"บิ๊กตู่" ลั่นรัฐบาลเดินหน้าไม่หยุดยั้ง จะทำหน้าที่ฝ่ายบริหารให้ดีที่สุด อนาคตข้างหน้าจะพลิกโฉมประเทศจากรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูงให้ได้  "บิ๊กป้อม" ตั้ง “ไพบูลย์” นั่งประธานพิจารณาร่าง กม.ที่พรรคเสนอปลอบใจ “สมศักดิ์” นั่งรองหัวหน้า พปชร. ฝ่ายค้านยื่น กมธ.ป.ป.ช.สอบแจกเงิน ส.ส.จูงใจโหวตไว้วางใจ "ไพบูลย์" เชื่อนายกฯ ไม่ส่งศาลตีความร่าง รธน. "หมอวรงค์" โต้กลับนักการเมืองศรีธนญชัยขอ 2 แก้ 3 แล้วอ้างว่าไม่ผิด 
    ที่ จ.ชลบุรี วันที่ 17 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (แหลมฉบัง) ตอนหนึ่งว่า วันนี้ก็ยืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะมีปัญหาอุปสรรคอะไรก็ตาม ตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็มุ่งเน้นความเดือดร้อนของประชาชนทั่วประเทศเป็นหลัก ความรับผิดชอบมากขนาดนั้น ไม่ใช่แค่เฉพาะจังหวัดชลบุรีอย่างเดียว วันนี้สังคมโซเชียลไม่สามารถควบคุมได้มากนัก ขอให้ทุกคนมีภูมิต้านทานในการเชื่อ ในการอ่าน ในการเสพ ในการโพสต์ต่อ บ้านเมืองจะได้สงบซักที ตนยืนยันว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบให้ได้มากที่สุด แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคน ส.ส.ทุกคนที่อยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ตนในฝ่ายบริหาร เรื่องของความยุติธรรมเป็นเรื่องของอำนาจของตุลาการ มีอยู่ 3 อำนาจ ฉะนั้นตนจะทำหน้าที่ฝ่ายบริหารให้ดีที่สุด ร่วมมือกับฝ่ายนิติบัญญัติในการพลิกโฉมประเทศไทยให้ได้
    "วันนี้อยู่ในขั้นตอนการเยียวยา แต่อนาคตข้างหน้าจะพลิกโฉมประเทศจากรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูงให้ได้ ต้องทำทุกอย่าง ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนจะต้องร่วมมือกับรัฐบาล เข้าใจซึ่งกันและกันจึงจะไปได้ ก็ขอฝากหัวใจไว้กับชาวชลบุรี  รักษาหัวใจผมให้หน่อย ผมจะได้แข็งแรง ในการทำเพื่อประเทศชาติ ยืนยันว่าตลอดระยะเวลาผมดูแลข้าราชการ และให้ความเป็นธรรม เพื่อให้ทำงานและมีวิสัยที่ดีให้สอดคล้องกับนโยบาย รัฐบาล ขอบคุณทุกคน ขอบคุณในรอยยิ้ม ขอบคุณกำลังใจที่ให้กับผม ซึ่งผมจะทำให้คนไทยมีความสุขให้ได้ แต่ต้องใช้เวลามากพอสมควรเพราะปัญหาเราเยอะ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงนามในคำสั่งพรรค พปชร. แต่งตั้งคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพปชร. เพื่อให้การดำเนินงานของพรรคในด้านกฎหมายและการบังคับใช้ข้อบังคับของพรรคเป็นไปด้วยความถูกต้อง มีประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์ และนโยบายของพรรค โดยมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานกรรมการ, นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และนายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็น กรรมการ 
    ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน กล่าวว่า คณะกรรมการดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่พิจารณาเห็นชอบร่างกฎหมายต่างๆ ที่พรรคเสนอ เช่น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง, พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง รวมทั้งให้ความเห็นในปัญหาข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับพรรค นอกจากนี้จะดูแลการบังคับใช้ข้อบังคับพรรค และอำนาจเกี่ยวกับจริยธรรมของสมาชิกพรรค ไม่มีนัยทางการเมืองแต่อย่างใด 
    รายงานข่าวจากพรรค พปชร.แจ้งว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 14 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ได้ลงนามแต่งตั้ง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร.คนใหม่ ทั้งที่จากเดิมในการปรับโครงสร้างพรรคครั้งก่อน เคยจะมอบหน้าที่นี้ให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และกรรมการบริหารพรรคดำรงตำแหน่งดังกล่าว และแม้ในการประชุมพรรคพปชร.เมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายสมศักดิ์จะระบุระหว่างการประชุมว่าไม่น้อยใจที่ไม่ได้เป็น ปธ.ยุทธศาสตร์พรรค ล่าสุดมีรายงานว่า พล.อ.ประวิตรเตรียมจะลงนามแต่งตั้งนายสมศักดิ์เป็นรองหัวหน้าพรรค พปชร.อีกหนึ่งตำแหน่ง เพื่อเป็นการปลอบใจ 
     นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐสภาผ่านความเห็นชอบในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 หลังการประกาศในราชกิจจาฯ ต่อไปจะเป็นขั้นตอนในการทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ คาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 120 วัน ส่วนที่มีข่าวว่ามีหลายพรรคการเมืองต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ยุบสภาเพื่อฆ่าตัดตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่มีเหตุผลที่จะดำเนินการเช่นนั้น รัฐธรรมนูญผ่านไปโดยความเห็นชอบของรัฐสภาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะไปกังวลทำไมกับบัตรเลือกตั้งกี่ใบ หากทำเช่นนั้น จะเป็นเอาเปรียบรัฐธรรมนูญ และไม่เห็นหัวประชาชน    
    ที่อาคารรัฐสภา แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน และคณะ ร่วมกันยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้สอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมี ส.ส.พูดในสภาว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา มีการจ่ายเงินกลางสภาเพื่อจูงใจให้ ส.ส.ลงมติไว้วางใจนายกฯ ส่วนหลักฐานนั้นเราได้มาจากหลายทางทั้งที่แสวงหาเอง และมีคนนำมาให้ทั้งภาพ เสียง และพยานบุคคลกล้องวงจรปิดยังเป็นหลักฐานที่น้อยกว่าหรือเบากว่าหลักฐานที่เรามี 
    นายสุทินกล่าวด้วยว่า วันที่ 28 ต.ค. ที่จ.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทยจะจัดประชุม มีวาระประชุม 3 ส่วนคือ ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ประชุม ส.ส.  ประชุมสมาชิกสามัญ ในการประชุมจะมีการขอเสียงสมาชิกพรรค 3 ใน 4 ว่าจะขับหรือไม่ขับ ส.ส.ที่ฝ่าฝืนมติพรรคด้วย ส่วนที่ไปประชุม จ.ขอนแก่น ไม่ได้จัดประชุมใน กทม. ไม่ได้เกี่ยวกับความกังวลเรื่องโควิด เพียงแต่ทางพรรคอยากเปลี่ยน บรรยากาศไปประชุมต่างจังหวัดบ้าง  
    นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ…. (แก้ไขมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง) รัฐสภา กล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ยื่นเรื่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 (2) ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยความชอบของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาลงมติเห็นชอบในวาระสามแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ดำเนินการตามที่ นพ.วรงค์ร้องขอ อีกทั้งนายกฯ ไม่มีอำนาจตามขั้นตอนดังกล่าว เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 256 (9) กำหนดรายละเอียดไว้เป็นการเฉพาะสำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในขั้นตอนของการยื่นศาลรัฐธรรมนูญหลังจากที่รัฐสภาลงมติเห็นชอบวาระสาม ให้เป็นอำนาจหน้าที่สมาชิกรัฐสภาและมีเงื่อนไขที่ยื่นได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256 (8) เท่านั้น
    “ที่อ้างว่าการแก้รัฐธรรมนูญให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะฟื้นระบอบทักษิณ ทำให้สังคมสับสน ตอนนี้ไม่มีระบอบทักษิณ หรือระบอบประยุทธ์ มีแค่ระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผมไม่เข้าใจว่า นพ.วรงค์มีปัญหาอะไรกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทั้งที่ก่อนปี 2557 บัตรเลือกตั้ง 2 ใบไม่มีใครยกมาเป็นประเด็น และในปี 2554 ที่พรรคประชาธิปัตย์นำแก้รัฐธรรมนูญ และ นพ.วรงค์ ฐานะอดีต ส.ส.ได้ร่วมลงมติเห็นชอบด้วยไม่มีปัญหา เป็นผมเสียอีกที่ยุคนั้นซึ่งดำรงตำแหน่ง ส.ว. ลงมติคัดค้าน”นายไพบูลย์กล่าว
     ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ตอบกลับนายไพบูลย์ ว่า "ไพบูลย์” ถาม “นพ.วรงค์” มีปัญหาอะไรกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ผมตอบคุณไพบูลย์ว่า ผมไม่มีปัญหาหรอก ปัญหาของผมคือนักการเมืองศรีธนญชัย ขอสองแก้สามแล้วอ้างว่าไม่ผิด ทั้งๆ ที่มันผิด ขนาดเคยไล่ระบอบทักษิณ ยังกล้ามาบอกว่าไม่รู้จัก ขอเตือนคุณไพบูลย์ว่า ประวัติศาสตร์มีไว้ให้ศึกษา แต่ไม่ควรซ้ำรอยประวัติศาสตร์.