สภาทนายฯ เคลื่อนไหวกรณีตำรวจล็อกใส่กุญแจมือทนายสุกิจบนโรงพัก เผยสมาชิกทั่วประเทศไม่สบายใจ ชี้ไม่ให้เกียรติกัน กระทบต่อศักดิ์ศรีและวิชาชีพ นัดประชุม 28 มิ.ย. เพื่อกำหนดท่าที โยนเจ้าตัวตัดสินใจจะฟ้องชุดจับกุมผิด ม.157 หรือไม่ ผบ.ตร.ยันไม่เกินกว่าเหตุ ขณะที่บิ๊กป้อมก็หนุน
ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน กทม. วันที่ 20 มิถุนายนนี้ ว่าที่ ร.ต.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารสภาทนายฯ แถลงข่าวกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการจับกุมนายสุกิจ พูนศรีเกษม ประกอบวิชาชีพเป็นทนายความ ที่อยู่ระหว่างการพาลูกความไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ว่า จากการดูคลิปเบื้องต้น ตัวนายสุกิจที่ถูกจับกุมตามหมายจับ ขณะนั้นกำลังปฏิบัติหน้าที่ของทนายความ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมด้วยวิธีการที่ปรากฏตามสื่อเป็นการสมควรหรือไม่ เมื่อนายสุกิจเป็นทนายความ การจับกุมดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อวิชาชีพ ศักดิ์ศรีของทนายความ และความเป็นมนุษย์ ที่จะต้องได้รับความคุมครองตามรัฐธรรมนูญและ ป.วิอาญา
"ตรงนี้เราไม่ได้ออกมาว่าจะปกป้องการกระทำผิด ทุกอาชีพย่อมมีคนที่จะกระทำผิดปะปนกันไป แต่เราตั้งข้อสังเกตถึงวิธีการจับกุมเป็นไปตามหลักการปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ เราจึงอยากฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องว่าเราเข้าสู่ยุคปฏิรูปแล้ว การเข้าควบคุมแม้จะเป็นไปตามหมายจับ ก็จะต้องกระทำด้วยความเหมาะสมต่อสภาพและหลักปฏิบัติ เท่าที่เห็นตามคลิปก็ไม่มีทีท่าทีจะหลบหนี สถานที่เป็น สน. แค่เชิญตัวเขาก็ไปแล้ว"
ว่าที่ ร.ต.ถวัลย์กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุมีญาติของนายสุกิจได้แจ้งเรื่องดังกล่าวมายังสภาทนายความให้รับทราบ และเฝ้าระวังในกรณีที่นายสุกิจถูกควบคุมตัวในลักษณะแบบนั้น ซึ่งการจะฟ้องร้องตำรวจชุดจับกุมหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนายสุกิจซึ่งเป็นผู้ถูกกระทำ ส่วนการเข้าควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดฐานการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือไม่นั้น จะต้องดูรายละเอียดในเรื่องนี้อีกครั้ง ตรงนี้ตนได้เห็นรายละเอียดเพียงเบื้องต้นที่นำเสนอโดยสื่อมวลชน ซึ่งผู้ที่ชี้ว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดหรือไม่ ต้องเป็นศาลยุติธรรมที่มีอำนาจชี้ขาดความผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่าท่าทีของทนายความทั่วประเทศมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร ว่าที่ ร.ต.ถวัลย์กล่าวว่า ทนายความทั่วประเทศไม่สบายใจเรื่องนี้อย่างมาก หลังเกิดเหตุมีการสอบถามมาทางสภาทนายความถึงหลักการปฏิบัติดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ากระทบต่อเกียรติ ศักดิ์ศรีของวิชาชีพ ซึ่งก็ยอมรับว่ามีทนายความจำนวนมากไม่พอใจ ส่วนจะออกมาเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่นั้น ต้องรอดูคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้ว่าจะมีการพิจารณาออกมาอย่างไร ก็จะเป็นท่าทีของสภาทนายความ
ถามว่า ในฐานะที่เป็นกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม จะนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมการปฏิรูปฯ ด้วยหรือไม่ ว่าที่ ร.ต.ถวัลย์กล่าวว่า แน่นอน เรื่องนี้จะต้องนำเข้า เพราะตำรวจก็ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม เรื่องหลักในการปฏิบัติที่จะเข้าควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะกระทบสิทธิเสรีภาพที่จะต้องมีการปฏิรูป โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทางตนเองก็ได้มีการนัดหมายพูดคุยกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ถึงหลักการปฏิบัติและหาทางออกในเรื่องนี้ต่อไป
เมื่อถามว่านายสุกิจเคยถูกลงโทษถอนใบอนุญาตเป็นทนายความชั่วคราวหรือไม่ ว่าที่ ร.ต.ถวัลย์กล่าวว่า ทราบว่านายสุกิจในอดีตเคยถูกคำสั่งห้ามว่าคดีบางประเภทชั่วคราว แต่ตอนนี้นายสุกิจอยู่ในสถานะทนายความที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ ส่วนรายละเอียดที่เคยถูกสั่งห้ามว่าความในอดีตต้องไปดูอีกครั้ง
ด้านนายทัศไนย ไชยแขวง อุปนายกฝ่ายต่างประเทศและกรรมการประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การควบคุมตัวตามหมายจับย่อมเป็นสิทธิที่จะทำได้ ซึ่งมีหลักปฏิบัติวางไว้อยู่แล้ว ตนมองว่าการจับกุมในคดีนี้เกินสมควรกว่าเหตุทั้งในด้านของอัตราโทษและพฤติการณ์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย ทางสภาทนายความจึงได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และจะมีการประชุมเพื่อหารือสรุปท่าทีของสภาทนายความในเรื่องนี้ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ ต่อมาสภาทนายความยังออกแถลงการณ์ระบุว่า กรณีเหตุการณ์จับกุมทนายความสุกิจ พูนศรีเกษม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2561 ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อสารมวลชนนั้น สภาทนายความในฐานะที่เป็นองค์กรทางวิชาชีพกฎหมายขอแถลงจุดยืนต่อเหตุการณ์นี้ว่า สภาทนายความเห็นว่าอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุม ต้องใช้วิธีการหรือป้องกันเท่าที่เหมาะสมและจำเป็นแก่พฤติการณ์ในการจับกุม แต่หากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่เกินกว่าอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และอาจเป็นความผิดตามกฎหมายอื่น เช่น ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดต่อร่างกาย และในการนี้จะได้รวบรวมนำข้อสรุปดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสภาทนายความ เพื่อพิจารณาดำเนินการบนพื้นฐานของสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน บทบัญญัติของกฎหมายและศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ สน.พหลโยธิน ขณะที่นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ ได้พา น.ส.แสงสุริยเทพ พระมหาสุริยา ร่างทรง 4G มาแจ้งความต่อตำรวจ สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีต่อนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณา แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงหมายจับข้อหารุกที่ป่าสงวนในจังหวัดตาก แต่เจ้าตัวพยายามขัดขืน เจ้าหน้าที่จึงจับใส่กุญแจมือ และขณะนี้อยู่ระหว่างลงบันทึกการจับกุมตัว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ตำรวจเขาทำตามหน้าที่ของเขา และก่อนจับได้ให้เดินไปห้องสืบสวนดีๆ แต่ขัดขืน ถ้าเดินไปดีๆ ก็จบ
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ แต่เป็นการทำตามหน้าที่และขั้นตอน และเชื่อว่าคงไม่ต้องชี้แจงกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนได้ให้นายสุกิจและตำรวจชุดจับกุมคุยกัน ก็ปรับความเข้าใจกันแล้ว ว่าเป็นความเข้าใจผิดกัน ตอนนี้ไม่ติดใจเอาความกันทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว
"ต่างคนต่างมีเหตุผล เจ๊ากันไป ยืนยันว่าเมื่อวานนี้ไม่มีการกลั่นแกล้งกัน ไม่มีการเข้าข้างใคร หรือทนายคนไหนตามที่คนในสังคมบางส่วนแสดงความเห็น ความเห็นแบบนั้นเลอะเทอะ แล้วนายสุกิจก็เป็นทนายรู้กฎหมาย เราคงไม่ไปกลั่นแกล้งด้วยกฎหมายหรอก แต่ถ้าข้องใจตำรวจก็มาร้องทุกข์กันได้ ถ้าใครกลั่นแกล้งกันก็ต้องดำเนินคดี" รอง ผบ.ตร.กล่าว
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บังคับการกองปราบปราม หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กล่าวว่า ยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำไปเป็นไปตามยุทธวิธีถูกต้องตามขั้นตอน ไม่มีการใช้อาวุธ หรือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะปฏิบัติตามยุทธวิธีตามกฎหมาย ป.วิอาญา ที่ว่าด้วยบุคคลใดที่ขัดขวางหรือหลบหนี ผู้จับสามารถใช้ยุทธวิธีการจับกุมตามความเหมาะสมตามแต่สถานการณ์ ส่วนที่สภาทนายความระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการไม่ให้เกียรติวิชาชีพทนายความ ในส่วนนี้อยากชี้แจงว่า พวกคุณเข้าใจกฎหมายทุกอย่าง อย่าพยายามสร้างบรรทัดฐานไปในทางที่ไม่ดี ทุกอย่างต้องว่ากันตามกฎหมาย ส่วนที่มีกระแสว่านายสุกิจจะฟ้องกลับนั้น ฟ้องได้เลยทุกข้อหา เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงกระทำได้อยู่แล้ว
ด้านแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า จากการตรวจร่างกายนายสุกิจเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. พบว่ามีบาดแผลถลอกตรงเข่า ขนาด 1และ 2 เซนติเมตร บาดแผลถลอกที่ต้นคอด้านหลัง มีอาการบวม เจ็บที่แผ่นหลังและเอว โดยบาดแผลที่เกิดเป็นบาดแผลใหม่ ส่วนจะทำให้สะโพกเคลื่อนหรือไม่ ในขั้นนี้ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะตนตรวจเบื้องต้น ต้องเอกซเรย์อีกครั้ง ตนตรวจตอนนายสุกิจกำลังนั่งและยืน ไม่สามารถบอกได้ว่าทำให้นายสุกิจถึงขั้นเดินไม่ได้หรือไม่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |