19 มิ.ย.61 - พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นำ 8 พลเมืองดี ที่ช่วยเหลือครอบครัวประสบอุบัติเหตุรถไฟลุกท่วม บริเวณใต้สะพานกลับรถเกือกม้า หน้าทางเข้ามูลนิธิสมเด็จพุฒจารย์ (โต พรหมรังสี) ถ.มิตรภาพ ขาเข้าจังหวัดนครราชสีมา เข้าพบนายกฯ ประกอบด้วย 1.นายจักรพันธ์ จักรแก้ว ช่างบริการเครื่องจักรกลหนัก บริษัทอริยะอิควิปเม้นท์ หัวหน้าทีมพี่ช่วยเหลือและดึงผู้ชายออกมาจากรถ 2. นายวัชรินทร์ เลื่อนเป็น ได้ช่วยผู้หญิงที่ขาหักและช่วยผู้ชายคนขับที่ติดในรถ 3. นายอมรเทพ มีมาก นักศึกษาฝึกงานมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา

4. นายบวรพงศ์ พรหมบุตร นักศึกษาฝึกงานมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา ช่วยนายวัชรินทร์ดึงผู้หญิงออกมาจากเปลวเพลิง 5. นายประสิทธิ์ สารบัญ พนักงานขับรถบริษัท ซันกิควอลิตีโปรดัคส์ จ.สมุทรปราการ ผู้ชายที่อุ้มเด็ก 6. นายอุดมเดช ประเสริฐชัยโชคดี เข้าไปช่วยดึงแม่เด็กและถ่ายวีดีทัศน์ 7. น.ส.จรัชญา ขอบกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 อำเภอสีคิ้วจังหวัดนครราชสีมา และ 8. นายวิจิตรสืบสาย พนักงานโรงงานโคราชโอโต้ ผลิตสายไฟรถยนต์ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยทั้ง 8 คน ได้รับโล่ห์ประกาศเกียรติคุณจากสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมของที่ระลึกเป็นเสื้อและสมุดโน๊ต

นายกฯ กล่าวว่า ได้ติดตามข่าว เห็นทุกคนทำความดี โดยไม่ได้คำนึงถึงตนเอง ซึ่งทุกคนมีความตั้งใจที่จะช่วยคนอื่น แม้รู้ว่ามีอันตราย และโชคดีที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะเห็นความร่วมมือของทุกคนในลักษณะนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่นิ่งดูดาย และพร้อมที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นกรณีอุบัติเหตุ หรือช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุกคนต้องมีน้ำใจให้แก่กัน สังคมก็จะดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลก็เน้น การดูแลผู้สูงอายุ  

นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในสังคมไทยประกอบด้วยคนหลายกลุ่ม ดังนั้นทุกคนจะต้องช่วยกันสร้างความเท่าเทียม มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ในส่วนของความเป็นธรรมนั้น ผู้ที่อ่อนแอ ที่ด้อยโอกาส ต้องได้รับการดูแลที่ดีกว่า ซึ่งทั้งหมดรัฐบาลก็ดำเนินการดูแลอยู่ โดยสังคมไทยอย่าละเลยการช่วยเหลือกลุ่มคนด้อยโอกาส   

ทั้งนี้ นายกฯ ได้สอบถามความรู้สึกของ 8 พลเมืองดี ที่ได้เข้าไปช่วยเหลือ โดย 1ในนั้น ยอมรับว่า ทราบว่าจะเกิดอันตราย เนื่องจากมีไฟลุกในห้องเครื่อง และมีน้ำมันเชื้อเพลิง แต่เชื่อว่าจะต้องช่วยเหลือผู้ประสบเหตุให้ได้ โดย นายกฯ ได้แนะให้ไปศึกษาการช่วยชีวิตเบื้องต้น จากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มีความรู้ในการเข้าช่วยเหลือผู้อื่น ทั้งยังย้ำด้วยว่า ขอให้ทุกคนทำดี ทำได้ และทำทันที และเห็นว่าการช่วยเหลือผู้อื่น เป็นวัฒนธรรมในสังคมไทย ที่ชอบช่วยเหลือกัน ดังนั้น จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันและดูแลกันตลอดไป เป็นการทำความดี ให้สังคม และถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10  ซึ่งจะมีวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.นี้