แฟ้มภาพ

13 ก.ย.64 - เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ตอนหนึ่งว่า ในที่ประชุม ศปก.สธ.  ผอ.สำนักกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้นำข้อมูลการเสียชีวิตระหว่างวันที่ 1 เม.ย. – 9 ก.ย. พบว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 13,637 ราย เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ค่าอายุกลางอยู่ที่ 67 ปี อายุน้อยสุด 12 วัน อายุมากสุด 109 ปี เป็นผู้มีโรคประจำตัว 12,239 ราย ไม่มีโรคประจำตัว 1,127 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 21 ราย

หากจำแนกสถานที่เสียชีวิต จากผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ จำนวน 13,637 ราย พบว่าเป็นการเสียชีวิตในสถานพยาบาล 13,067 ราย เสียชีวิตนอกสถานพยาบาล 361 ราย และไม่ระบุ 209 ราย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียชีวิตนอกสถานพยาบาล 361 ราย ในจำนวนนี้เป็นการตรวจพบเชื้อก่อนเสียชีวิต 170 ราย ตรวจพบเชื้อ ณ วันที่เสียชีวิต 86 ราย ตรวจพบเชื้อหลังเสียชีวิต 56 ราย ไม่มีข้อมูล 67 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตนอกสถานพยาบาลพบมากสุดที่ กทม. 113 ราย รองลงมาคือ สมุทรปราการ 39 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีข้อมูลอัตราการเสียชีวิตเทียบกับประวัติการได้รับวัคซีน พบว่า มีผู้เสียชีวิตที่ได้วัคซีนครบ 2 เข็มก่อนวันเริ่มป่วยมากกว่า 2 สัปดาห์ จำนวน 67 ราย ได้รับวัคซีน 2 เข็มก่อนวันเริ่มป่วยน้อยกว่าสองสัปดาห์ จำนวน 40 ราย ได้รับวัคซีน 1 เข็มก่อนวันเริ่มป่วยมากกว่า 2 สัปดาห์ จำนวน 980 ราย ได้รับวัคซีน 1 เข็มก่อนวันเริ่มป่วยน้อยกว่า 2 สัปดาห์ จำนวน 987 ราย

โดยเฉพาะผู้ไม่มีประวัติได้รับวัคซีน จำนวน 11,563 ราย หรือ 84.8% ของผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าการได้รับวัคซีนไม่ใช่ป้องกันการติดโรค แต่เพื่อให้การป่วยหนักและเสียชีวิตลดน้อยลง