ข่าวดีสาวก 3 นิ้ว ศาลอุทธรณ์บอกคุมขังมานาน หลักประกันเหมาะสม เชื่อไม่หลบหนี ให้ประกัน 5 แกนนำได้แต่ต้องใส่กำไลอีเอ็ม กรรมติดจรวด “เพนกวิน” ต้องกลับคลองเปรม หลังถูกถอนประกันคดีปักหมุดสนามหลวง “บช.น.” ยันมีความพร้อมดูแล ลั่นใช้กฎหมายจัดการเด็ดขาดม็อบดินแดง
เมื่อวันพุธ ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ศาลได้อ่านคำสั่งประกันตัวของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ในคดีที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังนายพรหมศร  วีระธรรมจารี, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายชาติชาย แกดำ,  นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และ น.ส.ปนัดดา ศิริมาศกุล ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่มีจำนวนรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน และร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาอื่น จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน กับพวก มาควบคุมที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ม.6 ต.คลองห้า  อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 5 คนได้สลับกันขึ้นพูดปราศรัยปลุกเร้า กดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวนายจตุภัทร์กับพวกที่ถูกจับกุม และมีการก่อความวุ่นวาย
    โดยก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดธัญบุรีและศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 1 อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายแซม สาแมท, นายณัฐชนน ไพโรจน์ และนายสิริชัย นาถึง และล่าสุดศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 โดยให้เหตุผลทำนองเดียวกันว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่าแม้ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันหลายคดี แต่เวลาได้ล่วงเลยมาเดือนเศษ นับแต่ผู้ต้องหาถูกจับการสอบสวนน่าจะคืบหน้าใกล้แล้วเสร็จ ประกอบกับไม่มีข้อบ่งชี้ว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือจะหลบหนี และหลักประกันน่าเชื่อถือ จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาระหว่างสอบสวน ตีราคาประกัน 1 แสนบาท กับให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (กำไลอีเอ็ม) 
    นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ในวันนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้ประกันตัวผู้ต้องหาหมดทุกคนในคดีเหตุเกิดที่คลอง 5 ปทุมธานี ไม่มีใครติดค้างในเรือนจำธัญบุรีเเล้ว เเต่นายพริษฐ์นั้นศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันไปก่อนหน้านี้ในคดีปักหมุดสนามหลวง ฉะนั้นก็ต้องย้ายกลับไปยังเรือนจำคลองเปรม ซึ่งหลังจากนี้เราก็จะยื่นประกันตัวเพนกวินต่อไป
    พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง  ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวกรณีนี้ว่า ตำรวจได้เตรียมความพร้อมและคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ไม่ให้มีความรุนแรงได้ ส่วนการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊สที่แยกสามเหลี่ยมดินแดงในวันที่ 15  ก.ย. และกลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยในวันที่ 16 ก.ย.  เวลา 15.00 น.ที่สกายวอล์ก แยกปทุมวันนั้น บช.น.ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกการจราจรไว้แล้ว โดยขอความร่วมมือสื่อมวลชนและบุคลากรทางการแพทย์แสดงบัตรประจำตัวและใบรับรอง เพื่อป้องกันการแฝงตัวของกลุ่มไม่หวังดี
     “การชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง ผู้ก่อเหตุได้ขว้างปาประทัด พลุ ยั่วยุตำรวจหน้ากรมดุริยางค์ทหารบก เวลา  21.00 น. ผู้ก่อเหตุยิงหนังสติ๊กบรรจุลูกแก้ว ปาระเบิดใส่ตำรวจจากฝั่งถนนมิตรไมตรี วางตะปูเรือใบบนถนนพระราม 9 ตำรวจจำเป็นต้องเข้าบังคับใช้กฎหมายเวลา 24.00 น. ก่อความวุ่นวายที่หน้า สน.ดินแดง บช.น.อยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี และจับกุมเยาวชนที่เผาซุ้มการทางพิเศษใกล้ทางด่วนดินแดง 1 ราย โดยจะเรียกผู้ปกครองเข้ารับทราบด้วย ส่วนจะดำเนินคดีมาตรา 112 หรือไม่ ต้องดูที่พยานหลักฐาน” พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
      พล.ต.ต.ปิยะยังกล่าวถึงกรณีผู้ชุมนุมข่มขู่ทำร้ายสื่อมวลชนว่า ขอให้สื่ออยู่ใกล้ตำรวจเป็นหลักเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะสื่อที่ถูกประกาศว่าจะมีการทำร้าย โดย ผบ.ตร.สั่งการให้บังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการรักษาความสงบเรียบร้อย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กำลังติดตั้งเครื่องป้องกันแฟลตดินแดง คาดว่าจะใช้งานได้ในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีมีผู้เผยแพร่คลิปตัดต่อตำรวจ คฝ.ยิงกระสุนยางจากสะพานลอยนั้น เมื่อดูคลิปตัวเต็มเห็นได้ว่ามีการยั่วยุให้ตำรวจทำเสียหาย ตัดทอนคลิปเพิ่มข้อความบิดเบือน ทั้งนี้จะตรวจสอบผู้นำเข้าหรือผู้ส่งต่อแล้วดำเนินคดีตามกฎหมาย.