พิจิตรทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้!ชาวบ้านร้องทุกข์ทั้งตำบล เหตุได้รับบัตรคนจนกว่า 1 พันราย ต้องเหมารถเดินทาง 30กม.เพื่อใช้สิทธิซื้อสินค้าแค่ 200-300 บาทต่อเดือน

16 ม.ค. 61 -ความทุกข์ของชาวบ้านครั้งนี้เกิดขึ้นที่ ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ตัวแทนชาวบ้านและเจ้าของร้านค้าประมาณ 70 คน ได้รวมตัวกันที่วัดไผ่ท่าโพใต้ โดยร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า ประชาชนผู้มีรายได้น้อยของตำบลไผ่ท่าโพ ที่มี 10 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับบัตรคนจนกว่า 1 พันคนจากรัฐบาลที่เปิดให้มีการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเมื่อกลางปี 2560

จากนั้นช่วงปลายปี 2560 รัฐบาลได้ดำเนินการตามนโยบายด้วยการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยได้แจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ(บัตรคนจน) ซึ่งแต่ละคนจะได้สิทธิคนละ 200-300 บาท โดยต้องนำบัตรไปใช้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ จากนั้นก็จะสามารถใช้ซื้อสินค้าที่เป็นเครื่องอุปโภค-บริโภค ที่สำคัญกับชีวิตประจำวัน หรือในการประกอบอาชีพ แต่ความจริงมิได้เป็นเช่นนั้นจึงต้องรวมตัวกันออกมาร้องทุกข์

นางสรินทิพย์ พุ่มพวง เจ้าของร้านค้าแผงลอยสี่แยกตลาดไผ่ท่าโพกลาง, นายสุทน ชูจิตร เจ้าของร้านจิราวรรณการค้า , นางศรีรัตน์ เนตรภู่ เจ้าของร้านเนตรภู่ , นายเกรียงไกร ปั้นน้อย เจ้าของร้านแสงดาว ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นตัวแทนร้านค้าของตำบลไผ่ท่าโพ ที่ล้วนเป็นร้านขายของชำของกิน-ของใช้ ที่อยู่คู่กับชุมชนมาหลายสิบปีต่างกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิจิตรมาทาบทามเชิญชวนเข้าร่วมโครงการให้เป็นร้านค้าที่จะได้รับเครื่องรูดบัตร EDC เพื่อจะเป็นจุดจำหน่ายสินค้าและให้บริการประชาชน อีกทั้งจะได้ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในชุมชน ซึ่งร้านค้าในตลาดของตำบลไผ่ท่าโพที่มีความพร้อมเป็นร้านขายของชำขายของโชห่วยเกือบ 20 ร้านค้า ต่างแสดงเจตนาและขอสมัคร แต่ปรากฏว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านไป 4-5 เดือนแล้ว ร้านค้าก็ยังไม่ได้รับเครื่องรูดบัตรเพื่อบริการลูกค้าที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือ “บัตรคนจน”

นายเกรียงไกร ปั้นน้อย เจ้าของร้านแสงดาว เปิดเผยว่า ร้านของตนอยู่กลางหมู่บ้านขายสินค้าของกิน-ของใช้ เกือบทุกอย่างที่เป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเครื่องรูดบัตร EDC คนจน-คนแก่-คนพิการ ที่จะเอาบัตรมาใช้เพื่อซื้อสินค้าก็ไม่สามารถให้บริการได้ ทางออกของชาวบ้านก็ใช้วิธีรวมตัวกันขอนั่งรถกระบะของเพื่อนบ้านเข้าไปในตลาดอำเภอตะพานหิน ซึ่งห่างจากตำบลไผ่ท่าโพประมาณ 30 กม. ซึ่งก็ต้องเฉลี่ยเงินช่วยกันลงขันเป็นค่าน้ำมันช่วยเจ้าของรถคนละ 20-30 บาท บัตรที่มีสวัสดิการ 300 บาท แทนที่จะได้ใช้เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ต้องมาเสียค่าเดินทางเข้าไปในเมือง ต้นเหตุเป็นเพราะร้านค้าไม่มีเครื่องรูดบัตรดังกล่าวนั่นเอง

เช่นเดียวกับ น.ส.นุจรี มณีภักดี อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 3 บ้านไผ่ท่าโพใต้ ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับบัตรคนจนมูลค่า 300 บาท เปิดเผยว่ามีบัตรสวัสดิการแต่ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าจากร้านค้าหรือในชุมชนใกล้บ้านได้ ทั้งๆที่ใจจริงก็อยากอุดหนุนร้านค้าที่อยู่ข้างบ้าน แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากร้านค้าไม่มีเครื่องรูดบัตร ทางออกก็คือ เดือนหนึ่งหรือนานๆครั้งก็จะรวมตัวกัน 15-20 คนใช้รถกระบะของเพื่อนบ้าน โดยช่วยกันเฉลี่ยค่าน้ำมัน 20-30 บาท เพื่อไปซื้อของในตลาด อ.ตะพานหินซึ่งเป็นร้านที่มีเครื่องรับรูดบัตร จึงถือเป็นการช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ยุ่งยากและสลับซับซ้อนเหลือเกิน จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาวิธีช่วยเหลือชาวบ้านให้ได้รับความสะดวกจากการใช้ บัตรคนจน ด้วย.