ระฆังเลือกตั้งใหญ่ยังไม่ทันดัง แต่กระแสข่าวลือแพร่สะพัดจะมีการยุบสภาฯ อีกไม่นาน การงัดข้อของบิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับบิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ตรวจราชการ 22 ก.ย. เวลาเดียวกัน ปมเหตุความไม่พอใจกลุ่มขบถพรรคพลังประชารัฐ ความระหองระแหงยังคุกรุ่นรอวันปะทุ
ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปมบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จำนวน ส.ส.เขต 400 เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมร่วมรัฐสภา ในวาระ 3 ไปแล้ว แต่อย่าลืมว่ายังมีอีกด่านสำคัญ ในการร่างกฎหมายลูกที่จะนำมาใช้ ซึ่งถูกจับตามองว่าด้วยสูตรการคิดคำนวณให้ได้มาซึ่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะมีวิธีคิดคำนวณคะแนนอย่างไร ใช้รูปแบบไหน  
ขั้นตอนการร่างกฎหมายลูก หากแล้วเสร็จใน 120 วัน มีการบังคับใช้ออกมาเป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการก่อนยุบสภาฯ เป็นอันถือว่าสมัยหน้า ทุกพรรคการเมืองจะใช้รัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง กฎหมายฉบับเดียวกัน   
การเปิดประชุมสภาฯ สมัยหน้า กลุ่มก๊วนขบถอาจจะลองของ หักดิบกฎหมายการเงิน ที่หากเป็นไปตามนั้นคนที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดคือนายกรัฐมนตรี จากเหตุการณ์ต่างๆ ถูกนำมา ต่อจิ๊กซอว์การเมือง คาดการณ์ ช่วงเวลาเกิดอุบัติเหตุการเมือง ยุบสภาฯ ที่อาจเดินทางมาถึง เร็วกว่าที่คิดก็เป็นได้
ไม่ว่าการเลือกตั้งจะมาถึงช้าหรือเร็ว อย่างไรก็จะมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน และเมื่อถึงวันนั้นจริงๆ พรรคไหนจะพร้อมมากกว่ากัน ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน พรรคการเมืองขนาดเล็ก และพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่พร้อมจะกระโดดเข้าสู่สนามเลือกตั้งในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง  
ความเคลื่อนไหว เพื่อไทย แกนนำ ส.ส.หลายคนยืนยันถึงความพร้อมเสมอสำหรับศึกเลือกตั้ง แต่ในรอยแยก รอยปริ ในความที่เสถียรภาพ เอกภาพถูกตั้งคำถาม กลุ่ม ส.ส.งูเห่าทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่า ลงมติสวนกับแนวทางของพรรค ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวที่ไม่สู้ดีนักหลุดรอดออกมาเป็นระยะๆ หากสัญญาณยุบสภาฯ มาถึง บางกลุ่มจังหวัดจะยกจังหวัดไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น เช่นเดียวกับ ส.ส.หลายคนที่มีศักยภาพ ไม่ง้อกระแสพรรคมากนักก็มีอยู่ไม่น้อย ที่กำลังชั่งใจหนักในการเลือกเส้นทางการเมือง ในวันข้างหน้าเพื่อไทยอาจเข้าสู่ภาวะเลือดไหลอีกรอบในไม่ช้า  
ไม่นานมานี้ แวดวงนักวิเคราะห์การเมือง เพื่อไทยเพิ่งตั้งวงถกว่ากันด้วยปัญหาในพื้นที่ภาคกลาง 
 ‘ขณะนี้ในกลุ่มภาคกลางในพรรคเพื่อไทยเกิดแรงกระเพื่อมภายในกลุ่มจังหวัด เนื่องจากมีหลายพรรคการเมืองพยายามรุกคืบเข้ามา มีทั้งพรรคขนาดใหญ่ที่มี ส.ส.ในสภา พรรคน้องใหม่ทางการเมืองที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน และพรรคที่แยกตัวที่ผ่านการรับรองจาก กกต. และกำลังจะเปิดตัว ได้เข้ามาทาบทาม ส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่นหลายคนให้ไปร่วมงานทางการเมือง
จังหวัดปทุมธานี ตอนนี้เกิดความระส่ำระสาย ก่อนการเลือกตั้งนายก อบจ. บิ๊กแจ๊ส-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานีในขณะนั้นได้ติดต่อไปยังผู้มีอำนาจในพรรคตัวจริง ขอคุมพื้นที่จังหวัดปทุมธานีทั้งหมด ยิ่งเมื่อได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกฯ อบจ.ปทุมธานีแล้ว ได้วางตัว ส่งคนสนิทลงไปทำพื้นที่บอกกับชาวบ้านว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า ส.ส.เพื่อไทย 4 คนที่ชนะการเลือกตั้งมาเมื่อปี 2562 มีหลายคนจะไม่ถูกส่งลงสมัครใน จ.ปทุมธานี  
เดิมที โกลัก-นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าทีมปทุมฯ แต่ตอนนี้ทางพรรคไม่มีความชัดเจน จะให้ใครมาเป็นหัวหน้าทีมปทุมฯ มีเพียงมอบให้ นายวิทยา บูรณศิริ อดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย และ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ช่วยกันเข้ามาดูแลพื้นที่ไปก่อน ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์อยากจะเข้ามาเป็นหัวหน้าทีม ดูเหมือนจะได้รับเสียงคัดค้านจาก ส.ส. นักการเมืองท้องถิ่นหลายคน กรณีดังกล่าวไม่เพียงเฉพาะจังหวัดปทุมธานี แต่รวมไปถึงจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่มีความชัดเจนเรื่องหัวหน้าทีมในจังหวัด จึงอยากให้ทางพรรคเร่งทำความเข้าใจกับ ส.ส.ในจังหวัดกลุ่มภาคกลาง หรือแต่งตั้งมอบหมายคนเป็นหัวหน้าทีมในจังหวัดนั้นๆ อย่างเป็นทางการ ทำให้ ส.ส.หลายคนเริ่มอึดอัดต่อการเตรียมพร้อมขับเคลื่อนทางการเมือง เพราะในช่วงเดือน พ.ย. จะมีการเลือกตั้ง อบต.ทั่วประเทศแล้ว    
คล้อยหลังไม่นาน กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพิ่งให้การต้อนรับ นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทีมงานกว่า 80 คน เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย  
พื้นที่ปทุมธานีในสมัยเพื่อไทยเรืองอำนาจ ถูกยกให้เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ยากต่อการที่ผู้ใดจะมา แย่งชิง ส.ส. แต่ด้วยการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไทยเคยได้ ส.ส.ยกจังหวัด ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เหลือเพียง 4 คน ภูมิใจไทย 1 คน อนาคตใหม่ 1 คน  
พื้นที่ปทุมธานี เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญทางการเมือง หลายพรรคการเมืองจ้องเข้ามาช่วงชิงหวังแย่งชิงฐานอำนาจทางการเมือง และก็เป็นในพื้นที่ปทุมธานี ส.ส.เพื่อไทย 2 จาก 4 ส.ส.ในพรรคมีปัญหาในการออกเสียงที่ไม่เป็นไปตามมติพรรคอยู่บ่อยครั้ง ประกอบกับความไม่เป็นเอกภาพในกลุ่ม ส.ส. ที่บางคนยังถือหางกับขั้วอำนาจเก่า บางคนก็มีทีท่าย้ายพรรคชัดเจน บางคนก็ยังไม่แน่ชัดต่อทิศทางอนาคตทางการเมือง ขณะที่ขั้วอำนาจใหม่ที่รุกคืบเข้ามา ก็เตรียมความพร้อมวางผู้สมัครจ้องช่วงชิง เพราะแทงหวยว่าบุคคลที่มีปัญหาในจังหวัดในสมัยหน้าจะไม่ถูกส่งลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างแน่นอน
ศึกชิงหัวหน้าทีม ที่ในวันนี้ยังไม่แน่ชัด คนทางไกลมอบหมายให้ใครคุมพื้นที่ ทวงคืนเมืองหลวงเสื้อแดงภาคกลางกลับคืนมา ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง.