“ประยุทธ์” สยบข่าวรอยร้าว 3 ป. กอดพี่ป้อมพร้อมประคองแขนส่งถึงรถ ลั่นไม่จำเป็นต้องเคลียร์เพราะมองหน้าก็รู้ใจกันอย่างดี เตรียมลงพื้นที่มากขึ้น เพราะสถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้น จำเป็นต้องไปติดตามงานและรับฟังปัญหาที่แท้จริง เผย "น้องตู่" พูดเอง "ผมมีวันนี้ได้เพราะพี่ป้อม" ด้าน “น้องรักธรรมนัส” ยันไม่มีไขก๊อกทำงานจนครบวาระ “เพื่อไทย” เอาจริงคณะกรรมการจริยธรรมมีมติขับ 2 ส.ส.พ้นพรรค พ่วงภาคทัณฑ์ 3 ผู้แทนฯ
เมื่อวันจันทร์ที่ 13 กันยายน ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงเป็นที่จับตา หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนมีการปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จากตำแหน่งรัฐมนตรี โดยเมื่อเวลา 12.45 น. หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 3/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยได้กล่าวทักทายว่า สวัสดีจ้า พร้อมยกมือปฏิเสธตอบคำถาม ระบุว่า “ไม่มีตอบการเมือง”
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้สวมชุดข้าราชการที่สั่งตัดมาใหม่ เนื่องจากชุดเก่าหลวมเพราะน้ำหนักลดลง
และในเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่ตึกภักดีบดินทร์ โดยก่อนประชุม ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินเข้ามาในห้องประชุม ได้ยกมือไหว้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่นั่งรออยู่ในห้องก่อนแล้ว พร้อมกล่าวว่า "สวัสดีพี่ป้อม" ซึ่ง พล.อ.ประวิตรรับไหว้และพูดคุยกัน 2-3 นาที โดย พล.อ.ประยุทธ์พูดคุยอารมณ์ดีสลับกับหัวเราะเป็นระยะ ซึ่งทั้งคู่มีสีหน้าเป็นปกติ
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 นี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ 2 ป. ประชุมร่วมกัน
ก่อนการประชุม พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบกระแสข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัสยื่นลาออกจากเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดย พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามพร้อมส่ายหน้า และเมื่อถามว่าหายงอนนายกฯ แล้วหรือไม่ พล.อ.ประวิตรได้ย้อนถามว่า “ใครงอน”
ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ได้หารือนอกรอบกับ พล.อ.ประวิตรประมาณ 10 นาที ก่อนที่เวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนี้ได้เตรียมลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการ เพราะในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งใช้วิธีการพูดโดยตรงผ่านระบบออนไลน์ และสั่งการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ก็ได้มีการเตรียมการไว้ แต่ต้องปลอดภัยของทุกฝ่าย ตนเองก็ไม่อยากป่วย ไม่อยากถูกกักตัว ก็ต้องระมัดระวังให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกคนที่ให้เกียรติ ยินดีที่จะไปเยี่ยม และตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องของน้ำท่วมด้วย แต่เนื่องจากมีภารกิจ จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีบางท่านได้ลงไปในพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ของตัวเองที่ดูแลประชาชนอยู่
“ยืนยันว่ารัฐบาลทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ส.ส.ทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ และได้รับฟังปัญหาจากประชาชนมา รัฐบาลก็ต้องทำงานร่วมกันให้ได้ก็แล้วกัน เรื่องใดที่เป็นเรื่องของการเมือง เรื่องของสภาก็เป็นเรื่องของ ส.ส.ในสภาที่จะว่ากันไป เมื่อสักครู่สื่อมวลชนก็วิ่งไปถามดัก พล.อ.ประวิตรว่าผมเคลียร์กับพี่ป้อมหรือยัง ยืนยันว่าผมไม่จำเป็นต้องเคลียร์ เห็นหน้าก็รู้ใจ ต่างคนต่างรู้ใจซึ่งกันและกัน ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้นในการทำงาน การดำเนินการอะไรก็ตาม ก็ขอให้เป็นไปตามกติกา ตามระบอบประชาธิปไตยของเรา อันไหนที่เป็นอำนาจของนายกฯ ที่ผมสามารถทำได้ ผมก็ทำของผม ซึ่งไม่มีวันที่จะไม่เข้าใจกัน ยืนยันอีกครั้งนะครับ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเตรียมลงพื้นที่มากขึ้น ไม่ใช่เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้เตรียม ต้องการไปดูว่าในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเรากำหนดนโยบายไปแล้ว อนุมัติแผนและโครงการลงไปแล้ว รวมทั้งงบประมาณของรัฐและงบเงินกู้ลงพื้นที่ได้มากน้อยเพียงใด และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ยังขาดตรงไหน ผ่าน ส.ส.ทุกพรรคการเมือง เวลาไปที่ไหนก็ยินดีที่จะพบกับ ส.ส.ทุกพรรคการเมือง และเคยพูดไว้แล้วว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่แยกว่าเป็นพรรคนั้นพรรคนี้ เพราะประชาชนเป็นผู้เลือกท่านเข้ามา ตนเองมีหน้าที่ที่จะสนองต่อประชาชน พวกท่านเป็นกลไกตรงกลาง ตนเองก็ต้องดูแล เพียงแต่ขอทำให้ถูกต้อง
บิ๊กตู่ลั่นกอดพี่ป้อมตั้งแต่เด็ก
เมื่อถามว่า การเมืองก็เป็นเรื่องของการเมืองไป การบริหารก็เป็นเรื่องของนายกฯ หมายความว่ารัฐบาลกับการเมืองจะแยกออกจากกันเลยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้แยก จะแยกกันได้อย่างไร ก็ต้องฟังสภาและก็ตอบนโยบายสนองการเมืองอยู่แล้ว เพราะเวลาที่ตั้งรัฐบาลขึ้นมาก็มีนโยบายจากภาครัฐออกไป ซึ่งก็รับฟังความคิดเห็นมาจาก ส.ส. ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน เสร็จแล้วก็นำมาสู่การขับเคลื่อน ในทางปฏิบัติแยกกันไม่ได้อยู่แล้ว จะแยกกันได้อย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า รวมถึงว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไปนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค พปชร.ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "เอ้ย ยังไม่คิดถึงตรงนั้นหรอก มันยังไม่ถึงอะไร ก็อย่าเพิ่งมาถามดักหน้าดักหลังผม มันไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้นในตอนนี้ เวลาวันนี้ก็ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน"
เมื่อถามว่า เมื่อสักครู่มีภาพปรากฏการทักทายและกอด พล.อ.ประวิตร นายกฯ ตอบว่า "ทำไมผมก็กอดทุกวันนั่นแหละ ตั้งแต่เด็กแล้ว"
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังถูกถามว่าวันนี้ตัดชุดข้าราชการใหม่ว่า "ชุดเก่ามันหลวม ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผอมเพราะนายกฯ เครียดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้เครียด เครียดอะไรเล่า
ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินกลับไปห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า ได้หันมาพูดกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมกล่าวกับสื่อมวลชนว่า "ทำไมไม่ถามเขาว่าจะร่วมมือกับฉันอยู่ต่อไปหรือเปล่า ปัดโธ่” พร้อมกล่าวอีกว่า เอาประชาชนเป็นหลัก ทำตามความต้องการของประชาชน
ทั้งนี้ หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ได้ประคองแขน พล.อ.ประวิตรที่เข้าร่วมประชุมด้วยออกจากตึกภักดีบดินทร์มาส่งถึงรถเพื่อออกจากทำเนียบฯ พร้อมยกมือไหว้ลา โดยสื่อมวลชนสอบถามทั้งคู่ว่าพูดคุยกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ เมื่อส่ง พล.อ.ประวิตรขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่า สบายใจแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “สบายใจทุกวัน สบายใจทุกวันละ” เมื่อถามอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ประวิตรโอเคกันแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เลิกสักที เลิกสักที ฉันกับ พล.อ.ประวิตรนะ เลิกสักที”
เมื่อถามอีกว่า พล.อ.ประวิตรเข้าใจในตัว พล.อ.ประยุทธ์หรือยังในการปลดรัฐมนตรีช่วยว่าการทั้ง 2 คน พล.อ.ประยุทธ์หันกลับมาถามสื่อว่า “ย้ายใคร” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ส่ายหน้าพร้อมหันหลังกลับเดินเข้าตึกภักดีบดินทร์ โบกมือปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร และนายวราวุธ ได้มีการพูดคุยกันต่อที่ห้องรับรองในตึกภักดีบดินทร์ถึงแนวทางการทำงานต่อเนื่องจากผลการประชุม คทช.ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ผู้สื่อข่าวถามถึงบรรยากาศการพูดคุยดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร นายวราวุธเปิดเผยว่า การพูดคุยบรรยากาศเป็นไปด้วยดี พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์มีท่าทีที่เป็นปกติ ยังคงมีกระเซ้าเย้าแหย่กัน ไม่ได้มีท่าทีว่าขัดแย้งกันหรืองอนกันอย่างที่เป็นข่าว
"โดยนายกฯ ยังบอกด้วยว่า ใครว่าเราทะเลาะกัน ไม่มี พวกผมไม่มีทางทะเลาะกัน ผมมีวันนี้ได้เพราะพี่ป้อม มองหน้ากันก็เข้าใจกันแล้ว ขณะที่ พล.อ.ประวิตรก็ยังบอกด้วยว่า นั่นสิ ทำไมคนเอาไปลงว่าผมทะเลาะกับนายกฯ" นายวราวุธกล่าว
ปชป.ยันไม่มีสัญญาณยุบสภา
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณียังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากมีการปลด 2 รัฐมนตรีช่วยจะมีปัญหาหรือไม่ ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหากับรัฐบาล เนื่องจากมีรัฐมนตรีว่าการคอยกำกับดูแลอยู่ เหมือนกับตำแหน่งรองนายกฯ ที่ไม่มีอำนาจอะไรในตัว อำนาจหน้าที่ทั้งหมดเป็นเรื่องที่นายกฯ มอบหมาย เมื่อรองนายกฯ พ้นไป อำนาจก็กลับไปที่นายกฯ เมื่อคราว 4 ยอดกุมารลาออกไปก็ใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะตั้งรัฐมนตรีว่าการฯ ซึ่งยังเคยเป็นรักษาการ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเลย
ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเริ่มลงพื้นที่ของนายกฯ และปัญหาไม่ลงรอยกันในพรรค พปชร.ว่า เป็นเรื่องปกติที่นายกฯ จะลงพื้นที่ ตนเองเป็นรองนายกฯ ก็ลงพื้นที่มาต่อเนื่องโดยตลอด ไม่ได้แปลว่าเมื่อนายกฯ ลงพื้นที่แล้วจะมีการยุบสภา มันคนละเรื่องเดียวกัน นายกฯ แค่ไปดูน้ำท่วม หรือแก้ปัญหาน้ำคงไม่ถึงกับเป็นสัญญาณอะไรที่จะไปบ่งชี้ว่าจะยุบสภาแล้ว
วันเดียวกัน มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ส่งนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯ เข้าร่วมประชุมด้วย นายอนุชาเผยว่า จะเข้ามาทำหน้าที่ประสานการทำงานระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนเป็นผลสืบเนื่องมาจากนายกฯ ต้องการทำงานใกล้ชิด ส.ส.มากขึ้นหรือไม่นั้น ยอมรับว่าถือเป็นงานอีกมิติที่จะทำให้นายกฯ ได้รับทราบข้อเรียกร้องและข้อกังวลต่างๆ ของสมาชิกโดยตรง ซึ่งเดิมมีการทำงานลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้จะมีการรายงานข้อสังเกตต่างๆ ไปยังนายกฯ โดยตรง
ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. กล่าวว่า ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ พล.อ.ประวิตรจะมาเป็นประธานการประชุม ส.ส.พรรค ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตรยังคงทำหน้าที่หัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะมีข่าวลือออกมาอย่างไรก็จะไม่ไปไหน ยืนยันหนักแน่น ส่วน ร.อ.ธรรมนัสยังคงดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ไม่มีใครลาออก สำหรับกระแสปรับโครงสร้างพรรคยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประวิตร
นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรค พปชร. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า พร้อมทำงานให้กับพ่อแม่พี่น้องเหมือนเดิม ยังเหลือเวลายังไม่มีการยุบสภายังทำหน้าที่ในการนำปัญหาให้ได้เพื่อรับการแก้ไขให้ได้และต้องสู้กับโควิด-19 ต่อไป
ทั้งนี้ นายไผ่ถือเป็น ส.ส.น้องรักของ ร.อ.ธรรมนัส ที่มีความใกล้ชิดและได้รับความไว้วางใจอย่างมาก
“ศรัณย์วุฒิ-พรพิมล”ไม่รอด
นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติไทย กล่าวว่า หาก ร.อ.ธรรมนัสอยู่พรรค พปชร.อึดอัดใจ ไม่สบายใจที่จะอยู่ต่อไป อยากเข้ามาทำงานร่วมกับพรรคเพื่อชาติไทย พร้อมจะอ้าแขนรับเสมอ
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมคณะกรรมการจริยธรรมพรรคเพื่อไทย เพื่อพิจารณาเอาผิด 7 ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี โดยหลังการประชุมนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรค พท. ในฐานะเลขาธิการพรรค กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติต่อ 7 ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรคใน 4 แนวทางคือ 1.ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค 2 ราย 2.ภาคทัณฑ์และใช้เป็นเงื่อนไขในการพิจารณาส่งลงสมัคร ส.ส.สมัยหน้า 3 คน 3.ว่ากล่าวตักเตือน 1 คน และ 4.ยังไม่พิจารณาใดๆ ได้ เนื่องจากป่วยอยู่ 1 คน
รายงานข่าวจาก พท.แจ้งว่า ส.ส.ที่มีมติขับออก ได้แก่ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และนางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ส่วน 3 ส.ส.ที่ถูกภาคทัณฑ์ ได้แก่ นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ, นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ และนายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี ขณะที่ ส.ส.ที่ถูกว่ากล่าวตักเตือน 1 คนคือ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี และผู้ที่ยังไม่พิจารณาคือ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก พรรคเพื่อไทย
มีรายงานว่า หากพรรคเพื่อไทยขับออกจริง มีแนวโน้มที่นางพรพิมลอาจจะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปปรากฏตัวร่วมกับ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ขณะที่ศรัณวุฒิ มีแนวโน้มอาจจะไปอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |