25 ก.ย.64 - ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวประเด็นผลการฉีดวัคซีนทั่วไทย และแผนการฉีดวัคซีนระยะต่อไปตามเป้าหมาย ว่า เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) เราได้มีการรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนเนื่องในวันมหิดลให้ได้ครบ 1 ล้านโดสให้กับประชาชน จากความร่วมมือของคนไทย ทำให้เมื่อวานนี้เราสามารถฉีดวัคซีนได้มากกว่า 1.3 ล้านโดส แบ่งเป็น เข็มแรก 8.4 แสนโดส เข็มสอง 3 แสนโดส และ เข็มที่สาม 1.4 แสนโดส ทำให้พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบสาธารณสุขไทย สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน สำหรับข้อมูลความครอบคลุมการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมทั้งประเทศเกิน 50 ล้านโดส ความครอบคลุมในเข็มที่แรก 44.45% และครอบคลุมเข็มแรกในกลุ่ม 607 ร้อยละ 57.44%
นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อวานเป็นการเริ่มการให้บริการวัคซีนเข็มที่ 3 แก่ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนซินโนแวค 2 เข็มแรกก่อนหน้านี้ เพื่อเสริมความมั่นใจว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม จะมีภูมิต้านทานที่อยู่ในระดับที่ปลอดภัยสำหรับการรองรับสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) ได้ โดยเมื่อวานฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับประชาชนทั้งหมด 1.5 แสนคน จากนี้เป็นต้นไปตนขอเรียนเชิญประชาชนที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.-มิ.ย. ขอให้ลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามเพื่อความปลอดภัย
"สำหรับสถานการณ์วัคซีนจากนี้เป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี ขอให้ท่านมีความมั่นใจว่ากระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้ทำการจัดหาวัคซีนได้ตามเป้าหมายที่เราได้วางแผนไว้ทุกประการ เราจะมีวัคซีนทั้งสิ้นจนถึงเดือน ธ.ค. ประมาณ 125 ล้านโดส และตั้งแต่เดือนต.ค. เป็นต้นไป เราจะเร่งทำการฉีดให้ครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร เพื่อให้เราจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตอนนี้วัคซีนจะทยอยเข้ามามีจำนวนมากเพียงพอที่เราจะเร่งฉีดให้ครอบคลุมประชาชาทุกกลุ่มได้ โดยเฉพาะวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์ที่รัฐบาลได้จัดซื้อทั้งหมด 30 ล้านโดสก็จะทยอยเข้ามาตั้งแต่สิ้นเดือนนี้เป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี สามารถฉีดให้กับเด็กตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป เพื่อให้เด็กสามารถไปเรียนได้ และโรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้อย่างปกติให้เร็วที่สุด
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ยืนยันการจัดหาวัคซีนสำหรับปีหน้า จึงขอให้ความมั่นใจว่าวัคซีนที่เราเตรียมจัดหามาจะมีความเพียงพออย่างแน่นอน และเป็นวัคซีนที่นำมาใช้ในการฉีดกระตุ้นภูมิ เราไม่จำเป็นต้องฉีดสองเข็มแบบปีนี้อีกต่อไป จากนี้วัคซีนที่นำมากระทรวงสาธารณสุขจะฉีดเพื่อกระตุ้นภูมิของประชาชนไปเรื่อยๆจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันนี้เรามีผู้ป่วยที่กลับบ้าน 1.4 หมื่นคน ทำให้ยอดสะสมคนที่รักษาหายแล้วอยู่ที่ 1.4 ล้านคน มีการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1.1 หมื่นคน เป็นผู้ที่มาจากต่างประเทศ 19 คน ซึ่งแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ทำให้ขณะนี้เรามีผู้ที่มีอาการหนักเหลือเพียง 3.3 พันคน และคนที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียู เหลือ 729 คน ลดลงตามลำดับเมื่อเทียบกับต้นเดือน ก.ย. สำหรับผู้เสียชีวิตวันนี้มีรายงาน 127 คน
ในส่วนของการฉีดวัคซีนที่เราใช้ในประเทศไทยผ่านการรับรองโดยองค์การอนามัยโดส และอย. มีประสิทธิภาพป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตที่ดีมาก ถ้าประชาชนมีความสนใจฉีดวัคซีนมากยิ่งขึ้นก็จะทำให้เราควบคุมสถานการณ์ลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด
สำหรับแผนการฉีดวัคซีนถ้าสังเกตดูในช่วงตนวัคซีนที่เข้ามาสู่ประเทศไทยค่อนข้างน้อย แต่ในช่วงมิ.ย.ตามแผนที่จะจัดหาวัคซีนมากยิ่งขึ้นทำให้เราสามารถฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเดือน ก.ย.-ต.ค.ตะเป็นช่วงที่มีการฉีดที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้ในเดือนก.ย.เรามีวัคซีนที่ฉีดโดยรัฐบาลจัดหาไม่ว่าจะเป็นซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ทั้งหมด 16 ล้านโดส และจะมีวัคซีนทางเลือกไม่ว่าจะเป็นซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดส ทำให้ยอดผู้ฉีดวัคซีนมีค่อนข้างมาก ส่วนเดือนต.ค.มีวัคซีนเข้ามาเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นซิโนแวคอย่างน้อย 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส ทำให้ยอดรวมที่ทางรัฐบาลจัดหามีอย่างน้อย 24 ล้านโดส และซิโนฟาร์ม 6 ล้านโดส
นพ.โอภาส กล่าวว่า หลังจากการปรับนโยบายการฉีดวัคซีนเป็นสูตรไขว้ เป็นซินโนแวคเข็มแรก และ แอสตร้าเซนเนก้า ทำให้เราครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มสองได้มากขึ้น สังเกตได้ว่าสิ้นเดือน ก.ย.ตามแผนเราจะฉีดวัคซีนสะสมทั้งหมดเข็มแรก 32 ล้านคน หรือ 45% และเข็มสอง 18 ล้านคน หรือ 25% แต่หลังจากเดือนต.ค.-ธ.ค. การฉีดเข็ม1-2 จะเพิ่มขึ้น โดยในสิ้นเดือน ต.ค. ความครอบคลุมในการฉีดเข็มแรกอย่างน้อย 41 ล้านคน หรือ 58% ของประชากรคนไทย และในเดือนพ.ย.ฉีดสะสมให้กับคนที่อยู่ในแผ่นดินไทยไม่ว่าจะชาวไทย หรือต่างชาติ 71 ล้านคน และในสิ้นเดือนธ.ค.มีคนไทย 60 ล้านคน ที่ได้รับวัคซีนคิดเป็น 85% ส่วนตัวเลขเข็มสองเดือนต.ค. 30 ล้านคน หรือ45% เดือนพ.ย 42 ล้านคน หรือ 60% และสิ้นเดือนธ.ค. 52 ล้านคน หรือ 74% ถ้าดูจากตัวเกินแผนที่เราวางไว้แต่ต้น
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับเข็มกระตุ้น วัคซีนที่ฉีดเป็นวัคซีนใหม่ สิ่งที่เราไม่ค่อยทราบคือ เมื่อฉีดแล้วภูมิคุ้มกันจะลดลงเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นเป็นมาตรการที่สำคัญที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสนใจและเรียนว่า คนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้วก็จะมีการแจ้งนัดหมายมาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อให้ภูมิคุ้มกันสูงขึ้น ลดโอกาสเสี่ยงการติดเชื้อ
ด้านนายเกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การฉีดวัคซีนเมื่อวานจังหวัดที่ฉีดมากที่สุด 5 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ 6.4 หมื่นโดส ชลบุรี 4.8 หมื่นโดส อุดรธานี 4.7 หมื่นโดส นครราชสีมา 4.4 หมื่นโดส เชียงใหม่ 3.9 หมื่นโดส และขอนแก่น 3.9 หมื่นโดส.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |