ลิซ่า :  สร้างเสน่ห์ไทยให้โลกเห็นแล้ว


เพิ่มเพื่อน    

24 ก.ย.64 - นายประสาร  มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) เผยแพร่ความเห็นเรื่อง "ลิซ่า :  สร้างเสน่ห์ไทยให้โลกเห็นแล้ว" โดยมีรายละเอียดดังนี้    
    
ในวันนี้ ชื่อ ลลิษา มโนบาล หรือลิซ่า เด็กสาวบ้านนอกจากบุรีรัมย์ อายุเพียง 24 ปี  ชาวไทยที่มีผู้ติดตามเธอมากอยู่ในอันดับต้นของโลก
    
เป็นเด็กอัจฉริยะที่เป็นทั้งนักร้อง แรพเปอร์ นางแบบ ศิลปิน และพรีเซนเตอร์ 
    
เธอไม่เพียงเป็นไอดอลของเยาวชนไทยเท่านั้น  เธอกลายเป็นไอดอลของวัยรุ่นหญิงทั่วโลก
    
เส้นทางสู่ฝันวันนี้ ไม่ใช่ความฟลุค ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่อยู่ๆ ก็มาเจอ  แต่เป็นเรื่องของความพยายามส่วนตนอย่างยิ่งยวดของลิซ่า ประสานกับบริบทแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้เธอประกายแสงความสามารถได้อย่างอัศจรรย์   
    
ด้วยวัยเพียง 14 ปี  เด็กหญิงเล็กๆ คนหนึ่งจากอ้อมอกพ่อแม่ ไปอยู่ในแดนต่างถิ่นเพียงลำพัง  บนแผ่นดิน ต่างภาษา  ต่างภูมิอากาศ
    
เธอต้องสละความสุขส่วนตัว ในช่วงชีวิตวัยรุ่นแบบเด็กทั่วไป
    
เธอฝึกร้อง  ฝึกเล่น  ฝึกเต้น  ฝึกรำ  เป็นการกระทำซ้ำ วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า อย่างทรหดอดทน ใช้เวลาวันละ 8 -10 ชั่วโมง ต่อเนื่องกันถึง 6 ปี  เป็นหนึ่งในสี่ของวง Blackpinkสังกัดบริษัท YG  Entertainment  ของเกาหลีใต้                                                                                           
    
อัลบั้มเดี่ยวล่าสุด เป็น LALISA First Single Album ในชุดผ้าไทยที่ดีไซน์พิเศษเป็นท่าร่ายรำเทพอัปสรขึ้นสู่ปราสาทพนมรุ้ง โดยมีรัดเกล้ายอดสวมศีรษะ เป็นการนำเอาการแต่งกายแบบไทยที่ประณีตด้วยฝีมือช่างโบราณอย่างสร้างสรรค์ นำเสนอสู่สายตาชาวโลกอย่างอลังการผ่านมิวสิค วิดีโอ  โดยผ่านการฟ้อนรำของลิซ่า เพียงสัปดาห์เดียวได้รับยอดวิวทะลุ  160 ล้านคน นับเป็นที่ 1 ของเกาหลี  และเป็นที่ 2  ของโลก
    
เด็กสาวที่มีแม่ชาวบุรีรัมย์ ชื่อ จิตทิพย์  มีพ่อบุญธรรมชาวสวิสเป็นเชฟทำอาหาร  เป็นนักเรียนโรงเรียนประภามนตรี 2  เป็นลูกศิษย์ของ ครูประภัสสร เทียนประเสริฐ และครูสุภาพรรณ ผลากรกุล  เป็นเด็กสาวที่รักบ้านเกิดเมืองนอน มีกตัญญุตาธรรมต่อพ่อแม่ ญาติ พี่น้อง รักพระเจ้าอยู่หัว  เธอใส่ชุดสีดำไว้ทุกข์ไปเข้าคิว เคารพพระบรมศพ รัชกาลที่ 9  อย่างมีน้ำอดน้ำทน
    
ในคลิพรายการให้สัมภาษณ์วู๊ดดี้  โชว์ ทาง TV 7 เธอแสดงออกถึงความผูกพันกับลูกชิ้น  ยืนกินที่ข้างสถานีรถไฟบุรีรัมย์ เธออยากกลับไทยมาหาพ่อแม่ มากราบศพคุณตาคุณยาย ลีลาการตอบคำถามเห็นได้ว่าเธอเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนไม่ลืมกำพืดตนเอง ฉลาดใช้ถ้อยคำ ไม่ดัดจริต ไม่ใช่แบบที่เคยเห็นนางงามบางคนบอกว่า “รักเด็ก” ตอนที่มีไมค์ยื่นขอสัมภาษณ์หลังจากได้รับเลือกเป็นนางงาม
    
ในขณะที่คนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งก่อกระแส “ย้ายประเทศกันเถอะ”  ลิซ่าบอกว่า เธอมีความภูมิใจในความเป็นไทยและต้องการประกาศให้โลกรู้ว่าเธอคือคนไทย ( “ I ’m so proud that I ’m   Thai and I want to show the world that  I am from Thailand ” )
    
นี่คือแบบฉบับของเด็กไทยที่ควรค่าแก่การศึกษา
    
ความสำเร็จของลิซ่า ต้องถือว่าเธอใช้ความพยายามส่วนตนอย่างมีมานะอดทน ท่ามกลางความยากลำบาก  นี่เป็นเหตุปัจจัยที่มีอานุภาพ
    
อีกด้านหนึ่งนั้น เป็นที่รับรู้กันว่าต้นสังกัดของลิซ่า คือ YG Entertainment  เธอเป็นหนึ่งในสี่ของวง Blackpink  ธุรกิจเสื้อผ้า Celine ของฝรั่งเศส และเครื่องประดับ BVLGARI  ของอิตาลี แบรนด์เนมใหญ่ของโลก แต่งตั้งให้เธอเป็น Brand Ambassador ภายใต้บรรยากาศของเกาหลีใต้ที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างจริงจัง
    
เมื่อเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง หลังปี 2540 นั้น  เกาหลีใต้ เกือบล้มละลายทางเศรษฐกิจดุจเดียวกับประเทศอื่นๆ  รัฐบาลเกาหลีใต้ คิดกันว่า ต้องผลิตรถยนต์ฮุนได ถึง 1,500,000 คัน เพื่อทำรายได้ให้เท่ากับภาพยนตร์จูราสสิคปาร์ค  ของฮอลลีวู๊ด  เพียงเรื่องเดียว  ดังนั้นแทนที่จะผลิตรถยนต์  หรือ อุตสาหกรรมหนัก  เกาหลีใต้วางแผนยุทธศาสตร์ชาติด้วยการลงทุนด้านศิลปวัฒนธรรมบันเทิง เป็นอุตสาหกรรม  ให้เป็นรายได้หลักของประเทศ เขาทำวิจัย ศึกษารสนิยมชาวโลกแล้วผลิตงานออกมา แข่งกับอเมริกา  ญี่ปุ่น  ยุโรป   เช่น   K- DRAMAS   เรื่อง แดจังกึม – จอมนางแห่งวังหลวง                 วง Girls ’ Generation   เพลงกังนัมสไตล์  วง BTS  วง Blackpink   มีเพลงแบบ K  Pop มากมายกลายเป็น Korea Wave ระบาดไปทั่วโลก รวมทั้งหนังเกาหลีใต้เรื่อง Parasite ที่คว้ารางวัลออสการ์ ของโลก ปี 2020  

สภาพแวดล้อมของเกาหลีใต้ ที่วางแผนยุทธศาสตร์สร้างชาติด้วยงานศิลปวัฒนธรรมและการบันเทิง เช่นนี้ ทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นเวทีแห่งการบ่มเพาะ กล่อมเกลา และเติบโตของเด็กไทยคนหนึ่ง  หากช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เธอใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย คำถามคือ จะมีเวทีให้เธอแสดงความสามารถโดดเด่นระดับโลกได้ไหม

ปัญหา คือ “ลิซ่าปรากฏการณ์”  ได้ทำทางให้ประเทศไทย เป็นที่รู้จักของโลกได้เช่นนี้แล้ว รัฐบาลไทย  หน่วยราชการไทย  สังคมไทย จะสามารถทำให้ ศิลปวัฒนธรรมและการบันเทิงของไทยที่มีต้นทุนอันหลากหลาย อุดมสมบูรณ์ และมีศักยภาพมหาศาล  เกิดมหาคุณูปการต่อประเทศ ชาติได้อย่างไร

เราเคยมีละครทีวี เรื่อง บุบเพสันนิวาส ที่คนไทยพากันส่งเสียง “ออเจ้า” กันทั้งประเทศ       มีการแต่งชุดไทยกันเกลื่อนกลาด  คนไทยไปชมวังสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ลพบุรีกันเหมือนมีมหกรรมใหญ่ที่นั่น  แต่แล้วก็กลายเป็นกระแสวูบวาบเพียงชั่วระยะละครกำลังแพร่ภาพ  บัดนี้ไม่มีบรรยากาศนั้นอีกแล้ว

ใครเดินทางไปเกียวโต  เมืองเก่าของญี่ปุ่น จะรู้สึกได้ทันทีถึงกลิ่นอายความก่อนเก่าของศิลปวัฒนธรรม ทั้งอาหาร การแสดง และการแต่งกาย  

ใครไปอังกฤษ ก็ต้องไปดูละครเพลงอันลือลั่นของโลก จากบทประพันธ์ยอดเยี่ยมของ       วิคเตอร์ ฮูโก  ชื่อ Les Miserables ซึ่งเปิดแสดงซ้ำมาแล้ว 36 ปี  และไปเปิดการแสดงในหลายประเทศ คนทั่วโลก 60 ล้านคนได้ดูละครเรื่องนี้

ใครไปกรุงฮานอย เวียดนาม  ต้องไปเข้าคิวซื้อตั๋วดูการแสดงหุ่นกระบอกน้ำที่ฮานอย

ของไทยเราจะดูโขนได้ที่ไหน สะล้อซอซึง หมอลำ ลำเพลิน จะดูได้ที่ไหน ลำตัดเพลงฉ่อยเปิดแสดงที่ไหน หนังตะลุงมโนราห์ จะไปหาดูที่ไหนได้  นอกจากในงานบุญ หรือเทศกาลต่างๆ

ลิซ่าปรากฏการณ์  คือเหงื่อแรง และความพยายามของเด็กหญิงเล็กๆ คนหนึ่ง โดยอาศัยบริบทแวดล้อมของเกาหลีใต้ที่มีการบริหารจัดการ ทำให้เธอผงาดขึ้นมาเป็นซุปเปอร์สตาร์ของโลก

จะขยายผลปรากฏการณ์นี้เชิงระบบอย่างไร ให้เกิดยุทธศาสตร์ และวิธีการที่จะทำให้คุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม การบันเทิง รวมถึงศักยภาพด้านอาหารของไทย กลายเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่พลิกโฉมประเทศไทยได้ ดังที่เกาหลีใต้ทำมาแล้ว.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"