นับถอยหลังปิดสมรภูมิดินแดง ม็อบ'ทะลุแก๊ส'เสื่อมมวลชนเท


เพิ่มเพื่อน    

ศึกนอกศึกในร้อนฉ่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงแม้ผลโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ ตู่ จะได้ไปต่อ แต่เมื่อเปรียบเทียบคะแนนกับอีก 5 รัฐมนตรี คะแนนโหวตไว้วางใจเพียง 264 อยู่รองอันดับบ๊วยต่อจาก นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่ผลโหวตอยู่ที่ 263 คะแนน ซึ่งก็ไม่ผิดคาด เมื่อก่อนการลงคะแนนแผลในค่ายพลังประชารัฐปริ ก๊วนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร.จะเทนายกฯ ตู่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคและในฐานะพี่ใหญ่ของทั้งบิ๊กตู่และผู้กองธรรมนัสต้องเร่งเคลียร์ปัญหาภายใน อุ้ม พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเก้าอี้นายกฯ ต่อ
    ด้วยชายชาติทหารทั้งคู่ ภารกิจที่ได้รับต้องทำให้เสร็จตามแบบฉบับของทหาร เดินรอยเดียวกันไม่ได้ บิ๊กตู่ สั่งฟัน ปลด ร.อ.ธรรมนัส พ้นจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ คนใกล้ชิดของผู้กองธรรมนัส การที่นายกฯ สั่งปลดคนของ บิ๊กป้อม ทั้ง 2 คน ทำให้พี่ใหญ่กับน้องเล็กถึงกับมีปัญหาแคลงใจกัน เพราะรู้ดีว่า ร.อ.ธรรมนัสเป็นเส้นเลือดใหญ่ของพรรค พปชร. และเป็นกำลังหลักในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมาถึงในเร็วๆ นี้
    การที่ น้องตู่ หัก พี่ป้อม ครั้งนี้ คนมองการณ์ไกล 3 ป.ถึงคราวแตกหัก แต่นายกฯ ยันไม่มีอะไรในกอไผ่ “ทุกคนอาจจะไม่รู้และทุกคนอาจจะไม่รักคน รักเพื่อน รักคนอื่น เหมือนผมรักกัน 3 คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนท่ามกลางสนามรบผมก็เคยอยู่ร่วมกัน และท่านก็เป็นผู้บังคับบัญชาผมตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามารับราชการ อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนและฝึกอบรมกันจนกระทั่งโตขึ้นมา ยังคบและเคารพกันอยู่ ทุกอย่างที่ผมเป็นวันนี้ได้ เพราะพี่ทั้งสองคนได้สั่งสอนผมมา และผมจำได้ว่า ไม่เคยที่พี่ทั้งสองจะมาสอนให้ผมทุจริต โกง” เป็นคำยืนยันจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมสยบข่าวเกาเหลาควงแขน บิ๊กป้อม ขอให้สื่อเลิกเสี้ยม
    รัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังต้องจับตาดูกันอีกยาว ยังมีปัจจัยหรือตัวแปรอีกหลายอย่างที่ส่งผลต่อสมาชิกในพรรคที่มีอยู่หลายก๊วนหลายกลุ่มล้วนแต่เขี้ยวลากดิน และอีกปัจจัย สภาเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 83 และมาตรา 91 เรื่องระบบการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ในวาระสาม ที่การโหวตครั้งนี้มีผลได้ผลเสียต่อพรรคใหญ่พรรคเล็ก พรรคเพื่อไทยพอใจบัตร 2 ใบ เคยชนะการเลือกตั้งกวาด ส.ส.มาแล้วทั่วประเทศ แต่พลังประชารัฐจำต้องทำการสกัดพรรคเล็กให้สูญพันธุ์ โดยเฉพาะ “พรรคก้าวไกล” ที่ได้ ส.ส.จากบัญชีรายชื่อจำนวนมาก ถึงแม้การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐจะรู้ว่าแพ้ในสนาม แต่สามารถเป็นผู้นำรัฐบาลในเกมได้เพราะมี ส.ว.อีก 250 เสียงอยู่ในมือ เพราะการผ่านร่างฯ แก้บัตร 2 ใบไม่ได้ผ่าโครงสร้าง 250 ส.ว.ยังอยู่ในมือของพลังประชารัฐ
    “ศึกนอก” ขบวนการโค่นล้มไล่ พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังคงเข้มข้นไม่มีแผ่ว นำโดยคนหนุ่มสาวกลุ่มก้อนต่างๆ ทั้งกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มเยาวชนปลดแอก กลุ่มทะลุฟ้า กลุ่มรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายจัดกิจกรรมชุมนุมไล่นายกฯ ไม่เว้นวัน โดยมีรุ่นใหญ่แกนนำคนเสื้อแดงอย่าง “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ หรือ “อ.ห.ต.” และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด เป็นกำลังเสริม จัดคาร์ม็อบคู่ขนาน อ้างยึดหลักสันติวิธีหาแนวร่วมประกาศยึดแยกอโศก ปักหลักชุมนุมทุกวัน แต่ไม่ปัง แค่กินบุญเก่าเมื่อมวลชนที่ออกมาร่วมเป็นคนเสื้อแดงจำนวนไม่ได้ดังที่คาดหวัง แผนปักหลักไล่ต้องสะดุด อ้างข้อกฎหมายนัดกันเป็นอีเวนต์ไป
    การเดินเกมของ เต้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ ทุกคนดูออก เป็นการสนองนโยบายของคนต่างแดนที่หวังปลดบ่วงกลับมามีอำนาจอีกครั้ง “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” ประชาธิปไตยฉาบหน้าจึงต้องกลับไปตั้งหลักเคลื่อนไหวทางบ้างโซเชียลเป็นระลอกให้นายใหญ่เห็น ซึ่งประชาชนก็เห็นว่ากำลังทำอะไรกันอยู่มวลชนจึงหร็อมแหร็ม และนัดแสดงพลังจัดคาร์ม็อบอีกครั้งเลือกวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งตั้งใจให้ตรงกับ 15 ปี รัฐประหาร 2549 เพื่อเป็นหัวเชื้อเรียกมวลชนออกมาร่วม โวหัวขบวนอยู่ที่แยกอโศกท้ายแถวจะอยู่ที่รัชดาฯ อ้างสถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นข้อจำกัดต่อการแสดงพลังชุมนุมใหญ่และชุมนุมยืดเยื้อ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์คือ “คาร์ม็อบ”
    คู่ขนานเวทีประชาธิปไตย “กลุ่มเยาวรุ่นทะลุแก๊ส” ที่ยึดสามเหลี่ยมดินแดงเป็นสมรภูมิขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งโดยไม่มีเงื่อนไข ที่ยืดเยื้อมานานนับเดือน จากเริ่มต้นอ้างออกมาเรียกร้องตามสิทธิ์ กลับกลายเป็นการก่อจลาจลป่วนเมือง เสมือน “แยกกันเดินร่วมกันตี” ทุกเย็นแยกดินแดงกลายเป็นสมรภูมิรบ เป็นสนามแสดงแสนยานุภาพของกลุ่มอาชีวะประกอบวัตถุระเบิดสารพัดชนิด ทั้งแสวงเครื่อง ไปป์บอมบ์ ระเบิดขวด ระเบิดเพลิงที่อันตรายถึงชีวิต เข้าประหัตประหารตำรวจควบคุมฝูงชน
    นับตั้งแต่สมรภูมิดินแดงลั่นระฆัง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้วหลายนาย ล่าสุดคืนวันที่ 12 ก.ย. ขณะ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ ผบ.หมู่ บก.อคฝ. ที่เข้าบังคับใช้กฎหมาย ถูกแก๊งทะลุแก๊สปาระเบิดไปป์บอมบ์ใส่หน้าเป็นแผลฉีกขาดครึ่งซีก เลือดออกในสมอง กระดูกเบ้าตาขวาแตก แพทย์ต้องเร่งผ่าตัดอาการยังโคม่า พฤติกรรมไม่ต่างจากโจรเผาทรัพย์สินของราชการ เผาตู้จราจร เผารถตำรวจ เผายางรถยนต์ปิดการจราจร สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนที่อาศัยรอบบริเวณ โดยเฉพาะแฟลตดินแดงที่มีผู้อาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก อยู่กันอย่างหวาดระแวงหาความปลอดภัยไม่มี รถยนต์ที่สัญจรไปมาต่างได้รับผลกระทบ เกิดอุบัติเหตุได้รับความเสียหายหลายคัน
    เสียงพลุ เสียงระเบิดดังลั่นนานนับเดือน ส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่ จากมวลชนที่เข้าร่วมชุมนุมกันหลายร้อยเริ่มหดหาย เหลือแค่หลักสิบ จากที่ประชาชนเห็นด้วยเริ่มถอยห่าง การแสดงออกไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย จากผู้ชุมนุมที่จัดกันมาที่มีอยู่ประมาณ 3-4 กลุ่ม คือกลุ่มทะลุแก๊ส, เยาวรุ่นทะลุแก๊ส, อาชีวะไม่เอาเผด็จการ และกลุ่มวัยรุ่นที่หลุดจากระบบการศึกษา ด้วยที่ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างจัดหลากหลายสถาบัน หรือแม้กระทั่งวัยรุ่นหัวร้อนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง แต่ความเดือดร้อนเกิดกับคนส่วนใหญ่ แม้กระทั่ง รพ.ทหารผ่านศึก ยังต้องออกมาขอร้องให้กลุ่มป่วนยุติการปะทะกับเจ้าหน้าที่เพราะได้รับผลกระทบอย่างมาก แพทย์ไม่สามารถเข้ารักษาผู้ป่วยได้ ผู้ป่วยก็ไม่สามารถส่งเข้ารักษาที่ รพ.ได้
    ด้วยพฤติกรรมอันธพาล บางวันถึงกับทะเลาะกันเอง บางวันทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ใครเห็นต่างผลักเป็นศัตรูไม่เว้นแม้กระทั่งนักข่าวภาคสนามบางสำนัก ถูกหมายหัว ม็อบป่วนดินแดงจึงเสื่อมไปด้วยตัวมันเอง “กลุ่มทะลุแก๊ส” ได้ประกาศยุติบทบาทที่สามเหลี่ยมดินแดงหลังขาดความเป็นเอกภาพ ขัดแย้งกันภายใน แฉลากไส้กันเละ
    ถึงแม้กลุ่มเยาวรุ่นทะลุแก๊สจะยังคงออกมาป่วน แต่มีเพียงไม่กี่คน อ้างเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงออกมารับผิดชอบ
    ถึงเวลานับถอยหลังม็อบอันธพาล แม้กระทั่ง “กองทุนราษฎรประสงค์” ก็เริ่มจะคิดหนักเมื่อต้องควักเงินจำนวนมากเพื่อประกันตัวแก๊งทะลุแก๊สที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้จำนวนมาก แต่ละคนต้องใช้เงินกองทุนยื่นประกันตัวรายละ 35,000-40,000 บาท และคดีของกลุ่มผู้ชุมนุมจะตามมาอีกเป็นจำนวนมากจากการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมามีถึง 205 คดี ผู้ต้องหาที่อยู่ในข่ายที่ต้องถูกดำเนินคดีกว่า 700 คน ถูกจับกุมแล้วกว่า 500 คน ซึ่งต้องใช้เงินอีกหลายล้านบาท 2-3 วันที่ผ่านมาทางเพจกองทุนฯ ต้องโพสต์ขอระดมทุนเพิ่ม ทำให้ม็อบป่วนเมืองเสื่อมไปเอง เหมือนกับพี่ใหญ่ที่หาทางลงแทบไม่เจอ แต่สิ่งที่ได้คือคดีติดตัว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"