สำหรับหลาย ๆ คน การไว้ขนตามบริเวณต่าง ๆ ก็อาจไม่ได้สร้างความรำคาญใจ แต่สำหรับบางคนแล้ว ขนที่ขึ้นตามบริเวณต่าง ๆ นั้นนอกจากจะลดความมั่นใจแล้ว ยังสามารถก่อให้เกิดกลิ่นอับซึ่งนับมาซึ่งปัญหากลิ่นตัวได้ ด้วยเหตุนี้ การกำจัดขนถาวรจึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่หลายคนเลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาขนโดยตรง แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ท่ามกลางนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน คนจำนวนไม่น้อยจึงอาจเกิดความสงสัยว่า ถ้าหากต้องการกำจัดขนถาวรนั้น จริง ๆ แล้วควรจะเลือกเลเซอร์แบบไหนระหว่าง IPL หรือ ND Yag Laser กันแน่ ซึ่งถ้าหากใครกำลังสงสัยเหมือนกันอยู่ล่ะก็ มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้เลยที่นี่

 

 

IPL คืออะไร?

          หากพูดถึงการกำจัดขนถาวรด้วยตัวเองอยู่ที่บ้าน IPL หรือ Intense Pulsed Light จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเภทเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเลเซอร์ตัวนี้จะมาพร้อมกับพลังคลื่นแสงที่มีความยาวคลื่น 650 - 950 นาโนเมตรแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ ซึ่งด้วยลำแสงที่ค่อนข้างกว้างนี้ เส้นขนจึงสามารถบางลงและมีสีอ่อนลงเป็นวงกว้างและช่วยให้กำจัดขนเร็วขึ้นได้ โดยตัวเลเซอร์นั้นจะทำหน้าที่เข้าไปจับกับเม็ดสีที่รากขนโดยตรงเพื่อช่วยให้กำจัดขนถาวรได้

 

ND Yag Laser ช่วยกำจัดขนถาวรได้จริงไหม?

          ND Yag Laser เป็นเลเซอร์กำจัดขนถาวรยอดฮิตที่คลินิกเสริมความงามต่าง ๆ นิยมใช้เป็นอย่างมาก โดยตัวเลเซอร์นั้นมาพร้อมกับความยาวคลื่นสูงถึง 1064 นาโนเมตร และ 1320 นาโนเมตร จึงทำให้สามารถกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ใช้เวลาทำไม่นานมาก นอกจากนี้ เลเซอร์กำจัดขนถาวรประเภทนี้ยังสามารถช่วยลดปัญหาความหมองคล้ำ รวมถึงยังไม่ก่อให้เกิดหนังไก่หรือตุ่ม ๆ ย่น ๆ ที่บริเวณผิวหนังหลังใช้งานอีกด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่บริเวณที่ชั้นผิวหนังหนาเท่านั้น บริเวณที่ชั้นผิวหนังบางอย่างใบหน้าก็สามารถใช้เลเซอร์ประเภทนี้ในการกำจัดขนถาวรได้อีกด้วย

 

แล้วควรเลือกกำจัดขนถาวรด้วยวิธีไหนดี?

          โดยส่วนใหญ่แล้ว การจะเลือกวิธีกำจัดขนถาวรนั้นต้องขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ประเภทผิวหนัง ความบอบบางของผิวหนัง รวมไปถึงความต้องการของเราเอง ซึ่งหากเราเป็นคนผิวแพ้ง่ายและมีผิวที่บอบบาง การใช้เครื่อง IPL ก็อาจทำให้เกิดรอยไหม้ได้ง่าย อีกทั้งยังรู้สึกเจ็บกว่า ND Yag Laser แต่ถ้าหากใครไม่สะดวกเดินทางไปคลินิก หรือต้องการประหยัดงบในการดูแลเรื่องขนบนร่างกาย การเลือกใช้ IPL ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้ในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งหากเทียบกันแล้ว ND Yag Laser เป็นเครื่องที่มีราคาสูง และต้องให้ผู้เชี่ยวชาญใช้งานเพื่อการกำจัดขนเท่านั้น

 

          เพียงเท่านี้ก็คลายความสงสัยเรื่องเลเซอร์กำจัดขนถาวรไปได้แล้ว แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้เลเซอร์ตัวไหนก็ตาม อย่าลืมดูแลผิวหลังทำเลเซอร์กำจัดขนให้ดี และหมั่นดูแลร่างกายตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อช่วยให้ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์กลับมาแข็งแรงด้วยนะ