บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อพรรคใหญ่ปิดพรรคกลางเล็ก


เพิ่มเพื่อน    

ภายหลังที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติเห็นชอบผ่าน 3 วาระรวดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และกำหนดจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ต่างจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่เริ่มใช้บัตรเลือกตั้งเพียงแค่ใบเดียว ส.ส.เขต 350 คน
    ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวจะทำให้ประชาชนมีสิทธิ์ในการเลือกพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตแยกออกจากกัน และทำให้ตรงกับความประสงค์ของผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
    ซึ่งรูปแบบเลือกตั้งโดยใช้บัตร 2 ใบ ระบบการเลือกตั้งดังกล่าวจะเรียกว่าการเลือกตั้งแบบผสมเสียงข้างมาก Mixed Member Majoritarian หรือ MMM มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสถียรภาพในการทำงานของรัฐบาล
    บัตรเลือกตั้ง 2 ใบจะประกอบด้วย 1.บัตรเลือก ส.ส.เขต 2.บัตรเลือกพรรค (ส.ส.บัญชีรายชื่อ) โดยกำหนดให้มี ส.ส.เขต จำนวน 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน สำหรับการเลือกจะเป็นลักษณะเลือกคนที่ชอบ กาเบอร์ที่ใช่ ซึ่งก็จะทำให้ได้ ส.ส.เขตตามที่ประชาชนเลือก หรือหากชอบนโยบายของพรรคการเมืองหรือผู้นำพรรคใด ก็ใช้สิทธิ์เลือกจากบัตรอีกใบได้ และผู้สมัคร ส.ส.ภายในพรรคทั้งเขตและบัญชีรายชื่อสามารถออกไปช่วยรณรงค์หาเสียงได้ทั่วประเทศ พรรคการเมืองไม่ต้องมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูง เพราะว่าไม่จำเป็นต้องส่ง ส.ส.ครบทุกเขต หรืออาจจะไม่ส่ง ส.ส.เขตก็ได้ ถ้ามีนโยบายพรรคที่เชื่อว่าทำให้ประชาชนพึงพอใจก็มีสิทธิ์เข้าสภาได้ เพราะจะได้คะแนนจากบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
    นอกจากนี้ เมื่อดูร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาที่แก้ไขลดจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลงเหลือ 100 ที่นั่ง จาก 150 ที่นั่ง และให้แยกนับคะแนนระหว่างบัตร ส.ส.เขตกับบัตรปาร์ตี้ลิสต์ จากเดิมตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว แล้วนำทุกคะแนนของทุกพรรคการเมืองมานับรวมกันหมด ซึ่งการเลือกตั้งรอบที่แล้วได้ประมาณ 70,000 คะแนน พรรคการเมืองจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คนโดยไม่นับการปัดเศษ แต่รอบนี้ที่เสนอแก้ไขมีการประมาณการว่าจะมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 50 ล้านเสียง ซึ่งที่ผ่านมาจะมีคนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งโดยเฉลี่ยประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ คือ 35 ล้านคน เมื่อนำตัวเลขมาคำนวณจะเท่ากับว่าพรรคการเมืองที่จะได้ปาร์ตี้ลิสต์ 1 ที่นั่งต้องได้ 350,000 คะแนน ที่มากกว่าเลือกตั้งปี 2562
    แต่แน่นอนว่าข้อดีจะตกที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ให้กินรวบได้ง่าย ภาพชัดคือในอนาคตถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังเลือกตั้งโดยใช้บัตร 2 ใบอยู่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยจะคัมแบ็กอีกครั้ง หลังเจอพิษบัตรใบเดียวในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพื่อหวังผลได้รับเสียงถล่มทลายดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในการเลือกตั้งเมื่อปี 2540, 2548 หรือ 2554
    อย่างไรก็ตาม แม้ที่ผ่านมาเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าพลังประชารัฐก็ยังมี 250 เสียงจาก ส.ว.ตุนไว้ในมือ ดังนั้นต่อให้กลับไปใช้บัตร 2 ใบ พลังประชารัฐก็ยังถือไพ่ต่ออยู่ดี
    เห็นได้ชัดว่าไม่ได้หวังเพียงแค่ชนะเลือกตั้งเท่านั้น หากแต่ยังหวังไปถึงผลคะแนนแบบแลนด์สไลด์เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียว โดยไม่จำเป็นต้องง้อเสียงจากพรรคขนาดกลางและ “ขนาดเล็ก” ให้เป็นหนามตำใจ หรือสร้างเงื่อนไขต่อรอง เข้ารวมกลุ่มเหมือนดังเช่นทุกวันนี้
    ส่วนพรรคเล็กที่สามารถเข้ามาในสภาได้หลายพรรคจากการปัดเศษจากระบบบัตรใบเดียว จะไม่ได้ถือไพ่ต่อรองพรรคใหญ่อีกต่อไป มิหนำซ้ำอาจไม่ได้กลับเข้าสภารอบสอง และจะหายออกไปจากสารบบสภาทันทีหากกลับไปใช้ระบบบัตร 2 ใบที่
    ส่วนโอกาสที่พรรคก้าวไกล หรือชื่อเก่าคืออนาคตใหม่ ที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากระบบบัตรใบเดียว ชนิดกวาด ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มากที่สุดในสภา จะได้ ส.ส.เข้ามาเหมือนตอนเลือกตั้งปี 2562 หรือไม่ ดูแล้วอาจจะยาก เพราะคนที่จะเลือกก้าวไกล พวกกลุ่มคนอายุ 18-24 ปี ถ้ารวมทั้งประเทศมีมาก แต่หากแยกเป็นรายเขตเลือกตั้ง จำนวนก็ยังน้อยกว่าคนที่ไม่ได้อยู่ในอายุกลุ่มดังกล่าว ทำให้ก้าวไกลไม่มีทางจะชนะได้ ส.ส.เขตมากเหมือนปี 2562 ที่ตอนนั้นคนเลือกธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทั้งที่ไม่ได้รู้จักผู้สมัคร ส.ส.เขต รวมถึงตอนนั้นก็ได้คะแนนจากอานิสงส์ที่ไทยรักษาชาติถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรค แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ทำให้พรรคก้าวไกลอาจลำบากมากขึ้นกับการเลือกตั้งครั้งต่อไป
    เรียกง่ายๆ คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ตอบโจทย์กับ 2 พรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยและพลังประชารัฐ และในระยะยาวนั้นจะเป็นการวางรากฐานให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่ เพราะระบบเลือกตั้งโดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบคู่ขนานนั้น จะเอื้อให้พรรคขนาดใหญ่ที่มี ส.ส.เขตมาก ซึ่งจะมีฐานคะแนนระดับพื้นที่ เมื่อได้ ส.ส.เขตหลายคน ส.ส.บัญชีรายชื่อจะเพิ่มขึ้น โอกาสได้ ส.ส.ก็มากตามไปด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"