สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในยิงทดสอบมิสไซล์ครูซพิสัยไกลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ชี้อาวุธชนิดนี้ไม่อยู่ในข่ายต้องห้ามทดสอบตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคง แต่อันตรายไม่ยิ่งหย่อนกว่าขีปนาวุธ

    รายงานของเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม อ้างรายงานข่าวของสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเปียงยาง ว่ามิสไซล์ที่ทดสอบเมื่อวันเสาร์และอาทิตย์เคลื่อนที่เป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร ในเส้นทางการบินนาน 2 ชั่วโมง รวมถึงการร่อนในรูปแบบเลข 8 อยู่เหนือน่านฟ้าของเกาหลีเหนือ ก่อนจะโจมตีโดนเป้าหมายแล้วตกลงภายในน่านน้ำอาณาเขตของเกาหลีเหนือ

     เคซีเอ็นเอกล่าวว่า มิสไซล์ที่ทดสอบครั้งนี้เป็น "อาวุธทางยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง" และว่าการทดสอบประสบความสำเร็จ และทำให้เกาหลีเหนือมีเครื่องมือป้องปรามที่มีประสิทธิภาพอีกอย่างหนึ่งเพื่อใช้กับกองกำลังที่เป็นศัตรู

    หนังสือพิมพ์โรดองซินมุน กระบอกเสียงของพรรคแรงงานเกาหลี ตีพิมพ์ภาพที่มิสไซล์ลูกหนึ่งถูกปล่อยออกจากท่อ 1 ใน 5 ท่อ ของฐานปล่อยจรวดเคลื่อนที่แบบหลายลำกล้องท่ามกลางเปลวเพลิง และภาพของมิสไซล์ลูกหนึ่งร่อนอยู่ในแนวราบ

    การทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบอาวุธปล่อยครั้งแรกของเกาหลีเหนือนับแต่เดือนมีนาคมที่พวกเขายิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ทางยุทธวิธีรุ่นใหม่ ก่อนหน้านั้นเกาหลีเหนือยิงทดสอบมิสไซล์ครูซลูกหนึ่งล่วงหน้าไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่โจ ไบเดน จะรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปลายเดือนมกราคม

    โดยปกติแล้วมิสไซล์ครูซจะไม่ดึงดูดความสนใจจากนานาชาติเท่ากับขีปนาวุธ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในข้อห้ามตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่นักวิเคราะห์กล่าวกันว่า อาวุธชนิดนี้แสดงถึงความก้าวหน้าที่เด่นชัดของเทคโนโลยีด้านอาวุธของเกาหลีเหนือ มันสามารถหลบหลีกเรดาร์ของระบบป้องกันภัยทางอากาศและโจมตีได้ทั่วทุกพื้นที่ของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น

    ปัก วอนกอน อาจารย์ด้านเกาหลีเหนือศึกษาจากมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา กล่าวกับเอเอฟพีว่า มิสไซล์ชนิดนี้เป็นภัยคุกคามอย่างมาก "หากเกาหลีเหนือย่อขนาดหัวรบนิวเคลียร์ได้เล็กมากพอ ก็สามารถติดหัวรบกับมิสไซล์ครูซได้เช่นกัน" เขากล่าว "มีความเป็นไปได้มากที่จะมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาระบบอาวุธแบบต่างๆ"

    นักวิชาการรายนี้มองว่า การทดสอบครั้งนี้เป็นการตอบโต้การฝึกทหารร่วมระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้เมื่อเดือนที่แล้ว

    หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน มีกำหนดเดินทางเยือนกรุงโซลในวันอังคารนี้เพื่อหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีใต้ ปักกล่าวว่า การที่เกาหลีเหนือเลือกทดสอบมิสไซล์ครูซเพื่อไม่ให้เป็นการยั่วยุจีนและสหรัฐมากเกินไป

    ดูเหมือนว่า คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือไม่ได้มาชมการยิงทดสอบครั้งนี้ด้วย รายงานเคซีเอ็นเอกล่าวว่า ผู้ที่มากำกับการทดสอบครั้งนี้คือ พัก จองชอน หนึ่งในกรมการเมืองของพรรคแรงงานและเลขาธิการคณะกรรมการกลาง

    ในวันอังคาร ผู้แทนเจรจานิวเคลียร์ของสหรัฐ, เกาหลีเหนือ และญี่ปุ่น ก็เตรียมพบกันที่กรุงโตเกียวเพื่อสำรวจหนทางยุติการคุมเชิงกับเกาหลีเหนือ

    กองทัพเกาหลีใต้ ซึ่งปกติจะเป็นหน่วยงานแรกที่ให้ข่าวเกี่ยวกับการทดสอบมิสไซล์ของเกาหลีเหนือ ไม่ได้ออกคำประกาศใดๆ เกี่ยวกับการทดสอบเมื่อสุดสัปดาห์ คำแถลงเมื่อวันจันทร์กล่าวว่า พวกเขากำลังวิเคราะห์รายละเอียดโดยร่วมมือกับสหรัฐ

    ด้านกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของกองทัพสหรัฐ กล่าวว่า การทดสอบของเกาหลีเหนือเน้นให้เห็นว่า เกาหลีเหนือยังคงมุ่งพัฒนาโครงการทางทหารและคุกคามเพื่อนบ้านและประชาคมระหว่างประเทศต่อไป

    คัตสึโนบุ คาโตะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า มิสไซล์ที่มีพิสัย 1,500 กิโลเมตรถือเป็นภัยคุกคามต่อสันติสุขและความมั่นคงของญี่ปุ่นและภูมิภาคโดยรอบ "ญี่ปุ่นมีความกังวลอย่างมาก" เขากล่าว.