17 ก.ย. 2564 นายกิจธวัช ฤทธีราวี นายกสมาคมการขายตรงไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายของธุรกิจขายตรงในประเทศไทยปี 2563 ติดลบประมาณ 1% และในช่วงครึ่งแรกปี 2564 ที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ยอดของธุรกิจดังกล่าวติดลบมากกว่า 5% เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดโควิดที่กระทบต่อเศราฐกิจและกำลังซื้อลดลง แต่ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าครึ่งปีหลังธุรกิจขายตรงจะมียอดขายกลับมาดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายและมาตรการต่างๆ เช่น การจัดสรรวัคซีนให้ครอบคลุมได้มากขึ้น การผ่อนคลายล็อกดาวน์ ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ มองว่าจะช่วยให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น
“สาเหตุที่เชื่อว่าธุรกิจขายตรงไทยจะฟื้นตัวได้ในไม่ช้า เพราะสินค้าในธุรกิจขายตรงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันและลูกค้ามีความจงรักภักดีในแบรนด์สูง รวมถึงเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น จะเป็นโอกาสของบริษัทขายตรงที่มีศักยภาพด้านงานวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ ” นายกิจธวัช กล่าว
ทั้งนี้ จากผลกระทบจากโควิด-19 ยังส่งผลให้คนมองหาอาชีพเสริมมากขึ้น แน่นอนว่าธุรกิจขายตรงจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถเติมเต็มความต้องการดังกล่าวได้อย่างลงตัวในสถานการณ์ปัจจุบัน
สำหรับภาพรวมธุรกิจขายตรงโลก ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แต่ในปี 2563 ธุรกิจขายตรงทั่วโลกยังคงมีอัตราการเติบโตด้วยมูลค่าตลาดรวม 179.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเติบโต 5.8% และมีจำนวนนักธุรกิจอิสระทั่วโลกมากกว่า 125 ล้านคนหรือเติบโต 4.3% โดยภูมิภาคเอเชียยังครองสัดส่วนสูงสุด ทั้งในด้านยอดขายที่สูงถึง 43% และจำนวนของนักธุรกิจอิสระที่มีส่วนแบ่งกว่าครึ่งอยู่ที่ 55% ของขายตรงโลก
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |