้านแล้ว หากจะจับก็ต้องไปสืบสวนจับกุมที่อื่น  แต่ตำรวจทางหลวงทั้ง2 นายก็ยังไม่ยอมลดละ

"อธิบายทุกอย่างให้ตำรวจทางหลวงทั้ง 2นายได้ทราบทั้งหมดแต่ไม่ฟัง ยังคงยืนยันจะจับกุม โดยอ้างว่าภาพถ่ายตามหมายจับกับตน มีหน้าตรงกัน จึงได้พากันฉุดกระชากและล็อคมือไขว้หลัง เพื่อจะอุ้มขึ้นรถ  พอดี ส.อบต.ดอนดู่ ทราบเหตุ และชาวบ้านเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก มาช่วยเหลือ และตำรวจทางหลวงทั้ง 2 นายก็ขับรถออกไป ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจทางหลวงทำเกินกว่าเหตุ  เพราะมีเจตนาที่ไม่ดี และถ้าตำรวลทางหลวง 2 นาย ถือหมายจับมาแสดงแล้วถามหานายวรชัย แต่ไม่ใช้พฤติกรรมเช่นนี้ ก็น่าจะดีกว่านี้  แต่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใช้การหลอกล่อ เพราะให้ชาวบ้านมาเรียกว่าจะปรึกษาเรื่องคดีมรดก  จึงขอยืนยันว่า จะไม่มีการยอมความ  เพราะตนก็เป็นคนมีองค์กรมีเกียรติมีศักดิ์ศรี  ขอเอาเรื่องและดำเนินคดีตามกฎหมาย"

ประธานสภาทนายความศาล จ.พล กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังจากเรื่องเกิดขึ้น มีข้าราชการตำรวจประจำ สภ.แห่งหนึ่งในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น โทรมาหา เพื่อขอเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นและห้ามให้ข่าวกับสื่อมวลชนแล้วจะพาตำรวจทางหลวงทั้ง 2 นายมาขอโทษที่บ้าน ตนเองจึงขอยืนยันว่า ตนเองเป็นคนมีองค์กร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม องค์กรตำรวจโดยเฉพาะตำรวจทางหลวงควรได้รับการแก้ไข หากจะขอโทษต้องขอโทษต่อหน้าผู้นำองค์กรระดับสูงของตน รวมถึงจะนำเรื่องที่เกิดขึ้น รายงานต่อสภาทนายความให้ทราบเรื่อง และขอยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีคนหน้าเหมือน ไม่มีการทำคลิปกลั่นแกล้งใคร และตำรวจทางหลวงในคลิปก็เป็นตำรวจจริงๆ คนรูปร่างท้วม ชื่อ ด.ต.สุริยา วงษ์เบาะ  คนรูปร่างผอม ชื่อ ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ มาเพชร เป็นตำรวจทางหลวงประจำตู้ยามทางหลวงอ.พล จ.ขอนแก่น ส่วนรถก็เป็นรถตำรวจทางหลวงจริงๆ

ด้าน พ.ต.อ.อนุรัตน์ ฉิมทิม ผกก.4 บก.ทล.( ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจทางหลวง) กล่าวว่า ทราบรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว และได้สั่งการให้รายงานข้อเท็จจริงให้ทราบ ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่า ตำรวจทางหลวงทั้ง 2 นาย มีหมายจับ จะไปจับผู้ต้องหา แต่มีการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ และฝ่ายทนายก็ไม่ให้ความร่วมมือ ส่วนการจะอุ้มทนายขึ้นรถนั้น ทราบว่า ตำรวจทั้งสองนายไม่มีพฤติกรรมที่จะทำเช่นนั้น ไม่มีเจตนาจะทำการรุนแรง แต่เพราะไม่ได้รับความร่วมมือจึงเกิดเรื่องดังกล่าว และหากมีรายงานสรุปจากผู้ใต้บังคับบัญชามาแล้ว จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"