13ก.ย.64-จากกรณีนักเรียนหญิงอายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนดังย่านดอนเมือง บุกเดี่ยวจี้ร้านทองภายในห้างบิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ โดยสารภาพหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมาว่าถูกโกงแชร์ออนไลน์ไม่รู้จะหาเงินคืนจากไหนจึงตัดสินใจลงมือจี้ร้านทองในที่สุด นั้น

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเด็กเลือกวิธีการในการหาทางออกที่ผิด สาเหตุคือเด็กไม่ควรคิดไปเล่นแชร์ออนไลน์ตั้งแต่แรก เพราะความอยาก ความโลภจึงนำมาซึ่งการก่อเหตุจี้ร้านทองที่เป็นเรื่องปลายเหตุ อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มาถอดบทเรียนดูว่าเราจะปลูกฝัง หรือฝึกฝนเด็กอย่างไรเพื่อไม่ให้คิด และก้าวไปสู่หนทางที่ผิดเช่นนี้ได้อย่างไร สำหรับการดำเนินการทางกฎหมายก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะคงไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ แต่ในฐานะของคุณครูก็คงไม่ทอดทิ้งลูกศิษย์ ระบบการดูแลก็ต้องเข้าไปช่วยติดตามเพื่อให้คำปรึกษาให้เด็กได้มีที่พึ่ง ที่สำคัญที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เด็กก้าวเข้าไปสู่วงจรที่ผิดพลาดแบบนี้อีก ส่วนเรื่องการเรียนของเด็กนั้น คงไม่ขาดช่วงอะไร แต่อาจจะต้องมีการถ่ายโอนหน่วยกิตไปเรียนในหน่วยงานที่ดูแลเด็กหลังจากนี้ต่อไป

“ในโรงเรียนสังกัดของ สพฐ.มีนักจิตวิทยา มีครูแนะแนว มีครูประจำชั้น มีสมาคมศิษย์เก่า มีรุ่นพี่ และมีผู้ปกครองที่นักเรียนสามารถเข้าไปขอคำปรึกษาได้ เพียงแต่กรณีที่เกิดขึ้นนี้เด็กไม่เลือกที่จะเข้าไปขอคำปรึกษา แต่เลือกที่จะเก็บปัญหาไว้กับตัวเอง เมื่อหาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจทำอะไรในทางที่ผิดในที่สุด ดังนั้น สพฐ.จึงต้องถอดบทเรียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องไปดูว่าวิถีชีวิตของเด็กที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ครอบครัวเป็นอย่างไร อยู่กับใคร และทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาเล่นแชร์ออนไลน์ จากนั้นถึงจะรู้ว่าต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหน และจะได้หาทางป้องกันดูแลเด็กนักเรียนไม่ให้เข้าไปติดกับดักเรื่องแย่ ๆ แบบนี้อีก ขณะเดียวกัน สพฐ.จะกำชับคุณครูให้ช่วยดูแล และใกล้ชิดนักเรียนมากขึ้น เด็กจะได้กล้าเล่าและกล้าที่จะเข้ามาขอคำปรึกษา” เลขาฯ กพฐ. กล่าว