ตัวแทนภาคส่วนสำคัญและกลุ่มคนชั้นนำของฮ่องกงราว 4,800 คนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งคณะกรรมการเลือกตั้ง 1,500 ที่นั่งเมื่อวันอาทิตย์ ตามระบบการเมืองแบบใหม่ของฮ่องกงที่จีนกำหนดไว้สำหรับ "คนรักชาติเท่านั้น" กกต.เหล่านี้จะทำหน้าที่เลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติเกือบครึ่งหนึ่ง และผู้บริหารสูงสุดคนใหม่ในปีหน้า

แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ตอบคำถามนักข่าวที่หน่วยเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ (Getty Images)

    เอเอฟพีรายงานว่า การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของฮ่องกงภายใต้ระบบการเมืองแบบใหม่ ที่จีนกำหนดขึ้นเพื่อตอบโต้การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อ 2 ปีก่อน โดยจัดขึ้นภายใต้คำขวัญว่า "คนรักชาติปกครองฮ่องกง"

    ผู้ที่มีสิทธิลงคะแนนในครั้งนี้เป็นตัวแทนจากภาคส่วนที่สำคัญและกลุ่มคนชั้นนำ ที่ลดจำนวนผู้มีสิทธิจากราว 233,000 คนเมื่อปี 2559 เหลือเพียงประมาณ 4,800 คนในคราวนี้ หรือแค่ร้อยละ 0.06 ของประชากร 7.5 ล้านคนของฮ่องกง หลังปิดหีบในช่วงเย็น เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิ 86%

    เพื่อป้องกันความวุ่นวาย ทางการฮ่องกงจัดกำลังตำรวจรักษาการณ์ถึง 6,000 นาย เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการประท้วงหรือขัดขวางการเลือกตั้ง

    คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่จะทำหน้าที่แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ 40 ที่นั่งจากสภา 90 ที่นั่งในเดือนธันวาคม และจะคัดเลือกผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงคนใหม่ในปีหน้า เพื่อทำหน้าที่แทนแคร์รี แลม

    ตามระบบใหม่ สมาชิกสภานิติบัญญัติของฮ่องกงที่เหลือ 30 ที่นั่งจะมาจากการเลือกโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีเพียง 20 ที่นั่งที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งโดยตรง

    รัฐบาลจีนยืนกรานว่า ระบบการเมืองแบบใหม่ของฮ่องกงนั้นมีความเป็นตัวแทนมากขึ้น และจะรับประกันว่ากลุ่มคนที่ "ต่อต้านจีน" จะไม่ได้เข้ามารับตำแหน่ง แต่นักวิจารณ์กล่าวกันว่า ระบบนี้ไม่เปิดที่ว่างให้สำหรับฝ่ายค้านที่สนับสนุนประชาธิปไตย และทำให้ฮ่องกงกลายเป็นกระจกเงาของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ที่เป็นเผด็จการ

    ด้านแลมกล่าวกับนักข่าวว่า การเลือกตั้งในวันอาทิตย์มีความสำคัญถึงแม้ว่าจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนจะไม่มาก ระบบใหม่นี้จะทำให้แน่ใจว่า "พวกก่อปัญหาที่ต่อต้านจีน" จะไม่สามารถ "ขัดขวาง" รัฐบาลได้อีกต่อไป.