ยกผลลัพธ์'แซนด์บอกซ์'บวกหลายปัจจัย ฟันธงไม่ปลอดภัยให้เปิดประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

13 ก.ย. 64 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สถานการณ์ทั่วโลก 13 กันยายน 2564... เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 369,974 คน รวมแล้วตอนนี้ 225,445,439 คน ตายเพิ่มอีก 5,782 คน ยอดตายรวม 4,643,530 คน

5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร ฟิลิปปินส์ และตุรกี  

อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 35,450 คน รวม 41,853,362 คน ตายเพิ่ม 251 คน ยอดเสียชีวิตรวม 677,988 คน อัตราตาย 1.6% 

อินเดีย ติดเพิ่ม 31,374 คน รวม 33,263,542 คน ตายเพิ่ม 219 คน ยอดเสียชีวิตรวม 442,907 คน อัตราตาย 1.3% บราซิล ติดเพิ่ม 10,615 คน รวม 20,999,779 คน ตายเพิ่ม 261 คน ยอดเสียชีวิตรวม 586,851 คน อัตราตาย 2.8% สหราชอาณาจักร ติดเพิ่ม 29,173 คน ยอดรวม 7,226,276 คน ตายเพิ่ม 56 คน ยอดเสียชีวิตรวม 134,200 คน อัตราตาย 1.9% รัสเซีย ติดเพิ่ม 18,554 คน รวม 7,140,070 คน ตายเพิ่ม 788 คน ยอดเสียชีวิตรวม 192,749 คน อัตราตาย 2.7% 

อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิหร่าน อาร์เจนติน่า และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 92.41 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง 

ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และะเวียดนาม ติดเพิ่มกันหลักหมื่น ส่วนญี่ปุ่น เมียนมา อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ไต้หวัน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกงติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

...ภาพรวมของทั่วโลกนั้นดูดีขึ้น หากเปรียบเทียบระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมา กับสัปดาห์ก่อนหน้า พบว่าจำนวนการติดเชื้อใหม่ของทั่วโลกลดลง 11% และจำนวนการเสียชีวิตลดลง 9%

เพื่อนบ้านใกล้เคียงไทยคือ สิงคโปร์ นั้นน่าจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะประกาศนโยบายจะใช้ชีวิตร่วมกับโรคโควิด-19 แต่ปรากฏว่าตอนนี้กำลังประสบกับการระบาดซ้ำที่หนักขึ้นอย่างชัดเจน ล่าสุดจำนวนติดเชื้อรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า คงต้องติดตามดูกันต่อไป

...สถานการณ์ของไทยเรา จำนวนติดเชื้อใหม่เมื่อวานนี้ก็ยังเป็น Top ten สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเพิ่มนั้นยังสูงเช่นกัน เป็นอันดับ 11

...กล่องทราย ผลลัพธ์จากนโยบายกล่องทรายพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ทั้งพื้นที่กล่องทราย และ 7+7 สิ่งที่เห็น ไม่ใช่การลองก่อปราสาททราย แล้วเกลี่ยใหม่ สร้างใหม่จนพอใจได้

แต่จะเป็นการเทน้ำมันดิบลงไปที่ทรายในกล่อง "ปัจจัยเปิดประเทศ...ที่ฟังไม่ขึ้น" จำนวนติดเชื้อไม่มาก ระบบสาสุขรองรับได้ วัคซีนครอบคลุม และพฤติกรรมป้องกันของประชาชน

จำนวนติดเชื้อไม่มากแค่ไหน...แต่เห็นจากบทเรียนที่ผ่านมาแล้วว่าเริ่มจากหลักร้อยหลักสิบก็ระบาดจนขยายวงแล้วคุมไม่อยู่แบบที่เห็นในช่วงรอบเกือบปีที่ผ่านมา

ระบบสาสุขรองรับได้...เคยถามไหมว่าบุคลากรทางการแพทย์ทั้งประเทศคิดเห็นอย่างไร ด้วยทรัพยากรคนเงินของหยูกยาและวัคซีนที่มี 

วัคซีนครอบคลุม...ด้วยชนิด ปริมาณ และประสิทธิภาพ ประชาชนที่ติดตามข้อมูลเชิงลึกย่อมทราบดีว่าสถานการณ์เป็นเช่นไร และมั่นใจหรือไม่

ส่วนสุดท้าย พฤติกรรมป้องกันตัวของประชาชน ทำกันเต็มที่มาตลอด แต่หนักหนาสาหัสตลอดมานั้นเพราะอะไรกันแน่

ขอให้ถามใจตนเองให้ดีว่าวิกฤติที่เกิดขึ้นนั้น ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไร และเหตุใดจึงมีผลลัพธ์ที่ช่างแตกต่างจากประเทศอื่นที่เผชิญการระบาดเช่นกัน เพื่อนำมาเป็นบทเรียนในการจัดการนโยบายให้ดีขึ้น

ฟันธงว่า สถานการณ์หลักหมื่นต่อวัน โดยมีข้อจำกัดในระบบสนับสนุนต่างๆ ทั้งเรื่องศักยภาพของระบบการตรวจคัดกรองโรค  ระบบการดูแลรักษา หยูกยา วัคซีน รวมถึงบทเรียนที่สะท้อนให้เห็นแล้วว่ากิจกรรมกิจการเสี่ยงต่างๆ ในพื้นที่ทดลองนั้นจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ปลอดภัยกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  ดังนั้นสถานการณ์ที่เห็นจึงไม่ปลอดภัยในการเปิดประเทศอย่างแน่นอน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"