อยู่ยาก!ขนาดอดีตเอกอัครราชทูตยังไม่รอด


เพิ่มเพื่อน    

19 ก.ย.64-  นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj วานนี้ว่า ตอนประมาณเที่ยง ๆ เอารถมาเข้าอู่ Totota บางนา ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัล ตามกำหนด ใช้เวลา service ประมาณ 3-4 ชม. กว่าจะได้รถก็บ่ายแก่ๆ

เลยฆ่าเวลาด้วยการเดินข้ามสะพานลอยไปหาอะไรทานที่ Food Court เซ็นทรัลชั้นใต้ดิน ทานเสร็จก็เดินไปช็อปปิ้งซื้ออาหาร/ขนมไปฝากแม่

ช็อปเสร็จกำลังจะออกจากประตูห้าง ก็เดินสวนกับผู้ชายวัยไล่เลี่ยกับผมคนนึงใส่กางเกงขาสั้น เดินเข้ามาพอดี 
ชายคนนั้นเข้ามาจ้องหน้าพร้อมยกมือไหว้ แล้วถามผมว่า “ท่านจำผมได้มั้ยครับ ? “  “ผมดีใจจังเลยที่เจอท่าน ผมจำท่านได้เสมอ”

ผมก็มองชายคนนั้น นึกในใจว่า เออ..ขนาดใส่แมสค์แบบนี้ยังจำได้ แสดงว่าคงรู้จักเราดี แต่ก็ยังนึกไม่ออก แต่เพื่อไม่ให้เสียมารยาท ก็เออ-ออ ไปก่อนว่า “ครับ จำได้ สบายดีมั้ยครับ”

ชายคนนั้นตอบว่า “สบายดีครับ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ทำงานกับเล็กแล้ว ผมเลยไม่ได้เจอท่านเลย”

ผมก็พยายามนึก เล็กไหนว้า ? ก็พยายามทบทวนจนจำได้ว่า แถวๆบางนาเคยมีอู่ช่างเล็กที่ผมเคยเอารถไปซ่อม แต่ตอนนี้เลิกกิจการไปแล้ว  คงเป็นช่างที่อู่ช่างเล็กแน่ๆ

เลยถามเขาว่า “แล้วตอนนี้ช่างเล็กไปอยู่ไหนแล้วครับ ?” 

ชายคนนั้นก็ตอบเป็นคุ้งเป็นแควว่า “เล็กย้ายไปอยู่แถวปากน้ำ ผมก็ไม่เจอเขาเสียนาน ว่าแต่เสี่ยสบายดีนะครับ?”

ผมก็ชักเอะใจกับคำว่า “เสี่ย” แต่เพื่อมารยาทก็เลยตอบไปว่า “ครับ สบายดีตามอัตภาพ ขอบคุณมาก” 

ชายคนนั้นรุกถามต่อ “แล้วตอนนี้ เสี่ย ยังทำโรงโม่หินอยู่ที่ราชบุรี หรือเปล่าครับ ?” 

ตอนนี้ผมก็เริ่มแน่ใจแล้วว่าเขาคงทักผิดคนแน่ แต่เพื่อไม่ให้เขาเสียน้ำใจ เลยตะกุกตะกักตอบไปว่า “ เอ่อ..ตะ..ตะ..ตอนนี้ไม่ทำแล้วครับ เกษียนแล้ว” 

ชายคนนั้นก็รุกถามต่อ “ แล้วสุดท้ายเสี่ยไปทำที่ไหนครับ” 

ผมก็พยายามกลั้นใจตอบไปว่า “ ที่อาร์เจนตินา ครับ “ 

ชายคนนั้นก็พูดเสียงดังว่า “โห..เสี่ยไปลงทุนไกลเลยนะครับ “ 

ผมก็ตอบเขาว่า “ครับ ที่อาร์เจนตินามีเหมืองแร่เยอะ” แล้วก็รีบตัดบทไปว่า “ ถ้ายังไงขอตัวก่อนนะครับ พอดีเอารถมาซ่อมที่อู่โตโยต้า กำลังจะไปรับรถ”

แต่ชายคนนั้น ก็เหมือนยังไม่อยากให้ผมไป เขาดึงแขนเสื้อผมเบาๆ แล้วก็เล่าเรื่องอะไรต่างๆอีกมากมายที่ผมไม่คุ้นหูเลย ผมก็ได้แต่พยักหน้างึกงักเล่นตามบทไปกับเขา กลัวเขาเสียหน้า

สุดท้ายผมก็พยายามขอตัวอีกครั้ง โดยบอกว่า “ขอตัวไปรับรถก่อนนะครับ ขอบคุณที่จำได้ แล้วทักทาย ไว้มีโอกาสคงได้เจอกันใหม่นะครับ” 

สุดท้าย ชายคนนั้น ก็โอเคอนุญาตให้ผมไปได้ แต่เขาก็ยังดึงแขนเสื้อผมเบาๆแล้วเอียงหน้ามาใกล้ๆว่า “ เสี่ย พอจะช่วยค่ารถผมหน่อยได้มั้ยครับ ผมจะไปหาเล็กมันที่ปากน้ำ ตอนนี้ตกงานไม่มีงานทำหลายเดือนแล้ว ” 

ผมก็นึก เอาวะ มาถึงขั้นนี้แล้ว คงต้องตกกระไดพลอยโจนไปกับเขา บวกกับสงสารด้วยเขาคงไม่มีเงินจริงๆ เลยเปิดกระเป๋าหยิบเงินให้ไป 100 บาท 

ชายคนนั้นยกมือไหว้ผมประหลกๆ ขอบคุณผมพร้อมอวยพรว่า “ขอให้ เสี่ย เจริญๆยิ่งขึ้นไปนะครับ”  แล้วเขาก็เดินเข้าไปด้านไหน Food Court

ตอนนี้ผมก็นึกอยากรู้ว่าเขาจะเอาเงินที่ผมให้ไปซื้อข้าวกินหรือไม่ ก็เลยตัดสินใจสะกดรอยตามไปดูเขาห่างๆ

สักพักก็เห็นเขาเดินเข้าไปยกมือไหว้ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานคนนึงที่เดินเตร็ดเตร่แถวนั้น พร้อมกับเริ่มบทสนทนาแบบเดียวที่พูดกับผม ! 

ตอนนี้ผมก็ได้แต่นึกในใจหวังว่า “เสี่ยโรงโม่หินที่ราชบุรี” คนใหม่ คงพอจะจำชายคนนั้น และสงเคราะห์เงินค่ารถให้เขาไปหาเล็กที่ปากน้ำได้ เหมือนผมนะครับ 

ว่าแล้วก็รีบเดินออกจากเซ็นทรัลข้ามสะพานลอยไปอู่โตโยต้าโดยเร็ว !
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"