วัฒนธรรมลงมือทำ


เพิ่มเพื่อน    

สถานการณ์อาจเข้าขั้นลำบาก สำหรับพรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็ก เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของผู้กุมเสียงข้างมากโดยไม่ถามความเห็นประชาชน และได้เปลี่ยนกติกาเลือกตั้ง ส.ส.จากบัตรเลือกตั้งหนึ่งใบเป็นสองใบ ประเมินกันว่าอาจส่งผลให้พรรคการเมืองไซส์ข้างต้นได้รับผลกระทบ หรือถึงขั้นไร้จำนวน ส.ส.เลยก็ว่าได้ 
    แต่หากไปถามพรรคการเมืองน้องใหม่ อย่าง "พรรคกล้า" กลับไม่สะทกสะท้าน ขอทำหน้าที่ให้พี่น้องประชาชนและประเทศชาติต่อไป แม้จะไม่มีตำแหน่งและอำนาจทางการเมือง 
    โดยเฉพาะบทบาทภายใต้การนำของแม่บ้านพรรคอย่าง เสี่ยเอ๋-อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ที่ตะลุยเดินหน้าทำภารกิจของ กลุ่มกล้าอาสา ในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิดอย่างสม่ำเสมอ อาทิ  จัดอาสาสมัครช่วยประสานหาเตียงผู้ป่วย หรือแจกสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย หรือเจลแอลกอฮอล์ ฯลฯ
    รวมทั้งลงมือทำศูนย์พักคอย ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการเป็นแห่งที่ 30  แล้ว เพื่อเป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วยทั้งขาเข้าและขาออก ตั้งแต่ผู้ติดเชื้อมากักตัว รักษาอาการ จนถึงฟื้นฟูร่างกายหลังพ้นระยะวิกฤต ก่อนกลับสู่ครอบครัว 
    "พี่น้องกล้าอาสา เราภูมิใจกันมากที่ได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ที่มีทหารเรือ ทหารบกเข้ามาช่วย  และภาคเอกชน พรรคการเมือง โดยปราศจากการเมือง การแบ่งฝ่าย เราเป็นมุมเล็กๆ แต่สิ่งที่เรามีคือการร่วมมือ ทุกภาคส่วนร่วมกันทำให้มันเกิดขึ้น"
     เลขาฯ เอ๋ กล่าวและย้ำ...
    "วัฒนธรรมลงมือทำ นั้นสำคัญที่สุด" 
    นี่คือตัวอย่างคนทำงาน ที่ให้ความสำคัญกับการลงมือทำ...มากกว่าวิจารณ์ตามหน้าสื่อ.

ช่างสงสัย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"