บ๊อช โตต่อเนื่อง ชี้ไทยเป็นตลาดที่สร้างรายได้สูงสุด


เพิ่มเพื่อน    

บ๊อช ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีและบริการชั้นนำของโลก ปิดงบการเงินประจำปี 2560 ด้วยยอดขายรวมในประเทศไทย 12.8 พันล้าน (335 ล้านยูโร) เติบโตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนรวมมูลค่า 1.6 พันล้าน (มากกว่า 42 ล้านยูโร) ในปี 2560 ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจของบ๊อชในประเทศไทย ในขณะที่จำนวนพนักงานในไทยมีประมาณ 1,400 คน เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา

 

โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการของบ๊อช ประเทศไทย เปิดเผยว่า ด้วยองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรม ทำให้บริษัทฯ สามารถสนับสนุนและเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ของไทย โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของรัฐบาลไทย มีความคืบหน้าอย่างมากในปีที่ผ่านมา โดยได้รับการยอมรับในระดับสากล และยังได้รับคำมั่นจากหลายประเทศที่จะให้การสนับสนุนโครงการนี้ ซึ่งมีเป้าหมายขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทย บ๊อชร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยและภาคอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันให้เกิดนวัตกรรมด้านการผลิตอัจฉริยะ ซึ่งเป็นไปตามแผนงานไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้นำโซลูชั่นส์ต่างๆ มาปรับใช้กับโรงงานของเราหลายแห่ง ปี 2560 ถือเป็นปีที่โดดเด่นสำหรับกลุ่มธุรกิจโซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อนของบ๊อช โดยเติบโตขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจากแผนกระบบควบคุมแชสซี และโซลูชั่นส์ระบบส่งกำลัง สำหรับกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ยังคงมีการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายธุรกิจไปยังช่องทางอีคอมเมิร์ซ ในส่วนของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานและอาคาร สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นในปี 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมการผลิตที่กำลังขยายตัว อีกทั้งการใช้จ่ายของรัฐบาลในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอุตสาหกรรมก็มีการเติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเป็นผลมาจากธุรกิจด้านระบบอัตโนมัติในโรงงาน และการสร้างรากฐานที่มั่นคงของธุรกิจอุตสาหกรรมที่เชื่อมต่อกัน

 

ด้วยความเป็นผู้นำตลาดระดับโลกของบ๊อชในด้านระบบหัวฉีดเชื้อเพลิง บ๊อชจึงสามารถรองรับฐานลูกค้าผู้ผลิตยานยนต์ที่กำลังเติบโตได้เป็นอย่างดี โรงงานผลิตระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงของบริษัทฯ ณ นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด ได้เริ่มการผลิตตั้งแต่ปี 2560 และยังเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งแรกของบ๊อชในไทย ซึ่งช่วยให้บ๊อชพัฒนาโซลูชั่นส์ใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการลูกค้ายานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ โรงงานแห่งใหม่นี้เป็นโรงงานอัจฉริยะที่พร้อมสรรพด้วยโซลูชั่นส์ของอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญที่โดดเด่นของบ๊อชในด้านเทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อ และยังเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายโรงงานของบ๊อช ที่มีอยู่กว่า 250 แห่งทั่วโลก โดยในระหว่างปี 2558-2560 บ๊อชได้ลงทุนรวมกว่า 80 ล้านยูโรในโรงงานอัจฉริยะแห่งใหม่นี้ กลุ่มบ๊อชมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตในปี 2561 ท่ามกลางสภาวะทางเศรษฐกิจโลกที่ขาดสภาพคล่อง ถึงแม้จะต้องพบกับสถานการณ์ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและการเมือง แต่จากผลประกอบการที่ดีเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทบ๊อชจึงตั้งเป้ายอดขายเติบโตร้อยละ 2-3 ในปี 2561 ซึ่งในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ยอดขายของบริษัทก็อยู่ในระดับสูงสอดคล้องกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และหากปรับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว ก็พบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในปี 2560 บ๊อชมียอดขาย 23.6 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 13.5 (ร้อยละ 16.5 หลังปรับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน) ปัจจุบัน บ๊อชมียอดขายในเอเชียแปซิฟิกคิดเป็นร้อยละ 30 ของยอดขายทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มียอดขายสัดส่วนร้อยละ 27

 

แกลลอรี่


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"