21 ก.ย.64 - ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีการปิดประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีสมาชิกแสดงตนเป็นองค์ประชุมน้อย จนทำให้ไม่สามารถลงมติรับหลักการของร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ... ว่า ความจริงในวันนั้นมีความคิดตั้งแต่ต้นว่าอยากให้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับผ่านวาระ 1 แต่ปรากฏว่ามีสมาชิกอภิปราย 70 กว่าคน แม้จะอภิปรายคนละไม่เกิน 7 นาทีก็ไม่สามารถเสร็จภายในเวลาที่กำหนดได้ จึงมีความคิดว่าให้ผ่านแค่ พ.ร.บ.การศึกษาฯ ก่อน ซึ่งเวลานั้นเหลือสมาชิกที่จะอภิปรายอีก 10 กว่าคนก็จะลงมติ แต่มีคนเสนอว่าขอให้จบเพียงเท่านี้ เอาไว้อภิปรายต่อในสมัยหน้า ซึ่งตนก็ได้เสนอว่าขอให้อภิปรายให้จบและรัฐมนตรีได้สรุปตามข้อบังคับ และจะไปลงมติในสมัยหน้าก็ไม่เป็นไร ซึ่งที่ตกลงกันล่วงหน้าเป็นเช่นนั้น ไม่ได้หมายความว่าสภาล่ม แต่เผอิญว่ามีฝ่ายค้านเสนอให้ลงมติจึงจำเป็นต้องถามความพร้อมโดยการนับองค์ประชุม ซึ่งขณะนั้นสมาชิกบางส่วนกลับไปแล้ว แต่คนที่อยู่ในห้องประชุมตนก็เห็นว่ายังมีวุฒิสมาชิกอยู่จำนวนมาก แต่เนื่องจากมีข้อตกลงภายในกันตั้งแต่ต้นว่าเมื่ออภิปรายจบแล้วให้ไปลงมติสมัยประชุมต่อไป ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดอุบัติเหตุอะไร แต่เป็นเรื่องที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว
เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นความตั้งใจหรือจงใจของสมาชิกที่จะให้เกิดภาพเช่นนี้ใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า มีคนเสนอว่ากฎหมาย 2 ฉบับควรจะรับหลักการไปพร้อมกัน เพื่อที่จะได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาไปพร้อมกัน แต่วันนั้นลงมติไม่ทัน เนื่องจากมีสมาชิกอภิปรายเป็นจำนวนมาก เพราะถือว่าเป็นวันสุดท้ายจึงได้เปิดโอกาสให้อภิปราย และพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนโยบายของชาติในเรื่องการศึกษาที่เป็นปัญหาใหญ่ของเรา ส่วนจะมีการเปิดสมัยวิสามัญหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร
ถามอีกว่าต้องมีการปรับขั้นตอนการพิจารณากฎหมายหลังจากนี้หรือไม่ เพราะส.ส.อภิปรายกันเป็นจำนวนมาก ทำให้การพิจารณากฎหมายล่าช้า นายชวน กล่าวว่า ตนเคยขอความร่วมมือ เช่น หากมีการอภิปราย 10 คน แต่มีบางพรรคอภิปราย 6-7 คน ซึ่งก็เคยคุยกันว่าจะทำแบบที่เคยทำในสมัยก่อน โดยจะดูว่าพรรคนี้มีสมาชิกจำนวนเท่านี้ จะสามารถพูดได้กี่คน รวมถึงเรื่องเวลาที่บางคนเตรียมสคริปต์ไว้ในไอแพด เมื่อขอให้ลดเวลาก็ไม่สามารถทำได้เพราะไม่ได้พูดปากเปล่า ซึ่งก่อนเปิดสมัยประชุมหน้าก็จะมีการคุยเรื่องนี้กัน เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานว่ากฎหมายจะได้ไม่ค้าง แต่เดิมกฎหมายไม่ค้างเลย แต่ครั้งนี้กฎหมายค้างเนื่องจากเราหยุดประชุมเป็นเวลา 1 เดือน ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมถือว่าสมาชิกให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด ซึ่งต้องขอบคุณทุกคนที่ไม่มีใครละเมิดมาตรการ โดย ส.ส. มีผู้ติดเชื้อประมาณ 3 คน ส่วน ส.ว. มีผู้ติดเชื้อ 1 คน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |