กรมตำรวจเดิมหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน มีหน่วยงานที่เรียกว่ากองสารนิเทศ ทำหน้าที่สื่อสารประชาสัมพันธ์เรื่องราวต่างๆ ของตำรวจกับพี่น้องประชาชน ตั้งแต่รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร ผลการปฏิบัติงานต่างๆ ของตำรวจ รวมทั้งข้อมูลข่าวสารสำคัญที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ และปฏิบัติการข่าวสารตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
อันที่จริงปกติข่าวอาชญากรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของตำรวจก็เป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์อยู่แล้วทุกวัน มีการนำข่าวจากหนังสือพิมพ์ไปอ่านต่อทางวิทยุ ก็เป็นข่าวชาวบ้านแผ่ขยายไปทั่วสารทิศ มีเรื่องการปฏิบัติการของตำรวจ ความคืบหน้าของคดี เป็นที่สนใจของประชาชนตลอดมา ข่าวตำรวจอื่นๆ เช่น ถึงฤดูแต่งตั้งโยกย้าย ใครเป็นอะไร ย้ายไปไหน ตั๋วช้าง หรือตั๋วอะไรต่างๆ ตำรวจชั้นผู้ใหญ่พลอยมีคำว่าบิ๊กนำหน้าชื่อตามแบบนายทหารชั้นผู้ใหญ่ไปด้วย ข่าวปฏิรูปตำรวจ ข่าวตำรวจกลับเป็นผู้ร้ายเสียเอง ฯลฯ ทั้งหมดเป็นเรื่องราวที่กองสารนิเทศตำรวจมีหน้าที่ดำเนินการในส่วนต่างๆ ตั้งแต่ตัดข่าวรวบรวมรายงานผู้บังคับบัญชา เสนอแนะ โฆษณาและประชาสัมพันธ์ต่อไปเพื่อภาพลักษณ์ของตำรวจต่อสาธารณชน
สมัยก่อนหน่วยงานสารนิเทศเป็นหน่วยงานเล็ก มีชื่อเดิมว่าแผนกประชาสัมพันธ์ มีหัวหน้าหน่วยงานเป็นเพียงสารวัตร ขึ้นอยู่กับเลขานุการกรมตำรวจ ต่อมาภารกิจหน้าที่การงานมากขึ้นก็ยกฐานะเป็นกองบังคับการ มีแผนกงานต่างๆ แบ่งหน้าที่รับผิดชอบไปแต่ละด้าน มีหัวหน้าเป็นผู้บังคับการ ยศนายพลตำรวจตรี มีนายร้อยนายพันมาช่วยทำงานเต็มไปหมด เปิดรับสมัครนายตำรวจสัญญาบัตรจากผู้ที่จบปริญญานิเทศศาสตร์บัณฑิตมาช่วยงานจำนวนมาก รุ่นแรกๆ มีอดีตผู้ประกาศข่าวทีวี นักข่าว มาสมัครและเข้ารับราชการด้วยหลายนาย ทำให้กองสารนิเทศมีสีมีสันขึ้นทันที
นายตำรวจผู้ใหญ่หลายท่านทำงานเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ยุคแรกๆ และก็เป็นที่รู้จักกันดีในสังคมเพราะท่านเติบโตเจริญก้าวหน้าเป็นถึงอธิบดีกรมตำรวจ เช่น พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา เคยเป็นหัวหน้าสถานีวิทยุเสียงสามยอด สถานีวิทยุของตำรวจกองปราบ เป็นเลขานุการกรมตำรวจซึ่งดูแลงานประชาสัมพันธ์ตำรวจ สมัยหนุ่มๆ เล่นละครเป็นพระเอกออกทีวีในวันตำรวจด้วย นับว่าเป็นผู้บุกเบิกงานประชาสัมพันธ์ตำรวจในยุคแรก
ผู้บังคับการสารนิเทศ ก็มีหน้าที่ปกครองบังคับบัญชาบริหารการปฏิบัติราชการในหน่วยงานกองสารนิเทศ แต่ก็มีการแต่งตั้งตำแหน่งโฆษกตำรวจขึ้นมาอีกตำแหน่งต่างหาก โดยไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งผู้บังคับการกองสารนิเทศเป็นโฆษกตำรวจก็ได้ ชั้นยศใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าอธิบดีหรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะรักใคร ชอบใคร หรือเห็นใครเหมาะสม มีบุคลิกภาพดี พูดจารู้เรื่อง รอบรู้งานในหน้าที่ตำรวจ และระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
โฆษณาตำรวจในอดีตก็จะมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของประชนทั่วไปมากกว่านายตำรวจอื่นๆ เพราะออกสื่อบ่อยๆ หลายคนเจริญเติบโตเป็นใหญ่เป็นโต กระโดดเข้าสู่เวทีการเมืองก็มี เช่น พล.ต.อ. อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีต รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ. วัชรพล ประสานราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการ กทม. พล.ต.อ. ประวุฒิ ถาวรศิริ พล.ต.อ. ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร.
ผมมีเรื่องราวของอดีตโฆษกตำรวจบางท่านมาเล่าให้ฟัง เพราะรู้จักและคุ้นเคยทำงานร่วมกันมานาน เป็นโฆษกที่ประชาชนทั่วไปอาจจะรู้จักหรือจดจำได้น้อยกว่าโฆษกตำรวจบิ๊กเนมที่เอ่ยชื่อมา แต่เป็นโฆษกตำรวจที่นายตำรวจด้วยกันจะรู้จักเป็นอย่างดี พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน หรือพี่เปี๊ยกของน้องๆ ตำรวจและนักข่าวกรมตำรวจ คร่ำหวอดกับงานประชาสัมพันธ์ตำรวจมาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อนเข้ามารับราชการในกองสารนิเทศ จนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
ประวัติพี่เปี๊ยก เป็นคนชอบดนตรีและศิลปะ สอบได้สถาปัตยกรรม ศิลปากร แต่สละสิทธิ์ และเลือกเข้าเตรียมทหาร รุ่น 8 แยกเหล่าเป็น นรต.24 ขณะเรียนยังเป็นช่างศิลป์และเป็นนักดนตรี จบออกมารับราชการครั้งแรกเป็นผู้หมวดสถานีตำรวจภูธร อ.เทพา จ.สงขลา ลุยกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) โจรคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) แล้วกลับมานครบาลเติบโตจนเป็น สวส. สน.สำเหร่ แอบออกไปหารายได้พิเศษเป็นดีเจสถานีวิทยุ เรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารบก (รร.สธ.ทบ.) (นายตำรวจน้อยคนจะได้มีโอกาสเรียน) เรียนจบก็กลับมาทำงานเป็น เสธ.ตำรวจ (ตำรวจเรียกฝ่ายอำนวยการ) และงานต่างๆ อีกหลายงาน แล้วเข้าตานายตั้งให้เป็นนายพลในตำแหน่งผู้การกองสารนิเทศ เป็นพิธีกร โฆษกงานตำรวจสำคัญๆ ทุกงาน เช่น งานวันตำรวจ งานเลี้ยงรับรองงานวันตำรวจ นอกจากงานหลวงแล้ว พี่เปี๊ยกยังเป็นพิธีกรงานราษฎร์สารพัด งานเลี้ยง งานรุ่นทหารตำรวจ งานมงคลสมรส งานวันเกิด ยันงานศพ เรียกว่าเป็นโฆษกตัวจริงเสียงจริง เป็นโฆษกมาแล้วทุกงาน รับราชการจนเป็นพลตำรวจโทและได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกตำรวจอย่างเต็มความภาคภูมิ ประสบการณ์งานพิธีกร โฆษก เป็นที่กล่าวขานจดจำมาจนทุกวันนี้
พี่เปี๊ยกเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี มีมนุษยสัมพันธ์ พูดจาตลกสนุกสนาน เป็นที่รักใคร่ของผู้บังคับบัญชา รุ่นพี่ เพื่อนร่วมรุ่นและน้องๆ จดจำเรื่องราวของพี่ๆ น้องๆ เมื่อครั้งเป็น นรต. ทำงานหรือเล่นดนตรีด้วยกัน และนำมาเล่าได้อย่างสนุกสนาน หลังเกษียณยังมีจิตอาสารวมนักดนตรีพี่ๆ น้องๆ ที่เคยเล่นดนตรีสมัย นรต. มาเล่นดนตรีวง The Old Police เป็นประจำที่โรงพยาบาลตำรวจ
ปี พ.ศ. 2530 สมัย พล.ต.อ. เภา สารสิน เป็นอธิบดีกรมตำรวจ ผมได้ร่วมงานกับพี่เปี๊ยกในการจัดงานสัมมนาผู้กำกับตำรวจทั่วประเทศเป็นครั้งแรก ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ พัทยา พี่เปี๊ยกรับหน้าที่พิธีกรดำเนินการตั้งแต่พิธีเปิด พิธีปิด ปฐมนิเทศ แนะนำวิทยากร งานเลี้ยงสังสรรค์ จนส่งกลับบ้าน และก็ร่วมงานกันมาตลอด ผมอยู่ฝ่ายเลขาฯ เป็นผู้ประสานงานทั่วไป พี่เปี๊ยกรับงานเกี่ยวกับพิธีกรและงานบนเวทีทั้งหมด ทำกันมาทั้งงานใหญ่งานเล็กอีกหลายสิบงาน จนพี่เปี๊ยกเกษียนอายุราชการไป ก็มาช่วยงานให้คำแนะนำเป็นระยะ โดยเฉพาะงานด้านสารนิเทศและการสื่อสารองค์กรต่างๆ
ปัจจุบันโฆษกตำรวจคือ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.ภ.2 เป็นโฆษกที่ไม่ค่อยออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเองบ่อยนัก มักจะให้รองโฆษกออกมาแถลง โดยกำกับการแสดงอยู่เบื้องหลัง มีชื่อเป็นข่าวคนรู้จักว่าเป็นโฆษกตำรวจ เพราะว่านายตำรวจติดตามที่ชื่อผู้หมวดไวกิ้งเป็นที่สนใจของสังคมในวันที่ ผบ.ตร.แถลงข่าวจับกุม อดีต ผกก.โจ้ คดีคลุมหัว
รองยิ่งยศหรือรองแรก (ชื่อเล่น) ที่ผมเรียกด้วยความคุ้นเคย เป็นโฆษกตำรวจอีกคนที่ผมรู้จักตั้งแต่เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รองแรกจบการศึกษาจาก รร.นรต. รุ่น 41 และมีดีกรีเป็นด๊อกเตอร์ จบการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาปรัชญา จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ออกไปรับราชการปฏิบัติงานตำรวจหลายหน้าที่ ทั้งบู๊ทั้งบุ๋น มาพบกันอีกทีรองแรกเป็นผู้กำกับที่กองดุริยางค์ตำรวจ ซึ่งหลายคนอาจแปลกใจ ทำไมเรียนจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาเป็น ผกก. ที่กองดุริยางค์ตำรวจ เป็นหัวหน้าวงดนตรี เพราะปกติตำแหน่งนี้มักจะเป็นผู้ที่จบการศึกษาทางด้านดนตรีและเป็นนักดนตรี แต่เมื่อรู้ประวัติรองแรกก็หายสงสัย เพราะเป็นนักดนตรีวงโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาตลอด และเป็นผู้สนใจ เล่นเครื่องดนตรีได้ทุกชนิด รองแรกเป็นหัวหน้าวงดนตรี ทำหน้าที่พิธีกรนำการแสดงดนตรี บริหารจัดการกองดุริยางค์ด้วยอุปนิสัยสุภาพ อ่อนน้อม เป็นที่รักใคร่ของตำรวจกองดุริยางค์อย่างยิ่ง
ผมเคยมีประสบการณ์ทำงานร่วมกับรองแรก เห็นอัจฉริยภาพในการทำงาน แก้ไขปัญหาด้วยความเฉลียวฉลาดและอดทนอย่างสูง ประทับใจมาจนทุกวันนี้ รองแรกไม่ได้เก่งแค่งานดนตรีอย่างเดียว เคยออกไปเป็นผู้การตำรวจภูธร จังหวัดสระแก้ว สืบสวนสอบสวนจับกุมโจรผู้ร้ายอยู่หลายปี ปกครองพัฒนาปรับปรุงการทำงานของสถานีตำรวจภูธรในปกครองให้ทันสมัยเจริญก้าวหน้าหลายประการ ผลงานดีเกินไปผู้บังคับบัญชาเลยให้เป็นผู้การอยู่หลายปีไม่ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น แต่ก็อดทนทำงานจนผู้บังคับบัญชาเห็นใจเลื่อนจากผู้การเป็นรองผู้บัญชาการและมอบหมายหน้าที่สำคัญให้เป็นโฆษกตำรวจ
ผมเกษียณอายุราชการไปหลายปีแล้ว เฝ้าติดตามการทำงานดูความเจริญก้าวหน้าของน้องๆ หลายคนที่เคยร่วมงานกันอย่างใกล้ชิด รองแรกเป็นน้องคนหนึ่งที่ผมว่าครบเครื่อง ทั้งสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ เป็นความหวังที่จะเป็นผู้บังคับบัญชาตำรวจที่หัวไม่ส่าย เจริญก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโตเหมือนรุ่นพี่ๆ อดีตโฆษกตำรวจบิ๊กเนมหลายคนต่อไปในอนาคต.
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |