19 มิ.ย.61-นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวเปิดการประชุมนโยบายการขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ ภายใต้คำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 ว่า ตามที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอให้มีการรับข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ มาใช้ในการขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาเพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และให้มีการรายงานผลทุกๆ 3 เดือน ดังนั้น จึงต้องให้ทุกภาคส่วน คณะสงฆ์ และผู้แทนองค์การศาสนา เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ผู้แทนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมทบทวนและแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนแผนไปสู่เป้าหมายของทุกศาสนาที่มุ่งส่งเสริมให้คนไทยมีพฤติกรรมถูกต้องดีงาม มีคุณธรรม และส่งเสริมสังคมไทยมีความรัก สามัคคี และอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขร่มเย็น
" การทำให้ศาสนามีความมั่นคงในสังคมไทยให้ได้ ผู้นำศาสนาต้องมีบทบาทและเสียสละ ให้มากขึ้น ขณะที่ศาสนิกชนต้องมีส่วนในการขับเคลื่อนหลักคำสอน หากผู้นำศาสนาไม่เข้มแข็ง ไม่มีหลักปฏิบัติที่ดี ศาสนาจะล่มสลายได้ นอกจากนี้ ในการดำเนินงานเผยแผ่ศาสนาสู่การปฏิบัติ ทุกคนต้องมีบทบาทร่วมกัน ไม่ต้องเรียกร้องว่าจะได้งบประมาณหลายพันล้านเพื่อนำมาใช้งาน แต่ต้องพิจารณาว่า เมื่อศาสนิกมีทุกข์ ผู้นำ ศาสนาควรหาวิธีแนะหาทางให้พ้นทุกข์ ทั้งกายและใจ และต้องนำหลักคำสอนมาใช้ อย่างมีเหตุผล กับ สภาวะ และกาลเวลา "ปลัอวธ.กล่าว
นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า จากการดำเนินงานขับเคลื่อนแผนดังกล่าวที่ผ่านมาพบปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการส่งเสริมศาสนาในประเทศ ได้แก่ การเผยแผ่หลักคำสอนทางศาสนาทำได้ในวงจำกัด มีการบิดเบือนหลักคำสอนและข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา สร้างความเข้าใจผิดต่อหลักคำสอน สร้างความหวาดระแวงซึ่งกันและกันระหว่างศาสนา ขาดหน่วยงานกลางในการตรวจสอบหลักคำสอน และการให้ความสำคัญกับงานศาสนาน้อยเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและสังคมประชาชนไม่มีโอกาสเข้าวัดหรือร่วมกิจกรรม ณ ศาสนสถานต่างๆ นำมา
สำหรับ การรวมพลังจัดทำแผนงานเพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ โดยแบ่งเป็น 5 แนวทาง ประกอบด้วย แนวทางการส่งเสริมด้านการศึกษา การเผยแผ่หลักธรรมที่ถูกต้อง แนวทางอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนา ป้องกันการบ่อนทำลายศาสนา ส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความร่วมมือระหว่างศาสนา และแนวทางสร้างการรับรู้และความเข้าใจในกิจการศาสนา เน้นการส่งเสริมให้คนไทยมีคุณธรรม ทำให้สังคมไทยมีความรักความสามัคคีผ่านความร่วมมือของผู้นำศาสนา และพลังศรัทธาของประชาชน การจัดเสวนาครั้งยังได้รับความร่วมมือจากกรมสรรพากรมาสร้างความรับรู้เกี่ยวกับกระบวนการบริจาคให้ศาสนสถานด้วยระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ และการเผยแผ่ศาสนาในยุคดิจิทัลที่มีส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้และการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องหลักคำสอนที่ถูกต้องและลดความขัดแย้งทางศาสนาลงด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |